เพลงวาน : โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)

24 มีนาคม พ.ศ. 2562
เป็นอีกหนึ่งวันเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
อย่างไรก็ดีหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไป ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้าน หรือเกิดปัญหาติดหล่ม เดดล็อก งานนี้คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด
ส่วนประเทศไทยหลังจากนี้จะดีขึ้น แย่ลง หรือย่ำอยู่กับที่ อีกไม่นานเราคงได้รู้กัน เพราะรู้กันอยู่ว่า “นักการเมือง” บางคนในบ้านเรานั้นไม่ได้เข้ามาทำเพื่อชาติเพื่อประชาชน หากแต่เข้ามาเพื่อกอบโกย แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก (ใครที่ลงเลือกตั้งผมถือเป็นนักการเมืองหมด ไม่ว่าจะเป็น ลุง ตี๋ พี่ เจ๊ และ ไอ้)
นี่ถือเป็นอีกหนึ่ง “รูรั่ว” ขนาดใหญ่ของประชาธิปไตยในบ้านเรา ซึ่งมันทำให้ผมอดนึกถึงเพลง “ประชาธิปไตย” ของวงหัวควาย “คาราบาว” ขึ้นมาไม่ได้
เพลงประชาธิปไตย อยู่ในอัลบั้ม “ประชาธิปไตย” ผลงานเพลงลำดับที่ 7 ของวงคาราบาว
อัลบั้มนี้ออกจำหน่ายในเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2529 ทำขึ้นมาตามกระแสการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ร้อนแรงในยุคนั้น (และก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเรื่อย ๆ หากบ้านเมืองเรายังเป็นแบบนี้อยู่)
ปกของอัลบั้มชุดนี้เป็นภาพวาดหม้อข้าวตั้งอยู่บนเตาแบบจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเพลง “เจ้าตาก” อีกหนึ่งผลงานเพลงชื่อดังของคาราบาว และเป็นเพลงเอกของอัลบั้มชุดนี้
ขณะที่ผลงานเพลงทั้งหมดไล่เรียงไปตามลำดับนั้น ได้แก่ ตาตี๋, ประชาธิปไตย, ผู้ทน, เจ้าตาก, พ่อ, ถึกควายทุย ภาค 7, วันเด็ก, มหาจำลอง รุ่น 7, มรดกเฮงซวย และ ค.ควาย ค.คน
อัลบั้มประชาธิปไตย เป็นอีกหนึ่งผลงานเพลงของคาราบาวที่มีเพลงการเมืองเข้มข้น นำโดยเพลง “ประชาธิปไตย”, “มหาจำลอง รุ่น 7” ที่แต่งชื่นชม พลตรีจำลอง ศรีเมือง และ “ผู้ทน” ที่เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่โดนแบน
ผู้ทน เป็นเพลงที่น้าแอ๊ด คาราบาว (ยืนยง โอภากุล) สะท้อนเรื่องราวของผู้แทนในบ้านเราได้เป็นอย่างดี ใช้ภาษาเรียบง่ายแต่ชัดเจน ชนิดที่ฟังแล้วแสลงใจนักการเมืองหลาย ๆ คนในบ้านเรา อย่างกับท่อนเนื้อร้องที่ร้องว่า
“แลมาแลดูกัน ว่าท่านผู้แทนเขาจะเฮ็ดอีหยัง แลมาแลดูกัน ว่าท่านผู้แทนเขาจะโซ้ยอีหยัง อย่างคำคุยคำหาเสียง เฮามาคอยดู ว่าเขาจะเบี่ยงบ่ายไหม ยุบหนอพองหนอเมืองไทย เฮาเลือกแบบไหน เฮาก็จะได้แบบนั้น”
นอกจากนี้ก็ยังพูดถึงคนดี ๆ ที่ต้องการมาเป็นผู้แทนทำเพื่อประเทศชาติประชาชน แต่เมื่อไม่มีเงินจะแจก ไม่มีเงินซื้อเสียง ชาวบ้านไม่เลือก ไม่สามารถเข้าสภาได้ ก็ต้องกลายเป็น “ผู้ทน” ไปตามระเบียบ
ส่วนเพลงประชาธิปไตยที่เป็นหนึ่งในเพลงนำของอัลบั้มชุดนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่สะทกสะท้อนความเป็นประชาธิปไตยในบ้านเราได้อย่างโดนใจ ชัดเจน เพราะที่ผ่านมานักการเมืองบ้านเรามีแต่รวยเอา รวยเอา แต่ประชาชนจำนวนมากก็ยังคงมีสภาพเป็นเช่นนี้ ดังบทเพลงที่ร้องว่า
“ประชาชนชาวไทย ชนชาวไทยเอ๋ย ชีวิตท่านเป็นอย่างงี้นี่เอง โอ้โฮตกงาน โอ้โฮยากจน ย่ำแย่เลย ย่ำแย่เลย จน ย่ำแย่เลย จน ย่ำแย่เลย.”
