“กรณ์” เผยมรสุมครอบครัว “ณรงค์เดช” ขาดสะบั้น หาข้อสรุปแบ่งสมบัติไม่ได้ แต่คดีความเริ่มคลี่คลายเรื่อยๆ

“กรณ์” เผยมรสุมครอบครัว “ณรงค์เดช” หนักหน่วง ครอบครัวขาดสะบั้นจากกรณีคนในครอบครัวทำพินัยปลอมแย่งสมบัติ ลั่นในครอบครัวได้มีการพูดคุยกันหลายครั้งแต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้ เผยคลี่เริ่มคลี่คลายเรื่อยๆ โอดข่าวแย่งสมบัติภายในครอบครัวทำกระทบความน่าเชื่อถือธุรกิจเสียหาย

หลังเกิดศึกทำพินัยกรรมปลอมแย่งชิงสมบัติในครอบครัว “ณรงค์เดช” ชนิดตัดขาดพ่อแม่พี่น้องกัน วันนี้ที่งานเปิดคาเฟ่และแฟล็กชิพสโตร์สุดหรู “ORGANIKA RIVIERE” ณ ออกานิก้า ริวิเยร์ ชั้น M สยาม ทาคาชิมายะ ไอคอนสยาม “กรณ์ ณรงค์เดช” ก็เปิดใจครั้งแรกถึงปัญหาในครอบครัวว่า...

“หนักหน่วงครับ มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ปัญหามันก็เกิด ก็ต้องแก้กันไป เรื่องตอนนี้ก็ตามข่าว ตามที่ตำรวจเขาทำอยู่ ล่าสุดทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณพ่อก็ไปร้องทุกข์ว่าลายเซ็นที่เซ็นไป ไม่ใช่ของคุณพ่อ ซึ่งทางพิสูจน์หลักฐาน กรมตำรวจ ก็ได้สรุปออกมาแล้วว่าไม่ใช่คนๆ เดียวกัน”

“ส่วนรายละเอียด ผมอาจจะพูดอะไรมากไม่ได้เพราะมันเป็นคดีความอยู่ ในครอบครัวก็มีการคุยกันหลายครั้ง แต่ก็ยังหาบทสรุปที่เข้าใจตรงกันไม่ได้ครับ เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดอยู่แล้วครับ ตอนนี้ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็แย่ครับ ทุกวันนี้ไม่ได้เจอกันเลยครับ”

“โอกาสที่จะกลับมาเป็นครอบครัวก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ถ้าถาม ณ วันนี้คงยาก เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัวผมเองก็ตกใจครับ ก็มองย้อนกลับไปสัก 2-3 ปี ไม่คิดว่าครอบครัวเราจะมีเรื่องแบบนี้ครับ ในส่วนความคืบหน้าคดีตอนนี้ต้องดูศาล ดูตำรวจด้วยครับ ก็คงต้องใช้เวลานิดนึง”

“ก็มีคลี่คลายขึ้นมาเรื่อยๆ ครับ ก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคต ตั้งแต่แรกคุณพ่อยืนยันว่าคุณพ่อไม่ได้เซ็นชื่อ ถึงจะอายุเยอะแต่สุขภาพแข็งแรงดี ที่เหลือก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม”

เผยเรื่องครอบครัวเปิดศึกแย่งสมบัติกันส่งผลต่อธุรกิจครอบครัวเพราะขาดความน่าเชื่อถือจากลูกค้า เชื่อเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
“ก็มีนะครับ แน่นอนว่าเวลามีปัญหากัน เรื่องการทำธุรกิจ มันก็ต้องเป็นภาพที่สวยงามครับ แต่ตอนนี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ มันมีผลต่อความน่าเชื่อถือของลูกค้า หลายๆ คน ดูแล้วก็สงสัยว่าเรื่องจริงหรือเปล่า ยืนยันว่าเรื่องเป็นจริงครับ ส่วนความน่าเชื่อถือ ของแบบนี้อาจต้องใช้เวลาครับ ในเรื่องการทำงานธุรกิจ เราก็ดำเนินการเต็มที่ ระยะเวลาหนึ่งก็คงน่าจะกลับมาเหมือนเดิม”

“ก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจจริงๆ (ยกมือไหว้) ทั้งพี่ๆ สื่อมวลชนเอง รวมถึงหลายๆ คน เพื่อนฝูงเองก็ดี และบางคนที่ไม่รู้จัก ก็มาเขียนให้กำลังใจ ยังไงก็ขอบคุณมากๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ลำบากใจ แต่ก็ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ถ้าเป็นห่วง จริงๆ เป็นห่วงคุณพ่อมากที่สุด ก็หวังว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดี (ณ ตอนนี้ตัดขาดกัน?) ใช่ครับ (ยิ้ม)”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)