xs
xsm
sm
md
lg

ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด Kingdom : ความหมายที่งามพร้อม ของ ‘พระราชา’

เผยแพร่:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา


“คิงดอม” เป็นซีรี่ส์ที่ได้รับการพูดถึงอย่างล้นหลามด้วยความชื่นชมนับตั้งแต่ออกอากาศทางเน็ตฟลิกซ์เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา หรือถ้าจะพูดให้แจ่มชัดตั้งแต่บรรทัดนี้เลยก็คือว่า นี่คือซีรี่ส์เกาหลีที่ทำออกมาได้ “เฉียบ” มากๆ

เชื่อว่า หลายคนคงได้ดูซีรี่ส์เรื่องนี้กันไปบ้างแล้ว และอาการก็คงจะเป็นคล้ายๆ กัน คือพอเริ่มต้นดู ก็จะรู้สึกว่าจำเป็นต้องดูต่อเนื่องไปจนจบ เพราะความน่าสนใจของตัวเรื่องที่บอกเล่า และดำเนินเรื่องราวได้ชวนติดตาม...

“คิงดอม” (Kingdom ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด) เป็นซีรี่ส์ย้อนยุค พาคนดูย้อนกลับไปในสมัยราชวงศ์โชซอน พสกนิกรประชาชนทุกหมู่เหล่าของเกาหลี อยู่ภายใต้การปกครองของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยฉากหลักของเรื่องราวอยู่ที่เมือง “ฮันยาง” (ชื่อเดิมของเกาหลี) ที่ต้องบอกว่า พอเปิดเรื่องมาก็ระส่ำอย่างหนัก เพราะมีข่าวลือว่า “พระราชาเสด็จสวรรคตแล้ว” ขณะที่การเมืองในรั้วในวังก็กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือดเข้มข้น

ปัญหาใหญ่ๆ ของเรื่องอยู่ที่องค์รัชทายาท (จู-จีฮุน) ซึ่งไม่สามารถรับรู้ความเป็นไปใดๆ เกี่ยวกับพระราชบิดาของตนได้เลย เพราะถูกกีดกันไม่ให้เข้าใกล้ โดยพวกอำมาตย์ชั้นสูง รวมทั้งพระมเหสีวัยสาว (พระชายาองค์ใหม่ของพระราชา) ที่กำลังตั้งครรภ์และหมายมั่นอย่างแรงกล้าว่า ลูกในท้องของตนจะต้องได้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป แต่ด้วยความน่าเคลือบแคลงสงสัย หลังจากไม่เห็นพระราชบิดาเสด็จออกหน้าบัลลังก์นานหลายวันเนื่องจากทรงพระประชวรหนัก ทำให้องค์รัชทายาทจำเป็นต้องสืบสาวราวเรื่องให้รู้แท้แน่กระจ่างว่าพระบิดาของตนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้พระองค์ต้องตกที่นั่งลำบากหนักไปกว่าเดิม ถึงขั้นที่ถูกตีตราว่าเป็นกบฏ

อย่างไรก็ดี ขณะที่ปริศนาเกี่ยวกับพระราชบิดายังไม่ถูกแก้ อยู่ๆ ก็มีฝูงซอมบี้ผีดิบลุกขึ้นมาอาละวาด ไล่กัดคนไปทั่วทั้งเมือง กลายเป็นอีกหนึ่งปมปัญหาที่องค์รัชทายาทจะต้องค้นหาคำตอบ พร้อมทั้งคลี่คลายเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ในวังหลวง

และเมื่อเรื่องราวดำเนินไป เราก็จะได้เห็นภาพชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่า แก่นสารสาระของ “คิงดอม” ไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย หากแต่เป็นเรื่องของการแย่งชิงอำนาจราชบัลลังก์ โดยมี “ผู้เล่น” ที่พอคาดเดาได้ อยู่ที่ว่า ใครจะกระหายในอำนาจมากน้อยเพียงใด และนำไปสู่พฤติการณ์ที่สามานย์แค่ไหน ซึ่งบางพฤติการณ์ก็ไปไกลมาก ถึงขั้นที่อาจทำให้เมืองทั้งเมืองล่มสลายลงไปได้เลย

