xs
xsm
sm
md
lg

“กีฟ” เซ็งดรามาตัดน้อง ถูกด่าอีนี่นิสัยไม่ดี “บูม” ยันตัวจริงแค่ตรง ไม่เลว ถ้าเลวคงไม่คบ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“บูม กิตตน์ก้อง” เห็นดีเห็นงาม “กีฟ ดราภดา” ตัดพี่ตัดน้องกับ “เกรซ” โดดป้องเป็นคนแรง-ตรง แต่ไม่ใช่คนเลว ถ้าเลวคงไม่เลือกเป็นแม่ของลูก ด้านกีฟเผยพร้อมจวกชาวเน็ตเสี่ยงตายเข้ามาเมนต์มั่วๆ ในไอจี ชี้พ่อรู้ทุกเรื่อง แนะให้พูดความจริงกับสื่อ

ออกงานคู่ให้หลายๆ คนได้แอบอิจฉาก่อนถึงวันวาเลนไทน์ สำหรับนักแสดงหนุ่ม “บูม กิตตน์ก้อง ขำกฤษ” กับหวานใจอย่างสาว “กีฟ ดราภดา โสตถิพิทักษ์” ซึ่งทั้งคู่ก็เผยว่าคบกันในฐานะแฟนมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว และมีแพลนจะแต่งงานกันแน่นอน แต่อยากรอให้ธุรกิจอยู่ตัวมากกว่านี้ก่อน เพราะเพิ่งเริ่มทำด้วยกัน ส่วนความรักแฮปปี้ดีทุกอย่าง เพราะผ่านการทะเลาะกันมาแล้วทุกเรื่อง

บูม : “ปีนี้จะเข้าปีที่ 7 แล้วที่รู้จักกันมาครับ แต่ที่เพิ่งคบกันเป็นแฟนก็ตอนที่ผมปลดจากเป็นทหารปี 59 ครับ ก็ประมาณ 2 ปีกว่า ความหวานก็เท่าเดิมครับ เรื่องแต่งก็แต่งแหละครับ แต่ไม่ใช่เร็วๆ นี้ (หัวเราะ) ขออีกสักนิดนึง เพราะธุรกิจบูมก็เพิ่งเข้าปีที่ 2 เอง และมันก็กำลังไปได้ดี แต่บูมอยากให้มันมั่นคงกว่านี้ อยากให้วันนึงเราไปเที่ยว ไปพักผ่อนแล้วไม่ต้องมาคอยคิดแต่เรื่องงาน เราอยากให้มันมั่นคงจริงๆ แต่ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันนะครับ”

กีฟ : “ถ้าถามกีฟตอนนี้ก็อยากจะทำให้ธุรกิจที่เราสร้างด้วยกันมั่นคงก่อน มีสัก 10 สาขาก่อน ซึ่งความรักที่ผ่านมาก็ดีนะคะ ถ้ามุมมองส่วนตัวถ้าถามกันแค่สองคนกีฟว่าดี และถ้ามุมมองครอบครัวก็ค่อนข้างดีมาก เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ชอบพี่เขามาก ถามว่าเขาเป็นคนยังไง คือหนูว่าต้องมีความอดทนค่ะ เพราะว่าอารมณ์หนูขึ้นๆ ลงๆ (หัวเราะ)”

บูม : “ช่วงเขาป่วยเป็นไทรอยด์ครับ และด้วยเราตกลงกันตั้งแต่แรกมากกว่า ด้วยความที่เขากับผมโตมาคนละสังคม เหมือนคนละโลกกัน แล้ววันนึงต้องมาคบกัน มาเป็นแฟนกัน ก็เริ่มต้นด้วยการคุยกันว่าเราจะมาทะเลาะกันให้มันครบทุกเรื่อง แล้วพอวันนึงทะเลาะกันครบทุกเรื่องแล้ว วันนึงมันก็จะหมดเรื่องทะเลาะกัน แล้วก็จะอยู่ด้วยกันได้ แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกันคือเราต้องมาคุยกันนะว่าจุดเริ่มต้นมันคืออะไร ทำไมถึงทะเลาะกันเรื่องนี้ แล้วเราก็มาจูนกัน”

