xs
xsm
sm
md
lg

"ก็อต" ท้อและหดหู่ ผ่านมา 2 สัปดาห์แล้ว พ่ออยู่ไอซียูยังไม่ฟื้น หวังพึ่งปาฏิหาริย์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"ก็อต อิทธิพันธ์" ยอมรับทั้งท้อและหดหู่ พ่อหัวใจหยุดเต้นเข้าไอซียูอาการยังทรงๆ ไม่ดีขึ้น ลั่นยังเชื่อในปาฏิหาริย์ จะดูแลให้สุดทาง ห่วงแม่มากที่สุด เผยค่าใช้จ่ายเยอะ ต้องประหยัด

หลังจากที่คุณพ่อ "ก็อต อิทธิพันธ์ ฐานิตย์" เกิดอาการชักและหัวใจหยุดเต้นกลางโรงภาพยนตร์ ถุกนำตัวส่งรพ. และยังต้องอยู่ในห้องไอซียูตลอด ล่าสุดผู้สื่อข่าวเจอตัวหนุ่มก็อต เจ้าตัวก็เผยว่าอาการพ่อยังทรงๆ ยังมั่นใจว่าต้องมีปาฏิหาริย์

“ต้องบอกตามตรงว่า อาการยังทรงๆ อยู่ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ก็หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ครับ ตอนแรกที่ทราบอาการ คุณหมอก็คอยบอก อัปเดตอยู่ตลอด แต่ว่าเราเองก็ยังเชื่อในปาฏิหาริย์ ซึ่งจริงๆ เขาบอกว่าอาการคุณพ่อค่อนข้างหนักเลย”

"ถามว่ามีสัญญาณดีขึ้นบ้างมั้ย ส่วนใหญ่เราไปเฝ้าแล้วเราเห็นเองมากกว่า ว่าคุณพ่อมีขยับเปลือกตาบ้าง มีน้ำตาไหลบ้าง ซึ่งตรงนี้เราไม่ทราบว่าเป็นสัญญาณที่ดี หรือเป็นระบบปกติของร่างกาย ยังตอบไม่ได้แน่ชัดว่าคุณพ่อดีขึ้นมั้ย"

จะดูแลให้สุดทาง ยอมรับผลลัพธ์ที่ตามมา
“ตอนแรกคิดแค่ว่า 3 วันพ่อคงฟื้น แต่จะดูแลไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ไม่ได้กำหนดว่า 2 สัปดาห์จะฟื้นมั้ย เดือนหนึ่งจะฟื้นมั้ย คงดูแลไปจนสุดทาง สุดท้ายถ้าผลลัพธ์จะออกมายังไง ก็คงยอมรับผลที่ตามมา

“เวลาเห็นภาพนั้นค่อนข้างท้อ หดหู่ เห็นคุณพ่อจะคิดกับตัวเองตลอดว่าทำไมเราถึงทำอะไรไม่ได้เลย แต่พอมาคิดอีกที เราก็ดูแลเขาอย่างเต็มที่แล้ว สุดท้ายก็อยู่ที่คุณพ่อว่าจะสู้สุดทางมากแค่ไหน เวลาไปเยี่ยม เข้าไปหาเขา พ่อตื่นขึ้นมาสู้ ๆ ทุกวันนี้เอาใจช่วย เยี่ยมพ่อเสร็จมีเวลาว่างก็ไปทำบุญให้เขา อยากให้เขาฟื้นมาเร็วๆ”

ห่วงแม่หนักที่สุุด
“ผมก็ให้กำลังใจคุณแม่ คนที่หนักที่สุดน่าจะคุณแม่ ก็ให้กำลังใจเขา เดี๋ยวคุณพ่อก็ฟื้น อยู่กับหมอแล้ว จริง ๆ ก็เศร้า แต่ว่าเราเองต้องก้าวต่อไป มีงานค้างต้องทำ มีความเศร้าแต่งานต้องทำ เรายังมีครอบครัวต้องดูแล แม่ น้อง อาการค่อนข้างหนักเหมือนกัน ดูแลเต็มที่ ไปทำงานก็โทร.หาตลอด เยี่ยมพ่อเป็นไงบ้าง อาการพ่อโอเคขึ้นมั้ย"

