xs
xsm
sm
md
lg

โต้ขาลง “ตุ๊กกี้” ยันงานรุม ปรับตัวใหม่ ใช้ชีวิตแบบเฟคๆ เพื่อให้ทุกคนมีความสุข

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ตุ๊กกี้” โต้ขาลง โวงานรุมทุกวัน ปรับตัวใหม่เลิกพูดตรง เพราะบางทีปากกับใจตรงกันก็ไม่ได้ ขอใช้ชีวิตแบบเฟคเพื่อให้คนรอบข้างและทุกคนมีความสุข แฮบปี้อยู่กับเวิร์คพ้อยท์มีงานประจำมีเงินมั่นคง

หลังจากที่หายเงียบไปจากหน้าจอนานและหายไปจากพื้นที่สื่อมวลชนไม่ค่อยเห็นข่าวคราวของ “ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ โพธิ์น้ำคำ” มานาน แต่ระยะหลังๆ เห็นตุ๊กกี้ออกงานเยอะขึ้น มีผลงานให้ชมมากขึ้นเพราะเวิร์คพ้อยท์ต้นสังกัดป้อนงานให้มากขึ้นหลังจากที่ดูเงียบเหงาไปนาน ด้านตุ๊กกี้เองก็ปรับตัวเองมากขึ้น จากที่เป็นคนพูดตรงๆ คิดยังไงพูดอย่างนั้น ทำให้ดูแรง ตอนนี้ก็ปรับใหม่ ไม่ว่าจะเศร้าจะทุกข์หรือคิดอะไรก็ต้องแสดงออกว่า มีความสุขและเฟรนด์ลี่ตลอดเวลาเพื่อความสุขของทุกคนที่รักตุ๊กกี้ ล่าสุดก็พึ่งจะได้รับรางวัล JAPAN EXPO TOURISM AWARD สาขาส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศไทย เจ้าตัวยอมรับดวงกำลังพุ่ง

“ก่อนจะมาที่นี่นะคะ ตุ๊กกี้ได้ดูรายการหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องดวง เขาบอกว่าราศีที่เป็นมหาเฮง ตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 มี.ค. จะรวยแบบไม่รู้ตัว เฮงแบบไม่รู้ตัว ก็มานั่งทบทวนตัวเอง เขาบอกว่าดวงมันมาตั้งแต่ต.ค.ปีที่แล้วนะ ก็มานั่งทบทวนย้อนดูมันก็ใช่นะ ไม่เคยมีเพลง ก็มีเพลง รายการใหม่ ข่าวใหม่ ก็คิดว่าใช่นะ มันคงมาแล้วล่ะ เพราะเราก็เจออะไรหลายๆ อย่างมาเกือบ 5 ปีเลยนะ แต่ก็เริ่มต้นมาตั้งแต่ต.ค.แล้วค่ะ จนเข้ามาปีใหม่ก็เริ่มมีอะไรดีๆ เข้ามาเยอะมากเลย”

เพลงแรกในชีวิต “นางสาวส่า” แค่อาทิตย์เดียวก็มีคนดูเกือบ 4 แสนวิว แดงว่างานมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“อันแรกเลยคือเพิ่งปล่อยเพลงไปค่ะชื่อเพลง นางสาวส่า ปล่อยไปแค่อาทิตย์เดียวก็เกือบจะ 4 แสนวิวแล้วค่ะ ได้รับการตอบรับดีมาก เหมือนคนก็รอคอยให้เรากลับมาไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม ได้รับการเชื่อใจจากผู้ใหญ่ 14 ปีที่เป็นตุ๊กกี้มาไม่เคยมีเพลงเป็นของตัวเอง แต่เล่นคอนเสิร์ตทุกวันนะ แต่ไม่เคยมีเพลงของตัวเองเลย เพราะอะไรก็ไม่รู้อยู่ดีๆ ผู้ใหญ่ก็บอกว่าให้ไปทำเพลงมาก็เลยทำ พอเขาเห็นว่าเราทำได้ก็เลยมีซิทคอมเรื่องใหม่ให้อีก เล่นเป็นเพื่อนพระเอก-นางเอกก็บทเด่นค่ะ ก็เลยมานั่งนึกกับตัวเองนะ เหมือนช่วงก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าเราขาลงหรือเปล่า พอมาถึงตอนนี้เราก็คิดว่า มันเหมือนวัฎจักรนะ เวลาที่เรามีอะไรใหม่ๆ มามันก็จะมา คนอื่นเวลาที่เขามีอะไรใหม่ๆ เขาก็จะผ่านหน้าแซงหน้าเราไป ก็เลยยอมรับกับตัวเองเลยว่า มันคงเป็นวัฎจักรของเรากลับมาแล้วเหมือนกันค่ะ”