“นี่คือวิธีแก้ไขปัญหา พอครั้งต่อไปพอเราจะทะเลาะกันเราก็จะบอกว่าเรื่องนี้เราทะเลาะกันแล้วนะ เราไม่ต้องทะเลาะกันอีก คุณรู้ว่าต้องทำยังไง ผมรู้ว่าต้องทำยังไง ก็จบ แยก ก็ทะเลาะเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ จนทุกวันนี้มันจะครบทุกเรื่องแล้วครับ (ยิ้ม) แต่จะเป็นปีแล้วนะที่ไม่มีเรื่องให้ทะเลาะกัน เพราะมันทะเลาะกันมาแทบจะครบทุกเรื่องแล้วจริงๆ และทุกครั้งเราก็ยังไม่ไปไหน เรายังอยากที่จะอยู่ด้วยกัน ก็เลยผ่านจุดนั้นมาครับ

กีฟ : “ความจริงไม่ใช่คำว่าอดทนนะคะ เขาเรียกว่าพยายามเข้าใจมากกว่าว่าธรรมชาติของเราเป็นยังไง อันนี้คือข้อดีของเขาที่พอเวลามีปัญหาบางคนเลือกที่จะไม่คุย แล้วก็เงียบ แล้วก็กลับมาทะเลาะเรื่องเดิม แต่สำหรับเราคือพอเรามีปัญหาเราจะพยายามทำความเข้าใจกันว่าทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้ มันก็ทำให้อยู่กันได้ กีฟว่าอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญก็คือพี่เขาเป็นคนทำให้เรารู้สึกว่าไว้ใจได้ กีฟว่าคู่รักเรื่องความไว้ใจนี่สำคัญนะ อย่างสมมติเขาบอกว่าถ่ายละครถึงตี 2 เราจะรู้มั้ยว่าไปถ่ายละครจริงหรือเปล่าหรือว่าไปไหน แต่ว่าสิ่งที่เขาทำมาตลอดมันทำให้เรารู้สึกว่าเขาบอกว่าถ่ายละครก็คือถ่ายละครจริงๆ ทำงานก็คือทำงานจริงๆ”

เผยแฟนสาวเป็นคนตรง ไม่ใช่คนแรงหรือคนเลวอย่างที่หลายๆ คนคิด เพราะไม่อย่างนั้นตนคงไม่คบด้วย
บูม : “กีฟเป็นคนตรงครับ แต่ถ้าถามว่าแรงมั้ย คือผมอยากจะบอกเลยว่าผมก็เคยเห็น ผมก็เคยอ่านมาผ่านๆ เหมือนกัน สำหรับคนที่วิจารณ์หรือคนที่ด่า คือคุณไม่ได้รู้อะไรเลย คุณเห็นแค่เสี้ยวเดียวแล้วคุณมาตัดสินชีวิตผู้หญิงคนนี้ คือผมอยากจะบอกว่าผมถูกเลี้ยงดูมาค่อนข้างดีนะ ถึงว่าบ้านผมจะไม่ได้รวยมาตั้งแต่เด็ก แต่พ่อแม่ผมเลี้ยงมาอย่างดีตลอด แล้ววันนึงผมจะรักผู้หญิงสักคนนึง ผมคงไม่เอาผู้หญิงเลวๆ หรือว่าผู้หญิงที่มันไม่ดีแบบที่พวกคุณด่ามาเป็นคนในครอบครัวหรืออาจจะมาเป็นอนาคตแม่ของลูกผมหรอก”

“เพราะฉะนั้นผมต้องเลือกเป็นอย่างดีแล้ว ผมต้องรู้จักเขาเป็นอย่างดีแล้ว ก็อยากจะขอบคุณคุณแหละว่าคุณอาจจะเป็นห่วงผมหรือเปล่าหรือยังไงไม่รู้ แต่ก็ไม่ต้องห่วงครับ ผมว่าผู้หญิงคนนี้เขาดีมากพอที่จะทำให้บูมเลือกที่จะอยู่กับเขา ก็เพราะด้วยข่าวของน้องด้วยหรือเปล่า หรืออาจจะด้วยภาพลักษณ์ที่น้องเป็นนางแบบเซ็กซี่หรือว่าเป็นนางร้าย บางคนก็อาจจะตัดสินจากภายนอกครับ”

กีฟ : “ถามว่าให้กำลังใจกันมั้ย ความจริงเหมือนเรารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนแบบไหน แต่คือกีฟเป็นคนไม่ค่อยยิ้ม แล้วเวลาไปเดินห้างด้วยความที่เราไม่ได้ไปเดินยิ้มตลอดเวลา 360 องศากับทุกคน พอคนเห็นหน้าก็จะคิดว่าอีนี่นิสัยไม่ดีแน่นอน เพราะหน้าตาเป็นคนไม่ดี ทั้งๆ ที่ความจริงถ้าคนมารู้จักกีฟคือหน้ามันเป็นแบบนั้นมันทำอะไรไม่ได้กับหน้า แต่ว่าเป็นคนเฟรนด์ลี่นะ”