นอกจากนี้คาราบาวยังพูดถึงประชาธิปไตยแบบไทยในยุคนั้นผ่านบทเพลงดังกล่าว ว่า มีรูรั่วขนาดใหญ่ เป็นรูเบ้อเร่อเลย ดังท่อนที่ร้องว่า
“รูรั่วเราต้องอุดรูรั่วไหล ถ้าอยากเห็นเมืองไทยพัฒนาขึ้น
อย่างผู้นำต้องมาจากการเลือกตั้ง ใครอยากเป็นบ้าง ยกมือขึ้น
ให้ประชา ชนมีสิทธิ์ออกเสียง ผู้มากุมบังเหียนชีวิต ประชาชน
จะปกครอง ระบอบประชาธิปไตย จะเล่นแบบไทยๆ หรือระบบสากล
ก็เลือกเอา”
และนี่ก็คือบทเพลงประชาธิปไตยที่วงคาราบาวร้องมาตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงความเป็นจริงและคงความทันสมัยอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะประชาธิปไตยในบ้านเราก็ยังคงมีรูรั่วรู้เบ้อเร่อให้คนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกันอุดรูรั่วกันต่อไป
ส่วนบรรดาเหล่านักการเมืองทั้งหลายนั้น หลังจากการเลือกตั้งครั้งนี้ พวกเขาจะเข้ามาช่วยกันอุดรอยรั่ว หรือจะขยายรูรั่วให้มันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นรอยแตกแยกจนยากจะเยียวยา
เพราะที่ผ่านมานักการเมืองบางคนในบ้านเรา มุ่งหน้าแต่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้ตัวเองและพวกพ้อง มุ่งที่จะเข้ามาโกงกิน มาหาผลประโยชน์ส่วนตนผ่านการเลือกตั้งเสียมากกว่า
งานนี้ก็ต้องรอดูว่านักการเมืองบ้านเราจะมีความจริงใจในการทำเพื่อประชาชน ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองมากน้อยแค่ไหน
24 มีนาคม พ.ศ. 2562
เป็นอีกหนึ่งวันเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
อย่างไรก็ดีหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไป ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้าน หรือเกิดปัญหาติดหล่ม เดดล็อก งานนี้คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด
ส่วนประเทศไทยหลังจากนี้จะดีขึ้น แย่ลง หรือย่ำอยู่กับที่ อีกไม่นานเราคงได้รู้กัน เพราะรู้กันอยู่ว่า “นักการเมือง” บางคนในบ้านเรานั้นไม่ได้เข้ามาทำเพื่อชาติเพื่อประชาชน หากแต่เข้ามาเพื่อกอบโกย แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก (ใครที่ลงเลือกตั้งผมถือเป็นนักการเมืองหมด ไม่ว่าจะเป็น ลุง ตี๋ พี่ เจ๊ และ ไอ้)
นี่ถือเป็นอีกหนึ่ง “รูรั่ว” ขนาดใหญ่ของประชาธิปไตยในบ้านเรา ซึ่งมันทำให้ผมอดนึกถึงเพลง “ประชาธิปไตย” ของวงหัวควาย “คาราบาว” ขึ้นมาไม่ได้
เพลงประชาธิปไตย อยู่ในอัลบั้ม “ประชาธิปไตย” ผลงานเพลงลำดับที่ 7 ของวงคาราบาว
อัลบั้มนี้ออกจำหน่ายในเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2529 ทำขึ้นมาตามกระแสการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ร้อนแรงในยุคนั้น (และก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเรื่อย ๆ หากบ้านเมืองเรายังเป็นแบบนี้อยู่)
ปกของอัลบั้มชุดนี้เป็นภาพวาดหม้อข้าวตั้งอยู่บนเตาแบบจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเพลง “เจ้าตาก” อีกหนึ่งผลงานเพลงชื่อดังของคาราบาว และเป็นเพลงเอกของอัลบั้มชุดนี้