“ตอนนี้แฮปปี้มากเลยค่ะ ก็ต้องบอกเลยว่าผลของการที่เรามีเพื่อนเยอะมีคนรู้จักเยอะมีคนรักเยอะ มันเลยทำให้การแชร์เป็นผลเร็วมาก จากคนที่เห็นแล้วก็แชร์เลยโดยที่เราไม่ต้องขอร้องเขาก็ช่วยกันแชร์ ก็เลยรู้ว่ายังมีคนรักเราเยอะเหมือนกันนะ ตอนนี้เวลาไปเล่นคอนเสิร์ตก็ได้ร้องเพลงตัวเองสักที(หัวเราะ) ชื่นใจมากเลย ก็เตรียมจะมีเพลงต่อไปค่ะจะเป็นเพลงช้า ตอนแรกก็คิดว่าเพลงแรกนี่ลองเชิงก่อนนะ ถ้าเกิดผลกลับมาไม่โอเคก็น่าจะเป็นผลงานเดียว แต่ปรากฎว่ามันแชร์ไปเร็วมาก และมีคนแต่คำชมว่า เราทำได้เราร้องได้ และได้รับการสนับสนุกจากครูบาอาจารย์หลายๆ ท่าน ไม่ว่าจะเป็นครูสลา พี่โน้ต เชิญยิ้ม พี่สุนารี พี่อี๊ด โปงลาง ทุกคนสร้างกำลังใจและชมเรา ก็เลยรู้สึกว่าเอากำลังใจตรงนี้ทำต่อค่ะ ก็น่าจะมีผลงานเพลงต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ”

มิติใหม่ “ตุ๊กกี้” นั่งแท่นอ่านข่าวบันเทิง
“ก็มีงานพิธีกรค่ะมีงานใหม่ที่ท้าทายมากค่ะ ก็คือผู้ใหญ่ใจดีเวิร์คพ้อยท์ของเราก็ถามเลยว่า ตุ๊กกี้ตื่นเช้าไหม เราก็บอกว่าตื่นเช้าค่ะ งั้นก็ให้ลองงานนึงระยะเวลา 1 เดือนก่อนนะ เราก็ลองค่ะปรากฎว่าทำได้และตอนนี้ก็เข้า 5 เดือนแล้วค่ะ ก็คือการอ่านข่าวบันเทิงทุกเช้าเลยค่ะ รายการห้องข่าวบันเทิง เวลา 8.00 – 9.00 น. ช่องเวิร์คพ้อยท์ คือเราก็เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานนะ คือเราเป็นกลางเราไม่เข้าข้างใครก็ตาม เวลาอ่านข่าวเราก็อ่านแบบเป็นกลาง ปรากฎว่าทำไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เรตติ้งเยอะขึ้นนะคะ จากที่เขาดีอยู่แล้วเราเข้าไปก็ทำให้ดียิ่งขึ้นเพราะมันเป็นการอ่านข่าวที่สนุกไม่ได้ชี้เป้าหรือเข้าข้างใคร จากที่เป็นเรื่องเครียดก็กลายเป็นเรื่องสนุก”

“ท้าทายความสามารถมาก รู้สึกว่าเราทำได้ คนก็ได้เจอเราทุกเช้า คนก็เลิกถามแล้วว่าเราหายไปไหน มันก็เลยเป็นผลให้รู้สึกว่า อะไรก็ตามที่มันยังไม่ถึงเวลาก็อย่าใจร้อน เดี๋ยวมันก็จะกลับมา ปรากฎว่าเวิร์คพ้อยท์เปิดศักราชใหม่ มีรายการทีวีขึ้นมาใหม่ มีซิทคอมขึ้นมาใหม่ก็ได้ร่วมแสดงด้วย เพราะเราเองก็ห่างหายจากซิทคอมที่เป็นตอนๆ มานานแล้วนะ ตอนนี้ก็น่าจะเปิดกล้องเร็วๆ นี้ค่ะ น่าจะเดือนกุมภาพันธ์ ไม่นานก็น่าจะได้ดูกัน”

