xs
xsm
sm
md
lg

แหวกแนวหนังผีรูปแบบใหม่! "โอม - โอบ" ชวนสะพรึงกับภาพยนตร์ "แสงกระสือ"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แม้ร่างกายจะเปลี่ยนไป แต่หัวใจจะเป็นเหมือนเดิม!!!!! ใกล้จะได้ชมกันเต็มที่แล้ว สำหรับภาพยนตร์ “แสงกระสือ” ภาพยนตร์โรแมนติก ทริลเลอร์ เรื่องล่าสุดจากค่าย ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม ร่วมด้วย เอ็ม พิคเจอร์ส, ซีเจ เมเจอร์ และ นอร์ทสตาร์ สตูดิโอ กับฝีมือกำกับของ “โดม” สิทธิศิริ มงคลศิริ ที่นำทีมเปิดตำนานความรักผีกระสือยุคใหม่ โดย โอบ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์, มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร, เกรท สพล อัศวมั่นคง และนักแสดงมากฝีมือ เอ็ม สุรศักดิ์ วงษ์ไทย ที่กำหนดฉาย 14 มีนาคมนี้

ซึ่งงานนี้ผู้กำกับชื่อดัง "โดม สิทธิศิริ มงคลศิริ" ได้เล่าถึงที่ไปที่มาของการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ฟังว่า "เรายึดติดภาพกระสือที่มีหัวกับไส้ เรื่องนี้ผมเลยจัดให้เด็กรุ่นใหม่ได้รู้จักตำนานกระสือในแบบใหม่"

ความยากของเรื่องนี้เหมือนต้องเล่นกับการเปลี่ยนภาพจำกระสือ?

"จะว่ายากก็ยาก เราเอาความเชื่อเดิม ๆ เช่น ปิดประตูลงกลอนหน้าต่างก่อนนอน อย่าโดนน้ำลายกระสือ มาใส่ในหนังเรื่องนี้ เอาบรรยากาศความเป็นชนบทเพื่อให้คนดูได้กลิ่นอาย เพื่อดึงเค้ากลับไปในสัมผัสฟีลชนบทยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และเล่าเรื่องให้มีความเป็น Folk Tales เอาความเชื่อของเดิมมาปรุงแต่งใหม่ และหาแก่นให้กับตัวกระสือ ขณะเดียวกันโจทย์ที่ได้รับมาคือต้องทำให้กระสือมีความร่วมสมัย แต่ก็ไม่ใช่ทำออกมาเป็นเอเลี่ยน ตอนนั้นผมคิดว่ากระสือเป็นปีศาจที่น่าเกลียด มีแต่หัวกับไส้ แต่กระสือที่ผมต้องการสื่อคือ กระสือในเรื่องนี้ มีหัวและใจ มีความรัก ความผิดหวัง เหมือนคนทั่วไป ในทางกลับกัน มนุษย์ปกติ กลับมีหัวใจที่โหดร้าย"

ได้ยินมาว่าเรื่องนี้รวมที่สุดของความยากเอาไว้ ซีจี /แต่งเอฟเฟค?

"เรื่องนี้ผมใช้เวล่ผลิตหนัง 3 ปี เขียนบท 1 ปี ถ่ายทำประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นเป็รเวลาของการทำซีจี ถามว่ายากขนาดไหน ผมว่างานทุกอย่างมีความยากหมดเลย โดนเฉพาะเรื่องซีจีเข้ามาเกี่ยวค่อนมันยากอยู่แล้ว ยากเพราะต้องสร้างสิ่งที่ไม่มีออกมาให้มันจริง แล้วก็ให้คนดูเชื่อ"

คนดูจะได้อะไรจากภาพยนตร์เรื่องนี้?

"ผมว่าหนังแบบนี้มีไม่บ่อย ที่จะเผากระท่อม ระเบิดภูเขา ผมว่าหนังเรื่องนี้สนุกแถมยังมีแง่มุมความรักดีๆ ที่ทราบซึ้ง ผมว่าคนดูได้แน่ๆ ถ้าไปดูหนังเรื่องนี้"

เสน่ห์ของ “แสงกระสือ” อยู่ตรงไหน?

ผมว่าเราไม่ได้ดูหนังรัก ที่เป็น Epic มานาน เรื่องสุดท้ายที่ผมจำได้คือ “นางนาก” ที่แสดงโดย ทราย เจริญปุระ ผมอยากให้ไปดูความประณีตและพลังของนักแสดงใหม่กลุ่มนี้ เค้ามีความตั้งใจมาก บรรยากาศและมู้ด แอนด์ โทน ของหนังเป็นแนวย้อนยุคเป็นบรรยากาศที่เราโหยหา ซึ่งการคุมมู้ด แอนด์ โทน ของหนังเป็นอะไรที่ยาก หนังของผมมันอาจมีรอยแผลบ้าง แต่ผมเชื่อว่าคนดูจะต้องประทับใจครับ

คาดหวังกับภาพยนตร์เรื่อง “แสงกระสือ” ขนาดไหน?

