“เต้ย พงศกร" แจงหายหน้าไม่เข้าร่วมงานบอลช่อง 3 เพราะเลือกไปทำตามความฝันคือวิ่งมาราธอนระดับโลกครั้งแรกในชีวิต ลั่นขออนุญาตผู้ใหญ่ทุกคนแล้ว ยันไม่คิดไปไหน อยู่ช่อง 3 เหมือนเดิมเพราะอบอุ่นและดูแลตนดีเหมือนลูก ส่วนเรื่องหัวใจขอพัก โฟกัสกับงาน
เล่นเอาแฟนคลับแอบหวั่นไหว เมื่อไม่เห็นหนุ่ม “เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์” มาร่วมงานบอลช่อง 3 ในปีนี้ แต่เจ้าตัวกลับไปวิ่งมาราธอนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้โอกาสเจ้าตัวเลยขอออกมาชี้แจงว่าปีนี้ขออนุญาตผู้ใหญ่ไปทำตามความฝัน คือการวิ่งมาราธอนระดับโลกสนามแรกในชีวิตตัวเองก่อนปีหน้าเจอกันแน่นอน
“ผมไปร่วมงานกับทาง asics ในสัญญาของทาง asics ผมต้องไปงานอีเวนต์เปิดตัวร้องเท้าใหม่ของทาง asics และต้องไปร่วมวิ่งที่โตเกียวมาราธอน ซึ่งเป็นรายการเมเจอร์รายการแรกของผม เป็นเมเจอร์ที่ยิ่งใหญ่มากของโตเกียว ก็ยินดีที่ได้ไปร่วมงาน"
"และผมก็เสียใจเหมือนกันที่ไม่ได้ไปร่วมงานบอลปีนี้ หลายคนก็เสียใจเหมือนกันที่ผมไม่ได้ไปร่วมงานบอลปีนี้ เอาไว้ปีหน้าแล้วกัน ปีนี้ผมอยากจะทำตามความฝันของผมอีกอย่างนึงเหมือนกัน นั่นก็คือการไปวิ่งในรายการนี้ ก็คือโตเกียวมาราธอน เป็นการวิ่งมาราธอนเมเจอร์ที่ใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของผม ซึ่งเป็น 1 ใน 6 สนามระดับโลก ผมเองฝันอยากจะไปวิ่งให้ครบ 6 สนามเลย"
"ก็จะหาเวลาและโอกาส เพราะสนามที่เหลืออยู่ฝั่งยุโรปหมดเลย ใครไปครบ 6 สนามและวิ่งจนจบจะได้เหรียญพิเศษอีกเหรียญนึง ได้สลักชื่อลงในรายการด้วย ถือเป็นเป้าหมายอีกอย่างนึงในชีวิต เป็นเป้าหมายที่จะทำในสิ่งที่เรารัก พอทำได้แล้วมันมีความสุขมากนะ มันมีคุณค่าต่อจิตใจเรา ใครที่เคยวิ่งจะรู้ว่ามาราธอนมันไม่ใช่ง่ายๆ ถ้าเราไม่ฝึกซ้อม ฝึกฝน มีวินัยกับมัน”
“ไปวิ่งก็ไปเจอพี่ก้อย (รัชวิน วงศ์วิริยะ) พี่ตูน (อาทิวราห์ คงมาลัย) มาด้วย ดีใจครับ พี่ตูนก็ให้กำลังใจ พี่ตูนก็เป็นไอดอลของผมในเรื่องของการวิ่ง 3 ปีแล้วที่ผมสนใจเรื่องการวิ่ง เรียกได้ว่ารักเลยดีกว่า เป็นสิ่งนึงที่ให้อะไรกับเราเยอะเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสมาธิ การทำความรู้จักร่างกายตัวเอง ที่ผ่านมาผมก็วิ่งอยู่เรื่อยๆ นะครับ วิ่งการกุศลหารายได้ต่างๆ ผมก็ไป"