ยังไม่รับงานหนัง เพราะไม่มีเวลาว่างต้องทำงานประจำให้ต้นสังกัด
“อยากเล่นมากค่ะ หายไปนานเหมือนกันนะ ล่าสุดที่เล่นก็คือหลวงพี่แจ๊ส 4G ก็หลายปีแล้วนะ เราต้องทำงานหลักของเราทุกวันๆ มันก็ไม่สามารถจริงๆ บางคนถามว่าตุ๊กกี้เลือกงานเหรอ เราไม่เคยเลือกค่ะ ไม่เคยเลือกงาน เวิร์คพ้อยท์ก็ไม่เคยปิดกั้นอะไรทั้งสิ้น แต่ว่าตอนนี้จันทร์ถึงศุกร์เราไม่ว่างเลยอัดรายการ ทีนี้ถ้าเขาจะเอาคิวจันทร์ถึงศุกร์เราก็ไม่สามารถไปได้ อยากมีเวลาเยอะๆ จะได้แบ่งสรรปันส่วนได้ แต่ปรากฎว่างานประจำเราก็มี เราก็จะไปไหนมาไหนยากหน่อย ที่ผ่านมา คือบริษัทเราเป็นบริษัทที่ไม่ให้โลภมากห้ามวิ่งงาน เพราะถ้าวิ่งแล้วลนลาน เราจะทำงานไม่เต็มที่ ต้องแบ่งสรรปันส่วนให้ดีๆ ว่าไม่เบียดเบียนอะไรทั้งสิ้น เราก็เลยเลือกที่จะทำงานประจำก่อน”

พอใจอยู่ในสังกัดเวิร์คพ้อยท์ ไม่คิดจะไปอยู่ค่ายอื่น รู้สึกมั่นคงมีหลักประกัน

“ยังอยู่เวิร์คพ้อยท์ สัญญาก็เซ็นแบบหลายๆ ปีต่อกันมาเรื่อยๆ และเราก็ไม่คิดจะไปไหน ก็เลยรู้สึกว่าการมีบ้านมันดี คือเรามีงานประจำทำ เรามีค่าครองชีพคงที่มันเป็นหลักประกัน ทำให้เรารู้สึกพอใจอยู่แล้ว แต่คนที่มีสังกัดแล้วออกไปอิสระอันนี้ก็ไม่ว่ากันนะ แต่ถ้าในส่วนตัวเราเองเราพอใจมากๆ และไม่คิดที่จะไปโบยบินหางานเอง เราทำงานแบบนี้เราสบายใจแล้ว ตื่นเช้ามาก็รู้เลยว่าวันนี้ต้องทำอะไร พรุ่งนี้หรือวันต่อๆ ไปต้องทำอะไรบ้าง เราอาจจะผ่านจุดที่ทำงานหนักๆ มาเยอะแล้วมั้ง แต่ทุกวันนี้มันเป็นการทำงานที่สบายใจ เราไม่รู้ว่าสังกัดอื่นเขาดูแลกันยังไงนะ แต่เรารู้ว่าสังกัดเราคือเวิร์คพ้อยท์เนี่ยเป็นพี่น้อง เป็นครอบครัวเดียวกัน เรามีอะไรเราพูดคุยกัน ปรึกษาหารือ เราไม่มีคำว่าเจ้านายลูกน้อง ดูอย่างพี่หม่ำ พี่เท่ง พี่โหน่ง พี่ส้มเช้งสิ เราก็อยู่กันอย่างนี้แหละ เราเป็นเจนแรกๆ ที่ดูแลกันมา เราดูแลเป็นครอบครัว”

โต้ขาลง
“คือตุ๊กกี้เป็นคนที่เมื่อก่อนโซเชี่ยลไม่ได้โดดเด่นอย่างนี้ คนก็จะไม่ได้ขุดอะไร เมื่อก่อนเราจะดูข้อมูลผ่านทีวี หนังสือพิมพ์ แต่ทุกวันนี้นอกจากเพจหลัก ก็ยังมีเพจยิบย่อยอีก ซึ่งบางทีเป็นการแต่งขึ้นมาเอง เราก็มานั่งตอบคำถามด้วยนะ บางเรื่องก็ไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย มันก็เลยมีข่าวที่ไม่ดีๆ ออกมา แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าใครเป็นคนเริ่มต้นพูด แต่เราก็มีหน้าที่ตอบ แต่ส่วนใหญ่ตุ๊กกี้จะไม่ค่อยมีงานอีเว้นท์ได้ออกมาสักเท่าไหร่ ก็เลยไม่ค่อยมีโอกาสจะได้ตอบได้พูดให้ใครฟัง แต่ว่าตอนนี้ช่องทางโซเชียลของเรา หรือคนที่ติดตามเราจริงๆ ก็จะตอบแทนเรา”