“หรือจะคิดว่าเพราะข่าวในครอบครัวที่ออกมาทำให้คนมองว่าเราเป็นคนแรง กีฟว่าแรงกับตรงมันต่างกันตรงที่คนที่แรงๆ บางทีเขาแรงโดยที่เขาไม่มีเหตุผลว่าทำไมเขาจะต้องทำอย่างนั้น แค่เป็นความรู้สึกที่ว่าก็ฉันไม่ชอบแบบนี้ ฉันก็เลยแสดงออกแบบนี้เวลาคนมาแบบนี้ แต่ว่าของกีฟทุกอย่างที่กีฟทำคือคุยกับพ่อตลอดนะ ตอนที่สัมภาษณ์ล่าสุดกีฟก็คุยกับพ่อ พ่อก็แนะนำว่าก็บอกเขาไปเลยสิว่าทำไม”

บูม : “แต่น้องก็เลือกที่จะไม่พูด ก็ดีแล้วครับ ไม่รู้จะพูดทำไม บูมอยากจะบอกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมาที่น้องมีปัญหา เชื่อมั้ยว่าบูมรู้ทุกเรื่องเลยเกี่ยวกับตัวน้อง เพราะบูมเป็นคนใกล้ชิดของน้องกีฟ แต่บูมเลือกที่จะไม่พูดมาตลอด แต่บูมอยากจะบอกว่าใครทำอะไรบูมรู้หมด เพราะว่าผมอยู่กับน้องเขาตลอด แต่ผมก็เลือกที่จะไม่พูด และบูมก็เคารพในการตัดสินใจของน้องกีฟ เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่น้องเขาทำคือดีที่สุดแล้ว”

“เพราะถ้ามันไม่ดีผมจะต้องบอกเขาแล้วว่าหนูทำแบบนี้ทำไม ทำไมหนูถึงตอบพี่ๆ เขาแบบนี้ ผมก็ต้องเตือนต้องบอกเขาอยู่แล้ว แต่มันก็มีเหตุผลของมันว่าทำไมผมถึงเคารพในการตัดสินใจของเขา เพราะเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้เขาทำถูกที่สุดแล้วครับ และสิ่งที่เขาทำมันมีผลดีกับทุกคนที่สุดแล้ว เพราะถ้าเขาเลือกที่จะพูด เลือกที่จะบอกความจริงมันก็ไม่มีทางจบ เรื่องใหญ่แน่นอนครับ”

กีฟ : “กีฟเองไม่ค่อยได้เข้าไปดูในคอมเมนต์ในข่าวสักเท่าไหร่ ถ้าไม่ได้แท็กมา แต่ก็จะมีแฟนคลับมาบอกว่าหนูโมโหที่เขาพูดแบบนี้กับพี่ ทั้งๆ ที่เขาไม่รู้อะไร แล้วก็จะมีบางคนที่เสี่ยงตายเข้ามาในไอจีกีฟ (หัวเราะ) เรียกว่าเสี่ยงตายนะ เพราะว่ากีฟสวน (ยิ้ม) กีฟไม่ชอบคนที่ไม่รู้แล้วมาพูดเหมือนว่าคุณอยู่ในเหตุการณ์กับเรา ซึ่งความจริงกีฟคุยกับพ่อตลอด แล้วพ่อก็ดูทุกสัมภาษณ์”

“สัมภาษณ์ล่าสุดพ่อก็ดู แล้วพ่อก็แนะนำอย่างที่กีฟบอกไปว่าพ่อบอกให้บอกเหตุผลจริงๆ เขาไปเลย เขาจะได้เลิกมายุ่งกับหนูสักที แต่พ่อเคารพการตัดสินใจของหนู เพราะฉะนั้นแค่นี้มันน่าจะเป็นตัวที่บอกได้แล้วว่าพ่อรู้ทุกเรื่อง หนูเล่าให้เขาฟัง แล้วเขาก็ต้องเห็นว่าสิ่งที่หนูตัดสินใจทำมันมีน้ำหนักมากพอที่เขาจะไม่บอกหนูว่าพ่อว่าลูกทำแบบนี้ไม่ถูก แต่เขาบอกแค่ว่าพ่อเข้าใจและเคารพในการตัดสินใจ มันก็เพียงพอแล้ว”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)






กำลังโหลดความคิดเห็น