“เป้ วงมายด์” ควงเพื่อนๆ ในวงแถลงโต้แฟนเก่า ยันเป็นลูกผู้ชาย ไม่ได้รุมทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย แต่ยอมรับมีปากเสียงกัน เพื่อนๆ แค่เข้ามาปรามและอุ้มฝ่ายหญิงออกจากร้าน ย้ำไม่ได้ลงไม้ลงมือ งงทำไมเพิ่งออกมาดิสเครดิต ท้าถ้ามีหลักฐานก็ฟ้องเลย พร้อมสู้ในศาล โอดเสียภาพลักษณ์ ลูกค้าแคนเซิลงาน เลี่ยงตอบเรื่องเลิก “หมิว สิริลภัส” ผ่านมาแล้วให้ผ่านไป
ตกเป็นข่าวอื้อฉาวยกวงเลยทีเดียว หลังจากที่ “หมิว สิริลภัส” ออกมาเผยว่าได้เลิกรากับ “เป้ วงมายด์” บดินทร์ เจริญราษฎร์ ไม่นาน “แป้ง” อดีตแฟนอีกคนของหนุ่มเป้ก็ออกมาแฉว่าเคยคบนักร้องดัง เมื่อ 6 ปีก่อน แต่เลิกเพราะฝ่ายชายมีมือที่สามเป็นดาราช่องมากสี เคยโดนตบ และเพื่อนในวงรุมทำร้าย ซึ่งแม้ฝ่ายหญิงไม่ได้เอ่ยชื่อเป้ วงมายด์ แต่ชาวเน็ตต่างก็พุ่งเป้ามาที่หนุ่มเป้
ล่าสุด เป้พร้อมเพื่อนร่วมวง อาทิ เต่า เจน มโนภินิเวศ กีตาร์, ขุน พิทวัส ขุนทอง มือเบส, ทอมท่อม ณธีพัฒน์ ประเสริฐมนูกิจ มือคีย์บอร์ด, เป้ ไพสิฐ คำกลั่น แซ็กโซโฟน, คอรัส และ ไมค์ ธงไชย ทิมพูล มือกลองก็ได้ตั้งโต๊ะแถลง ชี้แจงความจริงอีกด้าน ยอมรับเป้มีปากเสียงกับอดีตแฟน แต่เพื่อนร่วมวงแค่ช่วยห้ามปรามไม่ให้อยูใกล้กันเพราะมีการลงไม้ลงมือเกิดขึ้น เพื่อนในวงแค่ห้ามไม่ให้เกิดเรื่องรุนแรงเพราะร้านกำลังจัดงานแกรนด์โอเพ่นนิ่ง แต่เหตุการณ์บานปลาย มีการลงไม้ลงมือถือขวดน้ำ ทำลายทรัพย์สินในร้าน เลยต้องเอาตัวเขาออกจากร้าน ย้ำอีกฝ่ายก็ทำร้ายร่างกายก่อน การที่ตีข่าวว่าจิกหัวตบเขา ไม่มีโอกาสทำ และไม่คิดจะทำ
เป้ : “จริงๆ ช่วงนี้รู้สึกพี่ๆ จะให้ความสนใจพอสมควรนะครับ ผมก็ต้องขอบคุณมากนะครับ มีหลายข่าวเหลือเกินนะครับตอนนี้ ก็เอาเป็นว่าผมขอพูดในส่วนที่เพื่อนๆ ผมโดนหางเลขไปด้วยแล้วกัน ก็คือเรื่องที่มีการพูดถึงว่าเรามีโอกาสไปทำร้ายผู้หญิง เป็นการรุมทำร้ายผู้หญิง ผมต้องพูดว่าจริงๆ แล้วเรื่องราวมันเกิดขึ้นมานานมากแล้ว ประมาณสัก 6-7 ปีผ่านมาแล้วนะครับ เรื่องราวจริงๆ แล้วมันถูกบิดเบือนไปจากความเป็นจริงเยอะพอสมควร”
