xs
xsm
sm
md
lg

“นิ้ง” ลงทุนลาออกจากผจก.ธนาคาร นั่งแท่นผู้บริหาร-คุมการเงินให้ “เจได” ลั่นมันน่าสนุก นับถอยหลังใช้ชีวิตคู่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“นิ้ง โศภิดา” ควง “เจได” เปิดตัวธุรกิจร้านแว่นตา Cobalt เผยลาออกจากผู้จัดการธนาคาร มาบริหารการเงินให้แฟนหนุ่ม ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่อีกหนึ่งสเตป อัปเดตงานแต่งมีคุยผู้ใหญ่แล้ว แต่ยังไม่รีบเพราะมีโปรเจกต์ต้องทำ มีลุ้นแต่งทันปีนี้

หลังจากคุกเข่าเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานกันไปเมื่อวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ก็ยังหวานกันไม่หยุดเลย สำหรับคู่ของสาว “นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 กับ นักธุรกิจหนุ่มร้อยล้าน “เจได ไตรนุภาพ จิระไตรธาร” แถมล่าสุด สาวนิ้งยังใจป้ำลงทุนลาออกจากงานผู้จัดการธนาคาร มาเป็นผู้บริหารให้กับธุรกิจของแฟนหนุ่มอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ไปอีกหนึ่งสเตปแล้ว งานนี้ก็เหลือแต่รอวันลั่นระฆังวิวาห์เท่านั้นเอง

เจได : “คือผมมีปัญหาอย่างหนึ่งเลย คือบางทีผมช้อปปิ้งเพลิน แล้วก็เป็นอาการเดียวกับเวลาเราเลือกแบรนด์ แล้วเวลาจับจ่ายใช้สอยในการทำการตลาด บางทีก็ชอบทำอะไรเวอร์วังไป แล้วก็อาจจะไม่ได้มองหลัง ก็มองถึงความแข็งแกร่งของคุณนิ้ง ที่เขามีแบ็กกราวนด์ด้านฐานการเงิน เลยขอเธอมาช่วย”

นิ้ง : “หน้าที่ของนิ้งก็คือบริหารจัดการด้านการเงินอยู่แล้ว แล้วก็การจัดซื้อสต๊อกของทางคุณพี่เจไดด้วย แล้วในเรื่องของการเลือกแว่น บางครั้งก็ต้องคอนเฟิร์มจากเราด้วยค่ะ”

เจได : “คือจากเดิมผมจะสั่งแว่นที อาจจะสั่ง 200 แต่นิ้งตัดเหลือ 50 (หัวเราะ)”

นิ้ง : “ก็มาคุมการเงินให้ค่ะ มาช่วยบริหาร ก็ถือว่ามาเต็มตัวเลย อันนี้บอกเลยว่าเรากำลังจะมีโปรเจกต์ร่วมกันกับทางอิตาลีด้วย”

เจได : “ก็เดี๋ยวรอข่าว จะมีแว่นคอลเลคชั่นพิเศษของคุณนิ้งออกมาเร็วๆ นี้ครับ”

ใจป้ำลาออกจากงานประจำอย่างผู้จัดการธนาคาร มาเป็นผู้บริหารการเงินให้หนุ่มเจไดอย่างเต็มตัว
นิ้ง : “ลาออกมาเป็นผู้จัดการของคนนี้(หัวเราะ) ก็ออกมาช่วยบริหารเต็มตัว เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ เราก็ชอบแฟชั่นด้วย เขาก็จัดการเรื่องแฟชั่นให้เรา เราก็บริหารการเงินไปให้ ถามว่าตัดสินใจยากมั้ย เพราะงานเก่าเราก็โอเค คือแต่ละงานมันก็มีความท้าทายต่างกัน มันก็สนุก เหมือนได้เริ่มศูนย์ใหม่ ได้เรียนรู้ใหม่ค่ะ”

เจได : “เรื่องชวนมา จริงๆ ก็ไม่ได้ยากนะ ก็ชวนเขาว่างานนี้มันน่าสนุก น่าทำ แล้วก็บวกกับเราได้เจอคนใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา แล้วก็ไม่ได้ละทิ้งทักษะที่เขามีอยู่แล้ว (มาในฐานะหุ้นส่วนหรือมาเป็นผู้บริหารอย่างเดียว?) ตอนนี้มาเป็นผู้บริหารก่อน แต่แน่นอนหลังจากอะไรก็คงจะว่ากันอีกทีหนึ่ง(หัวเราะ)”

