xs
xsm
sm
md
lg

ซวยทั้งชีวิต “หนุ่ม กะลา” ระทึกนาทีถูกจับ ฟ้องอ่วม 60 ล้าน ผวาขึ้นศาลใส่กุญแจมือ ยิ่งกว่าอาชญากร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“หนุ่ม กะลา” เผยผวาทุกครั้งที่ขึ้นศาล ลั่นสุดปวดร้าว พลาดครั้งเดียว วุ่นวายทั้งชีวิต ถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์เพลง “ยาม” โอดอายสุดๆ ถูกจับใส่กุญแจมือทั้งที่ไม่ใช่ผู้ร้าย ให้ทนายเฝ้าระวังเรื่องหมายจับทุกวัน ปาดเหงื่อถูกฟ้อง 60 ล้าน จ่ายกันอ่วม

ถูก “นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์” กรรมการบริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด เจ้าของค่าย “มิวสิคบั๊กส์” แจ้งความดำเนินกับ “หนุ่ม กะลา” หรือ “นายณพสิน แสงสุวรรณ” 44 คดี 44 ท้องที่ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลง “ยาม” ซึ่งทางนักร้องหนุ่มได้เดินทางไปรายงานตัวและขึ้นศาลตามที่ถูกนัดหมาย โดยเจ้าตัวเผยความรู้สึกว่าสิ่งที่ตนโดนนั้น ยิ่งกว่าอาชญากรซะอีก

“ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการขึ้นศาลบ้างแล้ว ไปขึ้นศาลทั้งหมด 17 ที่ เรื่องส่วนใหญ่จะอยู่ที่อัยการ ยังเหลือที่ต้องไปส่งตัวตำรวจอีก 2 ที่ เป็นที่กรุงเทพฯ หมดเลย พรุ่งนี้จะไปที่แรกแถวลาดกระบัง ถามว่า 17 ที่ที่ผ่านมาใช้เวลานานแค่ไหน ใช้เวลาหลายเดือนครับ เดินทางไปขึ้นศาลทั่วประเทศ ขั้นตอนมันเยอะมาก”

“ที่ใส่กุญแจมือจริงๆ มันเป็นขั้นตอนของทางอาญา ทุกคนที่ไปขึ้นศาล โดยทางอาญาก่อนจะขึ้นศาลต้องโดนล็อกกุญแจมือ บางศาลจะมีห้องกักกันตัว หลายๆ ศาลก็จะเป็นคุกจริงๆ ซึ่งผมก็จะโดนคุกบ้าง โดนห้องกักกันตัวบ้าง โดนใส่กุญแจมือล่ามกับคนอื่นๆ บ้าง”

“ที่ลงรูปก็ไม่ใช่โดนครั้งแรกครับ ถามว่าเรารู้สึกอย่างไร เพราะเราไม่ใช่ผู้ร้าย เอาจริงๆ ตอนโดนครั้งแรกมันสับสนครับ จะว่าอายก็ไม่เชิง จะว่าทำหน้าไม่ถูกก็ไม่ใช่ เพราะตอนเราเดินเข้าไปในคุก แล้วมีนักโทษอยู่ในคุกจริงๆ คือพี่ในคุกที่จำเราได้ เขาพยายามทักทาย มันคือสถานที่ที่เขาทักมาแล้วเรายิ้มระรื่นไม่ได้ หรือโบกมือมันไม่ได้ ผมไม่โอเคเลย แล้วคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ผมเสียใจมากที่สุดในชีวิตเรื่องนึงครับ”

ใจแข็งแรงขึ้นทุกครั้ง ท้อ เหนื่อย แต่เริ่มชิน ไม่ชินคือขึ้นศาล ผวาไม่อยากเข้าคุก
“จริงๆ ตั้งแต่เกิดคดีมันสอนให้ผมมองคนอีกแบบนึง มันสอนให้ผมแกร่งขึ้นนะ ทุกครั้งที่เวลาผมเดินในห้องกักกันตัวหรือในคุก มันก็จะทำให้ทุกครั้งที่ออกมาใจเราแข็งแรงขึ้น ถามว่าเหนื่อยหรือท้อมั้ย ท้อครับ แต่ตอนหลังๆ นี้ผมว่าเริ่มชินบ้างแล้ว จะมีสิ่งที่ไม่ชินเลยก็คือ การไปขึ้นศาลลึกๆ จะมีผวาบ้างนิดหน่อย เพราะเราไปก็ลุ้นว่าขอให้เราไม่ต้องไปอยู่ในคุก เราลุ้นว่าขอให้ศาลนี้ไม่ต้องล็อกกุญแจมือ และพ่วงกุญแจมือเรากับคนอีก 5 คน เดินผ่าฝูงชนไปขึ้นศาล เราก็ลุ้นแบบนั้นทุกครั้ง”

“ผมจะเล่าให้ฟังว่า ผมเคยใส่สูทไปขึ้นศาลแรก เพราะผมคงดูละครมาก ขึ้นศาลต้องใส่สูทดีๆ ผมไม่รู้เลยว่ามันมีขั้นตอนของการกักกันตัว ไม่รู้เลยว่ามีขั้นตอนของการใส่กุญแจมือ ผมไม่โอเคเลย มากกว่าการใส่ล็อกกุญแจมือ คือการล็อกกุญแจมือพ่วงกับคนอีก 5 คน แล้วก็มีญาติๆ ประชาชนเดินดูผมอยู่”