“จริงๆ แล้วก่อนที่จะมีการตีความอะไรอย่างนี้ออกไปผมแนะนำว่าน่าจะต้องได้คุยกันก่อนทั้งคู่มากกว่า เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร ผมได้คุยกับทางค่ายมาแล้วและทางผู้ใหญ่หลายๆ คนมาแล้ว เพราะเรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก มันเป็นเรื่องของการทำร่ายร่างกายคนน่ะครับ มันไม่ใช่เรื่องบันเทิงทั่วๆ ไป ผมขออนุญาตพูดอะไรที่ผมพูดได้เท่านั้นนะครับ เพราะถ้าพูดอะไรที่มันเกินกว่านี้ไปมันอาจจะไปส่งผลกระทบต่อเรื่องอื่นๆ ด้วย ถามว่าผมได้ทำร้ายเขามั้ย ไม่ครับ จริงๆ วันนั้นเป็นวันที่พวกเราเปิดร้าน อยู่ที่ซอยเสือใหญ่”
เต่า : “เป็นร้านเหล้าที่พวกเราหุ้นกัน ก็เป็นวันแกรนด์โอเพนนิ่งที่มีศิลปินเยอะมาก และมีคนทั่วไปที่มานั่งใช้บริการที่ร้านด้วยนะครับ และเรื่องมันเกิดว่าคุณเป้กับแฟนเก่าเขามีปากมีเสียงกัน เราก็เห็นท่าไม่ดี สิ่งที่เราทำวันนั้นก็คือเป็นการห้ามปราม ไม่ให้เขาอยู่ใกล้กันครับ เพราะว่ามันมีการลงไม้ลงมือกันเกิดขึ้น ค่อนข้างรุนแรง เราก็เลยแยกให้มันอยู่ห่างกัน เพื่อให้คนในร้านจะได้ไม่ตกใจ และไม่ให้เกิดปัญหาครับ เราก็ต้องควบคุมสถานการณ์ของร้านด้วย เพราะร้านกำลังจัดงานอยู่ด้วยครับ แต่เหตุการณ์มันบานปลายจนมีการลงไม้ลงมือ ถือขวดน้ำและทำลายทรัพย์สินในร้าน เราก็เลยต้องพาตัวเขาออกนอกร้านครับ”
เป้ : “อันนี้เราพูดถึงอีกฝั่งนึงนะครับ จริงๆ แล้วพวกเรา 6 คน การที่เราจะมาทำอะไรแบบนั้นหรือว่าตามที่ข่าวตีออกไปว่าเรามีการไปจิกหัวหรือไปตบเขา ผมพูดตรงๆ ว่าเราไม่มีโอกาสไปทำอะไรแบบนั้นเลย ไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าจะทำแบบนั้น และไม่ได้ทำด้วยนะครับ”
เต่า : “คือคนเต็มร้านขนาดนั้น เราไม่สามารถไปรุมทำร้ายผู้หญิงได้อยู่แล้วครับ คือถ้ามีเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นจริงๆ คิดว่ามันจะไม่มีภาพออกมาตั้งแต่วันนั้นเหรอครับ เพราะว่าคนอยู่เยอะมากวันนั้น พี่ๆ ศิลปินคนอื่นก็อยู่ครับ”
เป้ : “ถามว่าผมได้ต่อสู้มั้ย ผมไม่ได้อะไร”
เป้ แซ็กโซโฟน : “เป้ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ พวกผมก็เลยต้องคอยห้าม เพื่อให้เขาไม่ทำร้ายเป้ด้วยครับ”
เป้ : “ถามว่ามีจังหวะไหนที่ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าเราทำร้าย คือเขาเจตนาเข้ามาทำร้ายก่อน ทีนี้หน้าที่ของพวกเราคือทำยังไงก็ได้ให้มีความสงบในร้านมากที่สุด พวกเราก็เลยจัดการที่จะต้องยกเขาออกไป”
เป้ แซ็กโซโฟน : “อุ้มออกไป เหมือนเวลาห้ามคนทะเลาะกันนั่นแหละครับ”