ณ ที่นี้ ผมไม่ขอลงรายละเอียดมากนัก เพราะเดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์เรื่องราวเนื้อหามากเกินไป แต่บอกได้เลยครับว่า เป็นซีรี่ส์เกาหลีที่ดูสนุกมากจริงๆ โดยพื้นฐานของเรื่อง คนเขียนบทเขาได้ไอเดียมาจากบทบันทึกที่จารึกไว้ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน เมื่อประมาณ 500-600 ปีก่อน หรือในราวๆ รัชสมัยของพระเจ้าซุนโจ (พ.ศ. 2343 – 2377) โดยบันทึกดังกล่าวมีเนื้อหาใจความบางส่วนบอกไว้ประมาณว่า มีโรคระบาดที่ไม่ทราบสาเหตุ แพร่กระจายมาจากภาคตะวันตก ทำให้คนในเมืองฮันยางเสียชีวิตไปกว่าหนึ่งหมื่นคน ในช่วงเวลาแค่ 10 วัน

ความสนุกของงานชิ้นนี้ก็คือการเติมแฟนตาซีลงไปให้ดูบันเทิง ด้วยการตีความ “โรคระบาด” ดังกล่าว ว่าเป็นเหมือนเชื้อไวรัสที่นำไปสู่การก่อเกิดของของซอมบี้ผีดิบ เพียงแต่พอเป็นละครหรือซีรี่ส์ ก็มีการเขียนบทให้ดูน่าเชื่อถือขึ้นว่า ที่มาของผีดิบซอมบี้นี้มาอย่างไร แต่โดยรวมๆ แล้ว ต้องยอมรับว่า นี่คือ “งานดี” มากๆ ครับ ไล่ตั้งแต่บทภาพยนตร์ที่มีทั้งความตึงเครียด ความลุ้นระทึก ดราม่า แอ็คชั่น สยองขวัญ ผสมผสานกันออกมาได้อย่างลงตัว ส่วนเรื่องงานด้านโปรดักชั่นนั้น ก็ต้องบอกว่า “สุด” จริงๆ ... ฟังว่า ซีรี่ส์เรื่องนี้มีการลงทุนสร้างสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ละครซีรี่ส์เกาหลีเลยทีเดียว โดยซีซั่นแรกที่มีทั้งหมด 6 ตอนนี้ แต่ละตอนใช้งบประมาณสูงถึง 1.78 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 60 ล้านบาท เรียกว่าลงทุนสูง และผลลัพธ์ออกมาก็คุ้มค่าจริงๆ

และที่สำคัญ คนที่เป็นแฟนคลับของนักแสดงนำ นั้นคงไม่ต้องพูดถึง เพราะงานชิ้นนี้ มีนักแสดงหนุ่มชื่อดังเป็นตัวหลักของเรื่อง “จู จีฮุน” คนนี้เคยแจ้งเกิดจากซีรี่ส์ที่ถือว่าดังมากๆ เรื่องหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน คือ Princess Hours (เจ้าหญิงวุ่นวาย เจ้าชายเย็นชา) ขณะที่ล่าสุดก็มีบทบาทสำคัญในหนังดังอย่าง Along with the Gods หรือ “ฝ่า 7 นรก ไปกับพระเจ้า”... บทบาทของเขาคือหนึ่งในหัวใจสำคัญของ Kingdom ซึ่งเชื่อว่า น่าจะตอกย้ำความรักความชื่นชมในตัวนักแสดงหนุ่มคนนี้ให้มากยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับแฟนคลับที่นิยมชมชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“จู จีฮุน” รับบทเป็น “อีชาง” รัชทายาทที่ดูแล้วมีแววจะถูกเขี่ยออกจากราชบัลลังก์สูงมาก จากความทะเยอทะยานของพวกชนชั้นสูงที่พยายามจะไต่ขึ้นสู่อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ เรื่องราวของ “อีชาง” ดูแล้วก็ไม่ต่างไปจากพล็อตคลาสสิกๆ ที่เราจะเห็นได้ในละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ตัวละครหลักจะต้องระหกระเหินเดินทางออกไปผจญภัยนอกบ้าน ค้นหาของวิเศษบ้าง หรือตามหาคนที่จะสามารถช่วยเหลือได้บ้าง โดยสิ่งที่เสริมมาก็คือการได้เปิดหูเปิดตาแลเห็นความเป็นจริง เช่นเดียวกับสิ่งที่ “อีชาง” ได้พบได้เห็นนอกรั้วนอกวัง ซึ่งก็คือสภาพความเป็นอยู่อันแร้นแค้นแสนลำบากของราษฎรที่ชวนสะท้อนสะเทือนใจ ต่างจากโลกที่เขาจากมา ซึ่งกำลังหลงบ้าแก่งแย่งชิงดี โดยไม่สนใจผู้ที่อยู่ระดับล่างๆ ของสังคม