"แน่นอนผมคาดหวังอยากให้คนไปดูเยอะๆ อยู่แล้ว ซึ่งหนังเรื่องนี้เราจะเปิดตัวพร้อมประเทศแล้วเลยในวันที่ 14 มีนาคมนี้ และหนังเรื่องนี้ยังเอาไปฉายที่ต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ กระแสก็ตอบรับก็ดีครับ ผมว่าเขาก็ชอบหนังผีไทยอยู่แล้ว เท่าที่ผมได้ยินมาทุกคนก็คาดไม่ถึงว่าหนังไทยเราจะทำได้ขนาดนี้เลยหรอ ซีจี ด้วยนักแสดง ด้วยแสงสี การถ่ายภาพ การทำหนัง มันดูร่วมสมัยไม่เหมือนที่เขาเคยรู้จัก มันเริ่มมีความโมเดิ้ลขึ้น"

ขณะที่ทางด้าน "โอบ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์" หนึ่งในนักแสดงเรื่อง “แสงกระสือ” ผู้ที่รับบทบาทเป็น "น้อย" ได้เผยความรู้สึกกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า

“เรื่องนี้ผมรับบทเป็น น้อย ตัวละครตัวนี้ค่อนข้างยาก มีทัศนคติขัดแย้งกับคนอื่น เรื่องราวของหนังย้อนยุคและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เกิดในชนบท ซึ่งชาวบ้านก็จะมีความเชื่อแบบเก่า ๆ แต่น้อยจะเป็นคนที่หัวสมัยใหม่ เชื่อในวิทยาศาสตร์มากกว่าไสยศาสตร์ เพราะเติบโตในพระนคร ไปรู้ไปเห็นอะไรที่ทันสมัยความคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน ดังนั้น เค้าจะมีความคิดที่แหวกกว่าคนอื่น จะพยายามพิสูจน์ให้คนได้รู้ว่าเรื่องบางเรื่องถ้าไม่เห็นจริง ไม่เจอกับตัว อย่าเพิ่งเชื่อ"

ได้ยินมาว่าโอบมาเล่นเรื่องนี้ตั้งแต่เป็น Pilot Test โอบเชื่ออะไรในหนังเรื่องนี้?

"ผมเคยร่วมงานกับนักแสดงคนหนึ่ง ซึ่งเค้าก็เล่าให้ผมฟังว่า เค้าเคยถามผู้กำกับคนหนึ่งว่าเค้าอยากร่วมงานกับนักแสดงคนไหนมากที่สุด ผู้กำกับคนนั้นก็พูดชื่อของผมขึ้นมา ผู้กำกับคนนั้นก็คือ พี่โดม สิทธิศิริ ที่ผมตัดสินใจเล่นเรื่องนี้ ผมอยากร่วมงานกับคนที่มีความตั้งใจในการทำงาน "

เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ในมุมมองของโอบอยู่ตรงไหน?

"จริง ๆ เป็นหนังที่พูดถึงความรักของคน 3 คน หนังพูดถึงความรัก ความเสียสละที่ผู้ชาย 2 คน ที่ต่างทำเพื่อผู้หญิงที่เค้ารักครับ ออกจากโรงภาพยนตร์รับรองว่าต้องมีซึ้งทุกคนครับ"

คาดหวังเรื่องนี้ขนาดไหน?

จริงๆ แล้วคนทำงานทุกคนก็คาดหวังกันครับ แต่สุดท้ายแล้วการคาดหวังมันก็มีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ผมเลยอยู่ตรงกลางดีกว่า ผมี้สึกว่าแค่คนเข้าไปดูแล้วมีความสุขกับหนังเรื่องนี้แค่นี้ผมก็โอเครแล้ว การเสียสละเงินกับเวลาเพียงแค่สองชั่วโมงเข้าไปดูมันโอเคแล้ว คือเวลาสองชั่วโมงเขาอาจเอาเวลาไปทำอย่างอื่นก็ได้ แต่เขาเลือกที่จะมาดูหนังเรา ผมรู้สึกถ้าเขามีความสุขผมก็แฮปปี้นะ"

สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ บ้าง?

"คนชอบบอกว่าเบื่อหนังไทย เพราะเป็นหนังแนวนี้อีกแล้วหรอ ก็วันนี้ผมทำให้ดูแล้ว ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันมาดูหน่อยครับ ผมเชื่อว่าทุกคนจะชอบเรื่องนี้ ถ้าว่ากันง่ายๆ หนังเรื่องนี้สนุกมากแบบวินาทีแรกจนวินาทีสุดท้ายก็คุ้มค่าตั๋วไม่เสียดายเงินแน่นอน"








กำลังโหลดความคิดเห็น