เป้ : “แต่ไม่มีการจิกหัวหรือมาตบอะไรอย่างที่ข่าวออกไปแน่นอน”
เต่า : “คือข่าวบอกว่าคุณเป้บอกให้พวกผมไปรุมทำร้าย ผมอ่านแล้วก็มันไม่ใช่เป็นการสั่งการครับ มันเป็นการห้ามปรามมากกว่าว่าอย่าทะเลาะกันนะ เพราะไม่อยากให้มีปัญหาภายในร้านเท่านั้นเอง”
เป้ แซ็กโซโฟน : “ส่วนที่บอกว่าเป้ไปกับผู้หญิง ผมเป็นคนดึงเป้กลับไปนอนที่บ้านผมเอง”
เต่า : “คือร้านมันอยู่ใต้ดินครับ มันมีทางออกทางเดียวคือตรงบันไดแคบๆ เลย”
เป้ แซ็กโซโฟน : “สุดท้ายคือเราดันคุณผู้หญิงคนนั้นไปไว้ในร้าน และพยายามดึงเป้ไปไว้ข้างบนให้ได้เพื่อจะหนีกลับ ผมก็พยายามให้พี่ชายผมมารอ คือเราทำยังไงก็ได้ให้เป้หนีออกมาให้ได้ก่อน เพราะอยู่ตรงนั้นไม่ได้แล้วเพราะมันค่อนข้างรุนแรง ก็เลยรีบเอาเป้ออกไปให้ได้ก่อน ถ้าตามในข่าวก็คือคุณเป้ออกไปจากร้านจริงครับ เพราะต้องเอาออกจากร้านแล้วเพราะว่ามันจัดการสั่งการอะไรไม่ได้แล้ว”
ยันผู้หญิงอีกคนที่ถูกพาดพิงเป็นแฟนของเป้ แซ็กโซโฟน ไม่ใช่นางร้าย 7 สี
เป้ แซ็กโซโฟน : “ผู้หญิงที่ไปด้วยคือแฟนผม เขาเป็นคนขับรถมากับผม ถ้าผู้หญิงที่เห็นในรถนั่นคือแฟนผมครับ”
เคยมีทะเลาะกระทบกระทั่งแต่ไม่รุนแรง
เป้ : “ถามว่าเคยมีประวัติกระทบกระทั่งกันมาก่อนมั้ย คือผมเชื่อว่าทุกคู่ต้องมีการทะเลาะกันอยู่แล้ว แต่เรื่องรุนแรงไม่รุนแรงอันนี้ผมไม่ทราบ คือส่วนตัวผมเองผมคิดว่าผมดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ผมพยายามไม่ให้เดือดร้อนกับใคร ผมพยายามให้มันเป็นเรื่องของคนสองคนมาเสมอ แต่พอมาถึงวันนั้นมันเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนต้องมาเดือดร้อนในร้าน ผมก็เลยรู้สึกว่าผมทำได้ดีที่สุดก็คือผมพยายามไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น เพราะวันนั้นเป็นวันแกรนด์โอเพนนิ่ง ผมต้องดูแลแขกทุกคนที่อยู่ในร้าน แต่สุดท้ายกลายเป็นว่ามีผู้หญิงคนนึงเข้ามาทำให้เกิดความไม่สงบในร้าน ผมทำได้ดีที่สุดคือผมอยู่เฉยๆ และต้องให้ทุกคนช่วยแยกเขาออกไป และสุดท้ายผมก็ต้องเป็นคนออกไปจากร้านเอง ทั้งๆ ที่มันเป็นร้านของผมนะครับและเป็นวันแกรนด์โอเพนนิ่งของผม ผมต้องเป็นคนออกจากร้าน ผมว่าแค่นี้มันก็มากแล้วนะครับ”
เป้ แซ็กโซโฟน : “อีกอย่างที่ผมว่าไม่จริงที่ว่าคุณขุนไม่ห้ามในเหตุการณ์วันนั้น จริงๆ วันนั้นคุณขุนไม่อยู่เลยด้วยซ้ำในจังหวะนั้น ดังนั้นไม่จริงเลย”