คือในซีรี่ส์ เราจะได้เห็นผู้นำหลากหลายรูปแบบมากครับ บางผู้นำก็ควรจะไปเป็นตัวตลกตามคณะละครสัตว์ด้วยซ้ำ บางผู้นำก็เห็นแก่ตัวอย่างน่าขยะแขยง ขณะที่อีกหลายๆ ผู้นำก็ไม่คิดอะไรมากไปกว่าจะทำอย่างไรให้ตนเองได้ปีนป่ายขึ้นสู่อำนาจที่มากกกว่าเดิม เป็นพวกแสวงอำนาจ เกาะราชบัลลังก์ ยอมแม้กระทั่งสร้างเรื่องต่ำช้าเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะคิดได้ แต่สำหรับ “อีชาง” ซึ่งเป็นรัชทายาท เขาได้ค่อยๆ ทำให้เราเห็นถึง “คุณค่า” และ “ความหมาย” ของการเป็นผู้นำ หรือแม้กระทั่งการเป็น “พระราชา” อย่างถ่องแท้

ขอเล่าให้ฟังสักเล็กน้อย... มีฉากหนึ่งซึ่งน่าประทับใจมากๆ คือตอนที่องค์รัชทายาทกำลังพาประชาชนกลุ่มหนึ่งหลบหนีไปยังที่ปลอดภัยจากพวกซอมบี้ ขณะที่พระอาทิตย์เคลื่อนคล้อยลอยต่ำและเป็นเวลาที่ฝูงซอมบี้จะฟื้นตื่นขึ้นมา แต่เกวียนเล่มหนึ่งกลับเกิดติดขัดกับแง่งหินขึ้นมาดื้อๆ ฝูงซอมบี้เริ่มลุกฮือขึ้นมาแล้ว แต่องค์รัชทายาทยังคงพยายามที่จะเคลื่อนเกวียนเล่มนั้นขึ้นจากแง่งหินให้ได้ แม้ใครจะบอกให้พระองค์ทรงรีบหนีไป แต่พระองค์ก็ทรงยืนยันว่า จะไม่ทอดทิ้งประชาชนของพระองค์เหมือนกับพวกผู้นำของเมืองคนอื่นๆ และจะทรงแสดงให้พสกนิกรเห็นว่า พระองค์นั้นแตกต่างจากพวกเขา ไม่ว่าจะทุกข์ยากแสนเข็ญสักเพียงใด (หรือแม้กระทั่งอาจถูกพวกผีร้ายกัดกิน) พระองค์ก็จะไม่ทรงทอดทิ้งพสกนิกรของพระองค์

นี่คือหนึ่งในความงดงามยิ่งใหญ่ในเชิงเนื้อหาของซีรี่ส์เรื่องนี้ที่มีคำว่า “คิง” ร่วมอยู่ด้วย “คิงดอม” (Kingdom) หมายถึง “อาณาจักร” แต่เนื้อหาของซีรี่ส์ ก็คล้ายๆ จะชี้ชวนให้คนดูตระหนักคิดว่า “คิงดอม” จะอยู่ได้หรือไม่อย่างไร หากขาดไร้ซึ่ง “คิง” (King : ราชา, พระมหากษัตริย์) ที่เป็นเสาหลัก .... ซึ่งองค์รัชทายาทในซีรี่ส์เรื่องนี้ ก็ได้ทำให้ความหมายของคำว่า “คิง” ส่องสว่างเจิดจ้าออกมาอย่างงดงาม

เมื่อความมืดเข้าครอบคลุม ซอมบี้ผีดิบจะมีพลังลุกขึ้นมาไล่ล่ากัดผู้คน แต่ทว่าเมื่อแสงอาทิตย์สาดทอ พวกมันก็จะหลบลี้หลีกเร้น ... บางที นี่อาจเป็นความหมายแยบคายที่ซ่อนอยู่ในซีรี่ส์เรื่องนี้

“รัชทายาท” อย่าง “อีชาง” เปรียบเสมือนแสงที่ทอขึ้นมาท่ามกลางความมืดมน ยามที่อาณาจักรมืดหม่นไร้หวัง “อีชาง” ไม่เพียงต้องทวงคืนราชบัลลังก์จากพวก “ผีดิบ” ที่กำลังคลั่งกระหายในอำนาจ แต่เขายังเป็นศูนย์รวมแห่งความหวังที่พึ่งได้ ในยามที่ประชาชนต้องผจญกับเหล่าซอมบี้ที่มีแค่ร่างกับความดุร้ายแต่ไร้สิ้นซึ่งหัวใจ

แต่ก็อย่างที่รู้ครับว่า พวกซอมบี้ผีดิบ มันไม่รู้จักหรอกว่า ใครคือสามัญชน? ใครคือกษัตริย์? ใครคือรัชทายาท หรือราชวงศ์? ขอเพียงมันฝังเขี้ยวลงไปได้ มันก็กัดไปได้ทั่วทุกตัวตน!









กำลังโหลดความคิดเห็น