xs
xsm
sm
md
lg

“ป๋อ” ปลอบน้อง อย่านอยด์ดรามาขบวนพาเหรด เมื่อก่อน “หมาก-ณเดชน์” ก็ไม่ได้อยู่แถวหน้าสุด ทุกคนคือทีม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ป๋อ ณัฐวุฒิ” ส่งกำลังใจให้น้องๆ นักแสดงช่อง 3 อย่านอยด์หากวันนี้ไม่ได้อยู่บนรถขบวนพาเหรด ย้ำ “หมาก-ณเดชน์” ก็ไม่เคยอยู่แถวหน้าสุดมาก่อน อยู่หน้าหรือหลัง ทุกคนคือทีม ทุกอย่างต้องใช้ความอดทน

ออกมาโพสต์ข้อความให้กำลังใจน้องๆ นักแสดงหลังผ่านพ้นงานฟุตบอลช่อง 3 ซึ่งเกิดกระแสดรามาในโลกออนไลน์สนั่น เรื่องประเด็นความเด่นที่ไม่เท่ากันบนขบวนพาเหรด ช่องดันเด็กใหม่มากกว่าคนที่สร้างเรตติ้ง โดย “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” เผยว่าแค่อยากส่งผ่านกำลังใจ และแชร์ประสบการณ์ ย้ำอย่านอยด์ ณเดชน์-หมาก ก็ไม่ได้อยู่แถวหน้าสุดมาก่อน ทุกอย่างต้องอดทน

“วันนั้นตะคริวกิน ต้องบอกว่าดรามา เราซ้อมกันหนักมาก เพื่ออยากรู้ว่าเราไหวมั้ย ผลปรากฎว่าพอจบคิวเราแล้วไปดูน้องซ้อม ตะคริวมาขาซ้าย คนเต็มเลย แล้วกล้องก็เพียบเราก็บอกหมอก้องว่าตะคริวเต็มเลย หมอก้องก็กดคลายจากขาซ้ายมันไปขาขวา เราก็บอกหมอก้องว่าอย่าบอกใครนะ เบาๆ เป็นการคลายเส้นแบบแอบไปทำกันเราก็ไม่อยากให้คนห่วงด้วย ไม่อยากให้กล้องจับด้วย กลัวคนรู้ว่าไม่ไหว เราอยากโชว์วันนั้นให้ได้ ก็เริ่มรู้สึกว่าแล้วเราจะเต้นยังไง ในวันจริง หมอก้องก็บอกให้เต้นเยอะๆ พักผ่อนเยอะๆ แต่ก็ต้องขอบคุณพลังใจจากแฟนคลับและน้องๆ ช่อง 3 ด้วย ทำให้เต้นไหวและยังเตะบอลได้ด้วย”

ให้กำลังใจนักแสดงน้องใหม่ อย่านอยด์ หากไม่ได้เดินหรือขึ้นบนรถขบวนพาเหรด แม้แต่ ณเดชน์-หมาก ก็ไม่ได้อยู่แถวหน้าสุดมาก่อน ทุกอย่างต้องอดทน
“มันเป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องให้กำลังใจน้องๆ คือน้องไม่ได้ขอหรอก แต่อยากจะบอกว่าวันนึงเราจะเห็นน้องๆ หลายรุ่น เมื่อก่อน ณเดชน์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) หมาก (ปริญ สุภารัตน์) ก็ไม่ได้อยู่แถวหน้าสุด วันนี้เขาก็มาอยู่แถวหน้าสุดแล้ว มันก็เป็นกำลังใจให้กับทุกคนว่าจะมายืนอยู่ข้างหน้าได้ ถ้าเราขยันอดทน ไม่ใช่ว่าเราอยู่ข้างหน้าไม่เหนื่อยนะ มันเหนื่อยเท่ากัน ข้างหลังเราไม่จำเป็นต้องเต้นเยอะก็ได้ กล้องไม่จับ คนที่อยู่ข้างหลังแล้วเต้นเต็มที่ คนยิ่งสนใจด้วยซ้ำว่าเราทุ่มเท ผมว่าไม่มีใครมองข้ามความพยายามนะ น้องที่มุ่งมั่นตั้งใจ เชื่อไหมมีคนมองเห็นเสมอ ดูอย่างพี่สิ ตะคริวขึ้นก็มีคนมองเห็น”