ขณะที่ผลงานเพลงทั้งหมดไล่เรียงไปตามลำดับนั้น ได้แก่ ตาตี๋, ประชาธิปไตย, ผู้ทน, เจ้าตาก, พ่อ, ถึกควายทุย ภาค 7, วันเด็ก, มหาจำลอง รุ่น 7, มรดกเฮงซวย และ ค.ควาย ค.คน
อัลบั้มประชาธิปไตย เป็นอีกหนึ่งผลงานเพลงของคาราบาวที่มีเพลงการเมืองเข้มข้น นำโดยเพลง “ประชาธิปไตย”, “มหาจำลอง รุ่น 7” ที่แต่งชื่นชม พลตรีจำลอง ศรีเมือง และ “ผู้ทน” ที่เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่โดนแบน
ผู้ทน เป็นเพลงที่น้าแอ๊ด คาราบาว (ยืนยง โอภากุล) สะท้อนเรื่องราวของผู้แทนในบ้านเราได้เป็นอย่างดี ใช้ภาษาเรียบง่ายแต่ชัดเจน ชนิดที่ฟังแล้วแสลงใจนักการเมืองหลาย ๆ คนในบ้านเรา อย่างกับท่อนเนื้อร้องที่ร้องว่า
“แลมาแลดูกัน ว่าท่านผู้แทนเขาจะเฮ็ดอีหยัง แลมาแลดูกัน ว่าท่านผู้แทนเขาจะโซ้ยอีหยัง อย่างคำคุยคำหาเสียง เฮามาคอยดู ว่าเขาจะเบี่ยงบ่ายไหม ยุบหนอพองหนอเมืองไทย เฮาเลือกแบบไหน เฮาก็จะได้แบบนั้น”
นอกจากนี้ก็ยังพูดถึงคนดี ๆ ที่ต้องการมาเป็นผู้แทนทำเพื่อประเทศชาติประชาชน แต่เมื่อไม่มีเงินจะแจก ไม่มีเงินซื้อเสียง ชาวบ้านไม่เลือก ไม่สามารถเข้าสภาได้ ก็ต้องกลายเป็น “ผู้ทน” ไปตามระเบียบ
ส่วนเพลงประชาธิปไตยที่เป็นหนึ่งในเพลงนำของอัลบั้มชุดนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่สะทกสะท้อนความเป็นประชาธิปไตยในบ้านเราได้อย่างโดนใจ ชัดเจน เพราะที่ผ่านมานักการเมืองบ้านเรามีแต่รวยเอา รวยเอา แต่ประชาชนจำนวนมากก็ยังคงมีสภาพเป็นเช่นนี้ ดังบทเพลงที่ร้องว่า
“ประชาชนชาวไทย ชนชาวไทยเอ๋ย ชีวิตท่านเป็นอย่างงี้นี่เอง โอ้โฮตกงาน โอ้โฮยากจน ย่ำแย่เลย ย่ำแย่เลย จน ย่ำแย่เลย จน ย่ำแย่เลย.”
นอกจากนี้คาราบาวยังพูดถึงประชาธิปไตยแบบไทยในยุคนั้นผ่านบทเพลงดังกล่าว ว่า มีรูรั่วขนาดใหญ่ เป็นรูเบ้อเร่อเลย ดังท่อนที่ร้องว่า
“รูรั่วเราต้องอุดรูรั่วไหล ถ้าอยากเห็นเมืองไทยพัฒนาขึ้น
อย่างผู้นำต้องมาจากการเลือกตั้ง ใครอยากเป็นบ้าง ยกมือขึ้น
ให้ประชา ชนมีสิทธิ์ออกเสียง ผู้มากุมบังเหียนชีวิต ประชาชน
จะปกครอง ระบอบประชาธิปไตย จะเล่นแบบไทยๆ หรือระบบสากล
ก็เลือกเอา”
และนี่ก็คือบทเพลงประชาธิปไตยที่วงคาราบาวร้องมาตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงความเป็นจริงและคงความทันสมัยอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะประชาธิปไตยในบ้านเราก็ยังคงมีรูรั่วรู้เบ้อเร่อให้คนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกันอุดรูรั่วกันต่อไป
ส่วนบรรดาเหล่านักการเมืองทั้งหลายนั้น หลังจากการเลือกตั้งครั้งนี้ พวกเขาจะเข้ามาช่วยกันอุดรอยรั่ว หรือจะขยายรูรั่วให้มันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นรอยแตกแยกจนยากจะเยียวยา
เพราะที่ผ่านมานักการเมืองบางคนในบ้านเรา มุ่งหน้าแต่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้ตัวเองและพวกพ้อง มุ่งที่จะเข้ามาโกงกิน มาหาผลประโยชน์ส่วนตนผ่านการเลือกตั้งเสียมากกว่า
งานนี้ก็ต้องรอดูว่านักการเมืองบ้านเราจะมีความจริงใจในการทำเพื่อประชาชน ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองมากน้อยแค่ไหน