ชีวิตเปลี่ยนไม่เยอะ แต่ไม่ชิน
“เปลี่ยนไม่เยอะในเรื่องการใช้ชีวิต แต่คนสำคัญในครอบครัวล้มป่วย มีการปรับตัวบ้าง ไม่ชิน เมื่อก่อนอยู่กัน 4 คน ไปไหนมาไหนทำงาน พ่อแม่ไปกองไปเฝ้า ตอนนี้แม่ก็ไม่ได้มา แม่ไปเฝ้าพ่อ ผมไปทำงานคนเดียวก็เหนื่อยหน่อย เรื่องพาคุณพ่อไปดูแลที่บ้าน คุณหมอบอกว่าถ้าคุณพ่ออาการดีขึ้นก็จะให้กลับมาที่บ้าน แต่ตอนนี้คุณพ่อยังอาการทรง ๆ ยังต้องอยู่ในมือคุณหมอ หมอจะตรวจอย่างใกล้ชิด บอกไม่ได้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง คุณพ่อยังไม่ฟิ้น ดูเป็นรายวัน เฝ้าอย่างใกล้ชิด”

“ตั้งแต่ผมเริ่มทำงาน ก็บอกคุณพ่อไม่ต้องทำงาน ก็ 2 ปีแล้วที่คุณพ่อไม่ได้ทำงาน เราเองทำงานตลอด ถามว่ารู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ก็ไม่ได้มาก เราทำงานมาตั้งแต่ต้น เราดูแลครอบครัวมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ ๆ ก็ปีสองปีแล้ว พอพ่อป่วย เรื่องค่าใช้จ่ายเราก็ดู เพียงแต่ต้องโฟกัสมากขึ้นว่าต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง ส่วนใหญ่ก็เป็นเดือน หนักมั้ยก็ไม่หนัก ประหยัดเอา อยากให้คุณพ่อฟื้นกลับมาเหมือนเดิมมากกว่า เป็นความรู้สึกมากกว่าให้มันดีขึ้น”

ไม่ได้รับงานเยอะขึ้น แต่เลือกที่จะประหยัด
“ไม่ได้ขนาดนั้น เรามีงานที่ทำค้างไว้อยู่ แต่ถ้ามีงานมามากกว่าปกติก็พร้อมสู้ โดยปกติก็เป็นคนประหยัดอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ก็ประหยัดมากขึ้น เราอาจจะต้องคิดมากขึ้นว่าจะต้องใช้จ่ายอะไร เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก ช่วงนี้ไม่ได้เจอใครเท่าไร ส่วนใหญ่ทำงานก็เหนื่อยมาก พักอย่างเดียว ไม่ได้ออกไปเจอใคร”

เผยค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่โชคดีมีประกันช่วย ซึ้งน้ำใจคนบันเทิงคอยช่วยเหลือ
“ตอนแรกค่อนข้างสูง ไม่บอกจำนวนแต่สูงมาก ก็เป็นเรื่องค่อนข้างหนัก แต่โชคดีเหมือนคุณพ่อมีประกันของเขา เลยช่วยเหลือได้เยอะ ตอนคุณพ่อเข้าโรงพยาบาลใหม่ ๆ เข้าไอซียู มีคนในวงการหรือคนรู้จักเข้ามาช่วยเหลือเยอะแยะไปหมด ก็ดีใจที่มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ ไม่งั้นเราเองคนเดียวก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ตอนนี้พ่อป่วยก็น่าจะสองสัปดาห์แล้ว กำลังใจดี ก็ได้กำลังใจจากแฟน ๆ และคนรอบตัว พี่ ๆ ผู้ใหญ่”


กำลังโหลดความคิดเห็น