"ตอนแรกๆ ที่ผมวิ่ง ผมใช้หูฟัง แต่หลังๆ ผมถอดหูฟังแล้วมาฟังเสียงร่างกายตัวเอง คุยกับร่างกายตัวเอง ไหวมั้ย มีอะไรเจ็บ คุยกับร่างกายตัวเอง มีสมาธิอยู่กับลมหายใจของตัวเอง พอถึงจุดนึงเราจะไม่เห็นสิ่งรอบข้างเลยนะ เราจะเห็นแค่ตัวเราเอง อยู่กับตัวเองไปเรื่อยๆ อย่างวิ่งครั้งนี้ผมเตรียมตัวประมาณ 3 เดือนได้ครับ ทาง asics เขาก็ส่งโค้ชมาดูแลผมด้วย เขาก็เทรนด์ออนไลน์ คุยกันแล้วก็ทำโปรแกรมให้ผม ก็ต้องทำตารางซ้อมให้เข้ากับตารางงานของผมด้วย เรื่องของการแบ่งเวลาฝึกซ้อมนี่เราต้องมีวินัยมากเลย ผมจะอาศัยช่วงเช้า ก็จะตื่นเช้ากว่าปกติหน่อย ตื่นตี4 มาวิ่งก่อนไปทำงาน”
ลั่นยังไม่คิดไปไหน อยู่ช่อง 3 เหมือนเดิม โวที่นี่ดูแลตนดีทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ
“อยู่ช่อง 3 เหมือนเดิมนี่แหละครับ รักช่อง 3 เหมือนเดิมไม่ไปไหนหรอก แค่ปีนี้ไม่ได้เตะบอลเอง ไว้ปีหน้าก็เจอกันแล้ว ไม่ไปไหนแน่นอน แค่แฟนคลับนึกถึงผมแค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับ คอยติดตามผลงานชองผมต่อที่ช่อง 3 ได้ ไม่มีอะไรไม่ดีครับ ร่วมงานกับช่อง 3 ไม่มีอะไรไม่ดี ผมเองขออนุญาตผู้ใหญ่ว่าจะไปงานนี้มาตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้ว ตอนปีใหม่เราก็มีโอกาสได้ไปสวัสดีผู้ใหญ่ทางช่อง ก็บอกล่วงหน้าไว้เลยว่าผมติดสัญญากับทาง asics ผมจำเป็นต้องไปจริงๆ"
"งานนี้ ทาง asics เขาก็รักผมดูแลผมดีเหมือนกัน ช่อง 3 ก็ดูผลผมดีเหมือนกัน แต่ผมต้องทำตามสัญญาจริงๆ ผมเลยจำเป็นต้องไป แล้วมันก็เป็นสิ่งที่ผมรักด้วย ผู้ใหญ่ก็เข้าใจ ท่านก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร ทุกท่านก็เอ็นดูเรา ให้เราไปครับ แล้วผมเองเซ็นสัญญากับทางพี่หน่อง (อรุโณชา ภาณุพันธ์) ครับ ยังเหลือสัญญาอีกเยอะเลย อยู่กับพี่หน่องก็แฮปปี้ครับ พี่หน่องดูแลผมเหมือนลูกอีกคนนึงเลย พี่หน่องและทีมงานทุกคนน่ารักกับผม (คิดอยากจะอิสระมั้ย?) อะไรที่มันอบอุ่นอยู่แล้วผมก็ไม่ไปไหนหรอกครับ เราอยู่แล้วเราก็สบายใจด้วย ตอนนี้มีละคร 2 เรื่อง เดี่ยวก็ได้ทำงาน 7 วันแล้วครับ”
ส่วนเรื่องหัวใจนั้นขอพักแล้วไปโฟกัสกับเรื่องงานก่อน
“ก็ยังโสดเหมือนเดิมครับ ยังไม่มีใครเข้ามา ตอนนี้ขอทำงานก่อน ยังพักเรื่องนี้ไว้ก่อน ไม่ได้เลือกเยอะแต่อยากทำงาน เราเองก็ต้องการกำลังใจในการทำงานนะ ก็ได้กำลังใจจากแฟนคลับ กำลังใจจากครอบครัว ถามว่ารักที่ไม่สมหวัง ทำให้ผมไม่อยากมีความรักหรือเปล่า มันก็ไม่ได้ผิดหวังหรอกครับ มันไปด้วยกันไม่ได้ หลายคู่ผมว่าทุกคนก็น่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ ชีวิตมันก็ต้องโกออนไปเรื่อยๆ การทำงานก็เหมือนกัน ถ้าเราไม่ล้มไม่ผิดพลาด เราก็ไม่รู้ถึงหนทางสู่ชัยชนะมันไปยังไง ตอนนี้เลยขอทำงานไปก่อนแหละ แต่งงานก็ 30 กว่าขึ้นไปแหละ”
