หากใครยังจำพระรองสุดละมุนจากซีรีส์เรื่อง "เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา" ได้ล่ะก็ อาจเซอร์ไพร์สเลยทีเดียวเมื่อ "คิมจองฮุน" ที่รับบท "องค์ชายยูล" กำลังตกเป็นจำเลยสังคม หลังโดนแฟนเก่าออกมาแฉว่าเคยสั่งให้ไปทำแท้ง ขณะที่ต้นสังกัดออกโรงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
โดย คิมจองฮุน นักแสดงหนุ่มวัย 39 ปี เคยโด่งดังสุดๆจากซีรีส์เรื่อง Princess Hour หรือ เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชาย เมื่อปี 2006 มาตอนนี้กำลังถูกแฟนเก่าโจมตีอย่างหนัก ว่าสั่งให้เธอไปทำแท้ง เพราะต้องการรักษาชื่อเสียงและอนาคตในวงการบันเทิง
งานนี้ ต้นสังกัดของคิมจองฮุน ได้ออกมาแก้ข่าวโดยระบุว่า
"หลังจากทราบข่าวว่าผู้หญิงได้ตั้งครรภ์ ทางคิมจองฮุนได้บอกเธอไปหลายครั้งแล้วว่าเขาพร้อมจะรับผิดชอบหากเด็กเป็นลูกของเขาจริงๆ อย่างไรก็ตามดูเหมือนทั้งคู่จะยังตกลงกันไม่ได้เพราะต่างฝ่ายต่างมีความเห็นไม่ตรงกัน"
ในการฟ้องร้องครั้งนี้ นอกจากเรื่องบังคับให้ทำแท้งแล้ว อดีตแฟนสาวยังเรียกร้องเงินที่เขาสัญญาว่าจะจ่ายให้กับเธอด้วย
โดยเธอระบุว่า คิมจองฮุน สัญญาว่าจะจ่ายค่ามัดจำบ้านให้กับเธอเป็นเงิน 10 ล้านวอน หรือประมาณ 3 แสนบาท รวมถึงค่าเช่ารายเดือน แต่สุดท้ายเขาได้ยกเลิกสัญญาหลังจากที่จ่ายเงินดาวน์ให้เธอเพียง 1 ล้านวอน หรือประมาณ 3 หมื่นบาทเท่านั้น ซึ่งเธอได้เรียกร้องให้เขาจ่ายเงินที่เหลือที่ยังคงติดค้างทั้งค่ามัดจำและค่าเช่ารายเดือน
ข่าวฉาวครั้งนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับ คิมจองฮุน เป็นอย่างมาก เพราะเจ้าตัวเพิ่งเข้าร่วมรายการวาไรตีออกเดตที่ชื่อว่า Taste of Love ซึ่งเขาได้จับคู่เดตกับ คิมจินอา ที่แฟนๆต่างยกให้เป็นคู่จิ้น ที่อยากให้เดตนอกจอกันจริงๆ
ในรายการดังกล่าว เขาเคยกล่าวว่าตนเองโสดมานานเพราะไม่มีโอกาสได้เจอใครเลย
"ความคิดที่จะออกเดตกับใครมันไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ผมได้เจอคนใหม่ๆน้อยมากๆ"
ทางด้านโปรดิวเซอร์รายการก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ชาวเน็ตต่อว่ารายการว่าหลอกลวงคนดู โดยระบุว่า "จองฮุน เขาแสดงความกระตือรือร้นที่จะออกเดตมากๆเลยตอนที่เราทำการสัมภาษณ์เขาก่อนร่วมรายการ เขาบอกว่าเขาไม่ได้เดตกับใครมาประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว เราเชื่อใจเขาและให้เขาได้มาออกรายการนี้ ในฐานะโปรดิวเซอร์เราค่อนข้างช็อกตอนที่ได้ยินข่าวเหมือนกัน เราหวังว่าความจริงจะปรากฏในเร็วๆนี้"
ทางต้นสังกัดของ คิมจองฮุน ก็ยืนยันว่าพวกเขาจะแก้ปัญหานี้อย่างดีที่สุด และจะดำเนินการทางกฏหมายอย่างถึงที่สุดเช่นกันหากพบว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่เป็นความจริง พร้อมกับขออภัยไปยังทีมงานรายการ Taste of Love รวมถึงคิมจินอา ที่ต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และขออภัยทุกๆคนที่กำลังผิดหวังหลังจากทราบข่าวนี้ด้วย