ท้าถ้ามีหลักฐานก็ให้งัดออกมา รอทำไมตั้ง 6 ปี
เป้ : “มั่นใจครับ เอาเลยครับ”
เต่า : “วันนั้นลูกค้ามันเยอะ ผมว่าพยานน่าจะเยอะกว่านั้น ผมว่าถ้าจะไล่พยานคนก็น่าจะเห็นเยอะ มันไม่ใช่การรุมแน่นอน”
เป้ แซ็กโซโฟน "มันมีคนนอกด้วย มีพี่ๆ ศิลปินคนอื่นด้วย จริงๆ มันสามารถถ่ายคลิปเอาไว้ได้และเอาออกมา จริงๆ มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ไม่รู้ยังมีอยู่มั้ย”
เป้ : “มันแปลกตรงที่ว่าอยู่ๆ เรื่องราวเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นมา ทั้งที่เรื่องนี้มันผ่านมาแล้ว 6 ปี แต่อยู่ๆ ก็มามีเรื่องนี้เกิดขึ้นมา แล้วถ้าสมมติว่ามีการรุมทำร้ายกันจริงๆ ตอนนั้นจะรอถึง 6 ปีทำไม อีกอย่างเขาได้บาดเจ็บจริงหรือเปล่า ถ้าเขาบาดเจ็บจริงๆ แล้ววันนั้นทำไมถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย”
เป้ แซ็กโซโฟน : “ทำไมไม่ไปแจ้งความ ไม่ไปโรงพยาบาล ทำไมไม่ไปเช็กร่างกาย”
คิดว่าทำไมเขาถึงออกมาพูดตอนนี้
เป้ : “นั่นสิ ไม่ทราบเลยครับ”
ยันตอนเป้คบแฟนเก่า ทุกคนในวงก็รักกันดี ช็อกที่ให้ข่าวแบบนี้
เป้ แซ็กโซโฟน : “เรารักกันดีครับ เพื่อนๆ แฟนเพื่อนเราก็ดูแลกันอยู่แล้วครับ เราสนิทกันมากด้วยครับ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราช็อกใช้ได้ในระดับหนึ่งเหมือนกัน ทุกคนก็ตกใจครับ แต่เราก็แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าในวันนั้นเฉยๆ ถามว่าเสียความรู้สึกมั้ย แน่นอน เรารักกันครับในระหว่างที่เขาคบกัน”
ถ้ามีหลักฐานจะดีมาก พวกตนคงไม่ต้องมานั่งแถลง เป็นลูกผู้ชายพอ ไม่รุม
เต่า : “ถ้ามีหลักฐานจริงๆ พวกผมไม่ต้องออกมาแถลงเลยนะ พวกผมก็ไม่ต้องมาพูดอะไรเลย”
เป้ : “ผมไม่แน่ใจเรื่องกล้องวงจรปิดของร้าน เพราะมันนานมากแล้ว”
เป้ แซ็กโซโฟน : “จริงๆ มีกล้องครับ เรากำลังตามอยู่”
เต่า : “ผมว่าฟังความกันไปมามันก็ไม่แฟร์ แต่สิ่งที่เราออกมาพูดแบบนี้คือมันไม่มีหลักฐาน เราก็ต้องการปกป้องที่สิ่งที่ว่าเราไม่ได้รุมทำร้ายผู้หญิง เราลูกผู้ชายพอครับ ทำไมต้องไปรุม แค่ทำร้ายผู้หญิงมันก็แย่แล้ว ทำไมต้องไปรุมทำร้ายอีก ผมว่าเรื่องมันละเอียดอ่อนกับพวกผมมาก มันส่งผลต่อภาพลักษณ์การทำงาน ครอบครัว คนใกล้ตัวครับ”
ออกมาโต้เพื่อปกป้องตัวเอง