“ไม่มีน้องนอยด์มาปรึกษา แต่น้องต้องเข้าใจว่าวันนั้นเราเห็นน้องๆ เหนื่อยมาก แล้วก็มันร้อน เราซ้อมกันเป็นเดือนนะ แล้วก่อนวันจริง ซ้อมไม่ต่ำกว่า 4 รอบ เพราะฉะนั้นสภาพแต่ละคนทุกคนแย่หมด เริ่มไม่ไหว การส่งในไอจีของผมไป ผมแค่บอกว่าทำไปเถอะ เดี๋ยววันนึงจะเป็นวันของคุณเอง และคุณจะมีทัศนคติที่ถูกต้อง ว่าไม่เป็นไร ทำไปวันนึงจะเป็นวันของคุณ

“ส่วนที่มีนักแสดงมาฝากตัวเป็นศิษย์หลายคน เขาก็รู้สึกดีกัน ในทางผู้ใหญ่ก็โทร.มาขอบคุณที่เราเป็นพลังงานให้กับน้องๆ คือวันซ้อมน้องก็เห็นเราเต้นเต็มที่ เลยมีพลังฮึดขึ้นมาว่าเราขนาดนี้ยังเต้นเต็มที่ พี่ชายอีกคนก็เต้นเต็มที่ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราจะสู้น้องๆ ไม่ได้นะ แต่ที่เราเต็มที่เพราะอยากสนุก อยากให้คนที่ไปมีความสุข เลยเต็มที่จนส่งต่อพลังให้น้องๆ เต็มที่”

“แน่นอน ผมได้รับคำสอนจากหลายๆ ท่าน โดนเฉพาะพี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) บอกตลอดว่าห้ามเลิกเตะบอลนะ ต้องเตะบอลไปเรื่อยๆ ห้ามเลิกเต้น ต้องทำไปเรื่อยๆ นะ น้องๆ ก็จะทำได้ พอเราทำได้ก็จะไปกันเป็นทีม ไม่มีใครโดดเด่นกว่าใคร แน่นอนอาจจะมีคนที่มีหน้าที่เยอะ หน้าที่น้อย ทั้งได้อยู่ข้างหน้า ข้างหลัง แต่ทุกคนคือทีมช่อง 3 ความสุขก็จะได้ด้วยกันทั้งคนที่ไปและคนที่อยู่ทางบ้าน”

อยากรับช่วงต่อจาก “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์”
“ก็พยายามครับ พี่อ๊อฟคือแรงบันดาลใจของผมอยู่แล้ว แต่ผมจะทำไม่ได้เลยถ้าผมไม่ได้รับการช่วยเหลือจากบอย (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) จากเกรท (วรินทร ปัญหกาญจน์) จากอาเล็ก (ธีรเดช เมธาวรายุทธ) จากโป๊ป (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) และน้องๆ อีกหลายคน ทั้งน้องผู้หญิง และน้องผู้ชายทุกคนฟังกันหมด สมมติบอยมีไอเดียขึ้นมา เราก็ไป เราไปกันเป็นทีม เชื่อมั้ยว่าเราคิดกันตลอดว่าถ้าเรายิงเข้าเราจะทำท่าอะไรกันดี ถ้ายิงไม่เข้าเราจะทำท่าอะไรกันดี เราต้องคิดต้องวางแผนตลอดเวลากับบอย ถึงบอกว่าผมจะทำไม่ได้เลยถ้าผมไม่ได้บอยและทุกๆ คนที่ช่วยเหลือกันเพื่อให้แฟนๆ ที่สนามสนุกที่สุด เพราะถ้าแฟนๆ ในสนามสนุกคนที่ดูทางบ้านก็สนุกด้วย ตากล้อง ทีมงานก็สนุกไปด้วย”