รอลุ้นฟีดแบ็กธุรกิจ หลังดูดนิ้งมาร่วมบริหาร
เจได : “คำถามดีมากเลยครับ(หัวเราะ) อันนี้ก็ต้องรอดูนะ ว่าธุรกิจเราจะดีขึ้นไหม แต่สำหรับผมเอง ผมเชื่อว่ามันดีขึ้นนะ ได้มุมมองผู้หญิงมาอีกคนหนึ่ง อย่างที่บอกว่าแบรนด์เรา เมื่อก่อนมันแมนมาก จนบางทีเราเข้าถึงผู้หญิงไม่ได้ คุณนิ้งมาให้อะไรใหม่ๆ ในมุมมองของผู้หญิงครับ (เหมือนมีแม่มาช่วยจัดการอีกคน?) ใช่ครับ ซึ่งดีมาก ผมชอบครับ”

ไม่หวั่นอาถรรพ์คู่รักทำธุรกิจด้วยกันแล้วจะทะเลาะกัน บอกต้องแยกแยะ และให้อภัย
นิ้ง : “จริงๆงานก็คืองานนะคะ เราต้องแยกแยะเวลาให้ถูกต้อง มันก็มีบ้างคู่รักที่ต้องทะเลาะกัน แต่ว่าหนึ่ง เราต้องให้อภัยซึ่งกันและกันค่ะ”

ถือโอกาสเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ในสเต็ปแรก มั่นใจแล้ว ต่างคนต่างเป็นคนที่ใช่พร้อมเดินไปในอนาคต
เจได : “ก็ส่วนหนึ่งครับ เพราะเรามั่นใจมาก เราไม่เปลี่ยนใจแล้ว ก็ดูแหวนขนาดนี้ไม่รู้จะเปลี่ยนยังไงแล้วครับ(ยิ้ม)

นิ้ง : “เป็นคนที่นิ้งมั่นใจ แล้วก็เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ก็คิดว่าคนนี้แหละ เป็นคนที่ใช่ แล้วก็เป็นสเต็ปที่จะก้าวต่อไปเรื่อยๆ ค่ะในอนาคต”

แพลนงานแต่งยังไม่รีบ เพราะยังติดโปรเจกต์ที่ยังต้องทำอยู่ แต่คุยกับผู้ใหญ่ และดูสถานที่ไว้บ้างแล้ว
นิ้ง : “เอาจริงๆ นิ้งยังมีหน้าที่ที่ต้องทำ มีโปรเจกต์ที่ต้องทำอยู่ ก็ต้องทำในส่วนนี้ก่อนค่ะ ก็เชื่อว่าอีกไม่นาน ก็มีแพลนกัน ถามว่าจะปีนี้มั้ย ก็แล้วแต่ความพร้อมของเราสองคน แล้วก็ทางผู้ใหญ่ของเราด้วยค่ะ

เจได : “จริงๆ ก็อยากจะปีนี้ แต่ว่าก็ต้องรอดูงานของเขาเป็นหลักครับ ตอนนี้เรื่องสถานที่เรื่องอะไรก็มีคุยบ้างแล้วครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายครับ คือธีมเราก็มีแล้ว ไม่น่าจะเดายากนะ ว่าเราพบรักกันจากมิสยูนิเวิร์ส แน่นอนมันก็คงเป็นอะไรคล้ายๆ กัน”

นิ้ง : “ทางผู้ใหญ่เรามีคุยกันแล้วค่ะ เรียบร้อยแล้ว”

เจได : “เหลือแค่เรื่องสถานที่ เรื่องเวลาครับ ต้องดูกันอีกที”

ฤกษ์แต่งยังไม่ได้ดู อยากใช้เวลาทำความรู้จักครอบครัวของทั้งฝ่ายให้มากขึ้นก่อน
นิ้ง : “ไม่มีค่ะ เหมือนจะเป็นความสัมพันธ์ทางบ้านมากกว่า เราต้องมีเวลาให้ทางพ่อแม่พี่เจได้กับนิ้งได้รู้จักกันมากขึ้น

เจได : “แล้วก็ทางฝั่งผมได้มีโอกาสรู้จักคุณพ่อคุณแม่ของนิ้งมากขึ้นด้วยครับ”

นิ้ง : “ถามว่าแต่งปีนี้จริงๆ จะทันมั้ย เอาจริงๆ เราเป็นคนที่กล้าบ้าบิ่นทั้งคู่”

เจได : “ก็ที่ผ่านมาเราก็ดำเนินชีวิตกันแบบนั้น”

นิ้ง : “จากผู้จัดการก็มาเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์(หัวเราะ)”

เจได : “ส่วนตัวผม ก็จากงานอดิเรก กลายมาเป็นอะไรที่ใหญ่มากขึ้น”

นิ้ง : “ทุกอย่างเป็นไปได้ค่ะ”


(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)












กำลังโหลดความคิดเห็น