เต่า : “ตอนแรกผมไม่ให้ความสำคัญนะ เพราะมันไม่ใช่ความจริง แต่ทีนี้พอคนใกล้ตัวมาถามมากขึ้น เพื่อน คนใกล้ชิดโทร.มาถาม ผมรู้สึกว่าไม่พูดไม่ได้แล้ว มันเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อจิตใจทุกคน การรุมทำร้ายผู้หญิง มันเป็นอะไรที่มันไม่ดี อะไรที่มันไม่จริง ต้องออกมาพูด ต้องออกมาปรึกษาค่าย ว่าทำยังไงดี คือไม่ได้ต้องการจะตอบโต้ใครนะครับ ต้องมาปกป้องตัวเองว่าไม่ได้ทำ”
ท้าให้ฟ้อง จะได้ไปสู้กันในศาล ดีกว่ามานั่งดิสเครดิต
เป้ แซ็กโซโฟน : “ผมไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องฟ้องร้องอะไร แต่ว่าถ้าเขารู้สึกว่าพวกผมทำร้ายเขาจริง เขาฟ้องร้องเลยก็ได้นะครับ ไปสู้กันตรงนั้นเลยดีกว่า ไม่ต้องมาให้ข่าวกันอย่างนี้ มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ใช่จะมาดิสเครดิตกันอย่างนี้”
เป้ : “เรื่องกลับไปคุยกัน คุยกับใครครับ เราเลิกคุยกันไป 6-7 ปีแล้วครับ แล้วก่อนที่จะมาแถลงก็ไม่ได้คุยครับ ปกติก็ไม่ได้คุยกันอยู่แล้ว คือเรื่องมันจบไปนานมาก ถามว่าจะมีโอกาสเคลียร์กันมั้ย ผมว่าจริงๆ แล้ว ถ้าเขาทำกับเราขนาดนี้ ผมว่าเขาไม่มีเจตนาดีกับเราแล้วครับ”
วอนอย่าทำร้ายตน อย่าให้ทุกคนต้องมาเป็นทุกข์เพราะตน
เป้ : “ผมว่าผมพูดขนาดนี้แล้วครับพี่ อย่าทำร้ายผมเลยครับ จริงๆ แล้วหน้าที่ของผมเองคือทำให้คนมีความสุข โดยการทำเพลง โดยการสร้างความสุขกับทุกๆ คน ขอให้ผมได้ทำหน้าที่นี้ต่อไปเถอะครับ อย่าให้ชีวิตของผมมาทำให้ทุกคนมีความทุกข์เลย อย่าให้คนต้องมามองผมผิดในทางนี้เลยครับ”
ฟ้องหรือไม่ขอรอดูหลังจากนี้
เป้ : “ตอนนี้ที่ทำได้ดีที่สุดคือออกมาชี้แจงแบบนี้แหละครับ ถามว่าเราจะฟ้องร้องใครมั้ยผมว่าเรื่องนั้นมันเป็นเรื่องทีหลัง ถ้าสมมุติมันยังคงไม่จบหรือมีเรื่องราวต่อไปแบบนี้อีก เราคงต้องปรึกษากับทีมทนายของทางค่ายแล้วครับ ว่าจะเป็นยังไงต่อไปครับ”
รู้สึกไม่ดี ภาพลักษณ์เสียหาย ลูกค้าแคนเซิลงาน
เป้ : “หลายเรื่องมากเลยครับ รอบๆ ตัวคนที่รักเราเขาแสดงความเป็นห่วงและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก รวมถึงลูกค้าหลายๆ คนที่ทราบข่าวนี้มันส่งผลต่อเรื่องงานของพวกเราด้วย มันทำให้ภาพลักษณ์ของเราดูเสียไปเยอะเลยครับ ผมรู้สึกว่าเรื่องพวกนี้มันละเอียดอ่อน อย่างที่บอกไป ถ้าจะทำอะไรแบบนี้หรือพูดข่าวออกมา มันควรจะคุยกันสองด้านก่อน ก่อนที่จะมีสื่อออกไปแบบนี้ มันส่งผลต่อภาพลักษณ์ของพวกเรามากๆ เลยครับ”