“สุดท้ายแล้วระยะเวลามันจะพิสูจน์เองว่าจริงๆ แล้วตุ๊กกี้ไม่ได้หายไปไหน ก็ยังทำงานเหมือนเดิมอยู่ ก็เลยไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าตัวเองขาลง ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นซุเปอร์สตาร์ ไม่เคยรู้ว่าตัวเองกำลังมาหรือกำลังไป เพราะเราก็ยังทำงานเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเราอาจจะไม่โดดเด่นเท่าเมื่อก่อน เมื่อก่อนใครที่เป็นซุเปอร์สตาร์ก็เพราะผลงานเขาโดดเด่น เห็นหน้าเห็นผลงานเขาบ่อย เราก็เลยรู้สึกว่าไม่เป็นไร โซเชี่ยลมันมาไวไปไว แต่คนที่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะการกระทำ พฤติกรรมมันจะพิสูจน์ตัวเองว่าเราไม่ได้ไปไหน เราไม่ได้แย่ เรายังเหมือนเดิม”

ทุกวันนี้ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังมากขึ้น ไม่กล้าแม้แต่จะหลับบนเครื่องเพราะกลัวโซเชี่ยล เลิกปากกับใจตรงกันต้องยอมเฟคเพื่อทำให้ทุกคนมีความสุข
“มากค่ะ เชื่อมั้ยว่าแม้กระทั่งเวลานั่งเครื่องบินเราก็ไม่กล้าหลับเพราะว่าทุกคนมีโทรศัพท์ ยอมรับนะว่าเมื่อก่อนเราเป็นคนที่ปากกับใจตรงกัน แต่เชื่อไหมว่าปากกับใจตรงกันมันไม่ดีเสมอไป ต่อให้เราป่วยเราก็ต้องยิ้มนะ ต่อให้เราไม่พอใจเราก็ต้องยิ้ม เพราะว่าโลกของโซเชี่ยลใครจะเขียนอะไรก็ได้ แล้วเราจะเป็นตัวเอง 100% ไม่ได้นะ พูดง่ายๆ คือบางทีถ้าต้องเฟคเราก็ต้องทำ เพื่อให้คนที่อยู่ใกล้ๆ เราสบายใจ ด้วยความที่เราเป็นคนที่โดนคาดหวังสูงมากเพราะเราเป็นตลก เวลาอยู่ใกล้ต้องร่าเริงสดใสต้องเฟรนด์ลี่”

“แต่บางทีใครจะรู้ว่าเรากำลังช้ำอยู่นะ เมื่อก่อนเราจะเผยตัวตนเลยว่าเรากำลังช้ำอยู่ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้วเพราะเราแค่ไม่ยิ้มเราก็ดูหยิ่งแล้วนะ ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อโลกโซเชี่ยล เพื่อความสบายใจของคนที่ได้เห็นเรา ก็ต้องร่าเริงสดใสไว้ก่อน และความคาดหวังนั่นก็คือจากคนที่รักเรานั่นแหละ คนที่มาใกล้ชิดเรา คนที่อยากกอดเรา คนที่อยากถ่ายรูปคู่เราก็คือคนที่รักเรา เพราะฉะนั้นเราก็แคร์เขานะเพราะเราเกิดจากจุดนี้ เราไม่ได้เกิดจากคอมเม้นท์ ไม่ได้เกิดจากการแชร์ของยูทูป ไม่ได้เกิดจากการประกวดโดยผลโหวต ไม่ได้เกิดจากเวทีใหญ่ๆ แต่เราเกิดมาทีละก้าวๆ เพราะฉะนั้นแล้วคนที่ปรบมือ ส่งเสียงดังกรี๊ดให้เรานั่นคือคนที่รักเรา ก็คือคนดูประชาชนทั่วไปเพราะฉะนั้นการที่เราจะอยู่ตรงนี้ได้นานแค่ไหนเราต้องซัพพอร์ตหัวใจคนที่รักเราให้รักเรามากขึ้นและตลอดไป”


กำลังโหลดความคิดเห็น