ไม่สนกระทู้โยงนักแสดงที่เพิ่งเข้ามาดูเด่นกว่านักแสดงที่สร้างเรตติ้ง แชร์ความเด่นอาจไม่เท่าทุกคน
“ไม่ได้ดูสิ จริงๆ ผมว่ามันแบ่งเป็น 2-3 ส่วนนะ ได้แก่ นักแสดงที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว นักแสดงที่ยังอยู่ในช่อง และนักแสดงที่มาใหม่ เรื่องการแชร์ความโดดเด่นอาจจะไม่ได้เท่ากันทุกคน มันอยู่ที่ใจเรามากกว่าว่าเราเต็มที่กับมันขนาดไหน ทุกคนอาจจะไม่ได้แฮปปี้ทั้งหมดเท่ากัน คนที่ทำมากเขาอาจจะคิดว่าทำไมฉันต้องมาทำอะไรมากขนาดนี้”

“คุณคิดว่าณเดชน์ต้องทำเยอะขนาดนี้มั้ย ทั้งๆ ที่ณเดชน์ไม่จำเป็นจะต้องไปเต้นอะไรขนาดนั้น แต่เขามีหน้าที่ต้องสร้างความสุขให้กับแฟนๆ ช่อง 3 เหมือนกันกับน้องๆ ที่มาใหม่ๆ ช่องก็อยากจะสนับสนุน อยากจะให้น้องๆ ทุกคนได้มามีบทบาท”

“ปีที่แล้วสมมติเราบอกว่าเราสนับสนุนคู่จิ้นเยอะ นักแสดงใหม่ๆ ไม่ค่อยมีบทบาท ปีนี้ก็เลยพยายามจะให้น้องๆ ได้มีบทบาท ได้มามีส่วนตัว จริงๆ บทบาทต่างๆ ไม่สำคัญเท่าเราได้ทำงานร่วมกันนะ การทำงานร่วมกัน ความสามัคคีที่เกิดระหว่างนักแสดงในกลุ่มช่อง 3 ด้วยกันต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ กิจกรรมทั้งหมดที่เราบอกว่าสร้างความสุขให้กับแฟนๆ ทุกๆ คน จริงๆ แล้วเราก็สร้างความสุขให้ตัวเองด้วย ความสามัคคีกันระหว่างซ้อม กอดคอกัน บางคนไม่ไหวก็ช่วยดึงกันขึ้นมา”

ตรงนี้มันเป็นการสร้าง ทำให้น้องๆ ทุกคนไม่มีกำแพงต่อกัน ไม่มีรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่เราเป็นทีมเดียวกัน ก็ช่วยกัน บางทีพี่เต้นไม่ได้น้องก็มาต่อท่าให้พี่ แล้วเวลาต่อท่ามันไม่ได้ต่อกันแค่ 2 คนนะ ต้องต่อกันทั้งแพ็กเป็น 20 คน ผมว่าเรื่องทั้งหมดทั้งปวงเรื่องความสามัคคีของคนในช่อง 3 ผมว่ามันเป็นพลังเงียบซึ่งมันเกิดขึ้น ฟูมฟักขึ้นมาซึ่งมันผลิดอกออกผลทำให้น้องๆ มีความสุขที่จะได้อยู่ในองค์กรนี้”

“ต้องขอบคุณนักแสดงหลักของทางช่อง 3 ทุกคนที่มุ่งมั่นและพยายาม ผมว่านักแสดงหลักทำงานได้ดีมาก ดีที่สุดอยู่แล้ว ส่วนนักแสดงใหม่ๆ ก็ต้องขอบคุณสำหรับความตั้งใจ ผมว่าช่อง 3 ก็รู้สึกดีใจเสมอที่ได้ปลุกปั้น ได้สร้างนักแสดงใหม่ๆ ได้ผลิตดวงดาวใหม่ๆ ขึ้นมาประดับวงการอย่างถูกต้องและมีทัศนคติที่ดี ส่วนคนที่ยังอยู่และมีความรู้สึกไม่ดี ลองกลับไปดูรอยยิ้มของแฟนๆ ช่อง 3 ผมว่าไม่มีดาราเดี่ยวๆ คนไหนหรอกครับที่มาแล้วทำให้แฟนๆ ยิ้มได้ทั้งสนามขนาดนี้ เราต้องมาเป็นทีม”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)






กำลังโหลดความคิดเห็น