“ถามว่าโดนแคนเซิลงานเยอะมั้ย จริงๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีเข้ามาแล้วครับเพิ่งได้คุยกับทีม Marketing ก็มีแล้ว พอตอนนี้ลูกค้าเริ่มทราบเขาก็เริ่มถามว่า เคลียร์กับเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นหรือยัง ก็ได้บอกไปครับว่าวันนี้จะมีการแถลงข่าวการชี้แจงครับ เสียหายเยอะพอสมควรครับ”
เต่า : “จริงๆ เรื่องงานผมว่ามันก็ต้องมีอยู่แล้วครับ แต่เรื่องจิตใจเป็นอีกเรื่องที่ใหญ่มากกว่า บางทีการเสพข่าวแค่ฝั่งเดียวแต่ยังไม่ฟังความอีกข้าง แล้วตีความไปแล้วว่าพวกเราเป็นคนเลย มันรู้สึกกระทบจิตใจของผมมากกว่า”
เป้ แซ็กโซโฟน : “แล้วก็สังคมนะครับเพราะว่าเราสะสมกันมา 10 ปี เรื่องแค่นี้ทำไมที่มันไม่เป็นความจริงมันส่งผลต่อแฟนเพลงเราด้วยค่อนข้างหนักมากครับ”
เต่า : “จริงๆ คนที่ใกล้ชิดค่อนข้างเข้าใจนะครับ รอรับฟัง แต่คนที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิด เขาตัดสินเราไปเลย ตัดสินด้วยกันที่จะไม่ฟังเพลงอีกเลย”
เป้ : “มาด่าเสียๆ หายๆ ซึ่งบางทีเขาไม่รู้ด้วยความจริงคืออะไร อย่างที่ทราบกันดีครับทุกวันนี้ เรื่องโซเชียลบูลลี่มันมีเยอะอยู่แล้ว ทุกๆ ข่าวที่ออกไปมันส่งผลต่อเรื่องของคนเหล่านั้น มันเหมือนกลายเป็นประเด็นที่ทำให้คนเหล่านั้นไม่รู้จักเราจริงๆ ก็มาด่าเราเสียๆ หายๆ ซึ่งเรื่องบางเรื่องมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งที่เราทำเลย”
ฝากนักข่าวช่วยดูแลด้วย
เป้ : “ผมก็ต้องฝากพี่ๆ ช่วยดูแลข่าวให้ผมหน่อยนะครับพี่ มันก็ต้องฝากไว้ที่พี่ทุกคน สุดท้ายแล้วถ้าผมพูดอะไรออกไป ผมพูดเรื่องจริงพูดในสิ่งที่ดี ถ้าพี่ๆ ช่วยผมเรื่องราวมันก็คงจะดีขึ้นครับพี่ ฝากด้วยกันนะครับ”
เต่า : “ผมก็ทำงานกันต่อครับ มีหน้าที่ทำเพลงให้คนมีความสุข มันเป็นหน้าที่หลักของพวกเราครับ”
เรื่องเจ้าชู้เป็นเรื่องส่วนตัว ขอพูดแค่เรื่องทำร้ายร่างกายเท่านั้น
เป้ : “ผมว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผมเอง จริงๆ แล้วถ้ามันจะเกิดปัญหาหรือเกิดอะไรก็ตาม ผมบอกไปตั้งแต่คราวที่แล้วที่ผมเคยแถลงข่าวแล้วครั้งหนึ่ง ต่อจากนี้ไปผมจะขออนุญาตให้เรื่องส่วนตัวของผมเป็นเรื่องส่วนตัวผมเท่านั้น ผมจะไม่เคยโพสต์ เรื่องส่วนตัวของผมลงไปในไอจีหรือเฟซบุ๊กเลย ไม่เคยเลยสักครั้ง”