ให้ทนายเฝ้าระวังเรื่องหมายจับทุกวัน
“จริงๆ ตามกฎหมายบุกจับไม่ได้นะครับ แต่ถ้าผมลงเวทีเมื่อไหร่ผมโดนรวบได้ ตามกฎหมายเป็นแบบนั้นนะครับ ทุกวันนี้ผมยังต้องให้ทนายกับผู้จัดการเฝ้าระวังเรื่องหมายจับอยู่ทุกวัน อย่างล่าสุดผมกลับจากฮ่องกงมาก็ไม่ได้นอน ต้องบินต่อไปหาดใหญ่เพื่อไปสกัดหมายจับ ไปทำตามขั้นตอนของศาล เสร็จแล้วตอนเย็นก็บินไปเล่นคอนเสิร์ตที่เชียงใหม่ในวันเดียวกัน”

“หลังๆ เริ่มชิน แต่ว่าเราเซฟด้วยการเริ่มโทร. อย่างจะมีงานเล่นพรุ่งนี้วันนี้เราก็เริ่มโทร.ไปถามตำรวจ ถามอัยการว่าพร้อมฟ้องมั้ย ฟ้องหรือยัง ยังไม่ฟ้องใช่มั้ย โอเคครับ เราก็จะได้ทำงานอย่างสบายใจ”

“จริงๆ ก็มีความเสี่ยงลงจากเวทีแล้วจะถูกบุกจับ มีความเสี่ยงมาก แต่ว่าเราทำตามหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด เพราะว่าคิวงานของผมเยอะมาก เราก็ความกรุณาจากพี่ๆ ที่ศาลและอัยการว่าผมมีคิวอย่างนี้ ผมขอไปอย่างนี้ได้มัย บางที่เห็นใจก็ดีไป แต่ว่าบางที่คุยไม่ได้ต้องเจียดเวลาตอนเช้าก่อนโชว์บินลงไป”

ไม่รู้จะจบยังไง พลาดครั้งเดียว วุ่นวายทั้งชีวิต เหมือนอาชญากร
“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะจบลงยังไง ตอนนี้ก็คงต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของศาลก่อน ซึ่งก็น่าจะอีกพักหนึ่ง ผมเป็นคนที่ไม่ใช้ของปลอม ไม่ซื้อของปลอม เพราะผมคือคนผลิตงานและผมเคารพเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ครั้งนี้ที่ผมพลาดไป ผมก็ยอมรับผิด น้องๆ คนไหนที่กำลังละเมิดอยู่ ผมคิดว่าจริงๆ ไปขอให้ถูกดีกว่า ถ้าเจอแบบผมมันวุ่นวายจริงๆ

“ตอนแรกที่เจอคดีผมคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ก็ชิลว่าพี่เคลียร์กันมัย ผมจ่ายตังค์พี่เท่านี้ แล้วก็จบ พอยิ่งนับวัน พอยิ่งขึ้นไปสู่ศาล เราจะยิ่งเห็นเลยว่าเราเหมือนอาชญากรเลย ล่าสุดผมไปเข้าคุกมา ผมต้องไปติดอยู่ร่วมกับพี่ๆ หลายคนที่ถูกโทษตัดสิน 28 ปี คดีร้ายแรงหนักๆ เลย ผมมองตัวเองแล้วรู้สึกว่าละเมิดลิขสิทธิ์มันร้ายแรงขนาดนี้จริงๆ เหรอ”

จ่ายกันอ่วม ไม่มีการลดค่าเสียหาย รวมๆ แล้วประมาณ 20 กว่าล้าน คดีแพ่งอีกกว่า 40 ล้าน
“ซึ่งผมขึ้นศาลใหญ่ๆ มาแล้วครั้งหนึ่ง ก็ยังไม่มีการลดค่าเสียหาย ก็ยังเป็นทีละ 5 แสน รวมแล้วน่าจะประมาณ 20 กว่าล้าน แล้วมีคดีแพ่งที่ฟ้องผมอีก 40 กว่าล้าน ซึ่งก็ต้องเคลียร์กันต่อไป ถามว่ามันเลยจุดไกล่เกลี่ยมาแล้วใช่มั้ย มันเลยมาแล้ว มันอยู่ในจุดที่เรียกสองฝ่ายมาคุยกัน แล้วทางค่ายก็ลงมาคุยให้ด้วย”

“เท่าที่ผมไปคุยมาคือยังไม่มีการลดหย่อนยังเท่าเดิม ซึ่งผมมีการคุยการเจรจาตั้งแต่วันแรก ข่าวที่ออกไปหรือการที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นคนให้ข่าวเป็นเรื่องไม่จริงหมดเลย ผมมีหลักฐานทั้งหมดในการคุย คุยมาตั้งแค่วันแรกเลย ไม่เคยหนีเลย ถ้าเกิดไปถามทางตำรวจ ทางศาลจะรู้ว่าผมทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ผมโทร.ทุกครั้งทุกที่เลย ไม่เคยต้องหลบๆ ซ่อนๆ ในการขึ้นเล่น สิ่งที่ผมกับผู้จัดการคอยเตรียมการโทร.ไปขอความกรุณากับศาลกับทางตำรวจครับ”


(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)



กำลังโหลดความคิดเห็น