เลี่ยงตอบเรื่องเลิก “หมิว” ไม่มีใครรู้ดีกว่าคนสองคน จบแล้วอยากให้จบเลย
เป้ : “อย่างที่ผมบอกไปผมขออนุญาตให้มันเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ ถ้ามันจะจบ ถ้ามันจะเลิก ถ้ามันจะเริ่ม ถ้ามันจะคบ หรือถ้ามันจะอะไรก็ตาม สุดท้ายแล้วข้างในมันเป็นเรื่องของคนสองคนครับ ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า สุดท้ายแล้วข้างในจริงๆ เรารักกันยังไง จะเลิกกันเพราะอะไร ผมก็เชื่อว่าทุกๆ ความรักมันไม่มีใครอยากให้จบลงหรอก เพราะฉะนั้นสุดท้ายแล้วเรื่องพวกนี้ที่มันเกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้ผมขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัวของผมเองทั้งสองคนแล้วกันครับ ต่อจากนี้ไปผมหวังว่ามันคงจะไม่มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นอีก ก็ขอโทษแทนทุกๆ คนที่เป็นแฟนคลับของพวกเรานะครับ ที่เป็นข่าวแบบนี้ทำให้สะเทือนใจมันไม่ใช่ความจริงอะไรเลย”
เพื่อนๆ แอบฮากรณีผู้สื่อข่าวถามว่าครั้งนี้แถลงข่าวเรื่องเลิกกับแฟนเป็นรอบที่ 2 แล้ว จะไม่มีอีกแล้วใช่หรือไม่
เต่า : “ถ้าแถลงจริง เป้น่าจะเกิน 10 ตั้งแต่รู้จักกันมา (หัวเราะ)”
เป้ : “จริงๆ แล้วผมอยากจะให้พูดเรื่องการทำร้ายร่างกายกันมากกว่า เรื่องอื่นมันจบไปแล้วผมอยากให้มันจบไป”
เต่า : “ถามว่าเวลาเป้มีข่าวกระทบวงมั้ย เรียกว่าชินครับ ปกติไม่โดนพาดพิงหรอก จะมีครั้งนี้ที่รู้สึกว่าไม่ได้ละ ต้องออกมาพูดแล้ว เรื่องรัก เรื่องเลิก เรื่องเจ้าชู้ เขาโดนบ่อยเราก็ชิน อ่านข่าวแล้วยังสนุกด้วยซ้ำ แต่พอมาบอกว่าพวกเรารุมทำร้าย มันไม่ได้แล้ว”
ไม่ตอบ ประโยคจี๊ด ไม่ใช่ความสุขของผมอีกต่อไป ทุกอย่างผ่านไปแล้ว
เป้ : “ผมรู้สึกว่าวันนี้เรามาคุยเรื่องทำร้ายร่างกายหรือเปล่าครับ เรื่องราวเล่านั้นมันจบไปแล้ว ตอนที่ผมคบกันกับเขา ตอนที่ผมมีความรู้สึกดีๆ ผมกับเขารู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไรกันอยู่ ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันจบไปแบบนั้นแล้วกันครับ ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ผมก็ยินดีรับคำแนะนำจากทุกๆ คนนะครับ ว่าถ้าอยากให้ภาพลักษณ์ดีขึ้นต้องทำแบบไหนบ้าง”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)