“โป๊ป” ไม่สนใจโดนแฉฟันแล้วทิ้ง ยอมรับรู้จัก “สาวหมวย” แต่ในฐานะพี่น้องเท่านั้น ไม่แคร์ขี้ปากใครจะแฉเพราะไม่มีตัวตน ไม่ฟ้องไม่แจ้งความ ปล่อยให้กรรมทำงาน ไม่โทษใครทำใจคงเป็นเวรกรรมเมื่อก่อนก็เคยคุยกับสาวๆ แล้วก็เลิกกันไปหลายคน มั่นใจอยู่ในศีลในธรรม
หลังจากที่มีเพจออกมาแฉถึงพระเอกดังฟันมีความสัมพันธ์กับสาวหมวย ดีกรีนักร้องนักแสดง นมไม่ใหญ่เอาหน้าใสๆ ไปอ่อยพระเอก โดยพระเอกรายนี้เคยเป็นข่าวกับทั้งพริตตี้ กะเทย สาวหมวยได้กินตับพระเอกแล้วดันไม่กินเงียบๆ ดันไปโพสต์ลงโซเชียลบอกเป็นนัยๆ ถึงพระเอกที่สาวๆ ปลื้มกันทั้งประเทศ งานนี้ก็เลยเดากันว่าพระเอกคนดังกล่าวก็คือ “โป๊ป ธนวรรธน์” ส่วนสาวหมวยก็คือ “เหมยลี่ เอเอฟ” เท่านั้นไม่พอยังแซ่บไปอีกเมื่อ มีผู้มาเม้นท์ใช้นามว่า pattyykaa และแท็กถึงโป๊ปให้มาตอบคำถาม เหมือนที่เคยทำกับกู! เจอตัวโป๊ปในงาน BETAGRO Fan Meet Sport Day เฮลั่น มันส์กับโป๊ป เจ้าตัวก็ยอมรับว่า รู้จักกับสาวหมวยแต่เป็นแค่พี่น้องเท่านั้น
“เห็นแล้วครับ ตอนอ่านก็ไม่ได้คิดอะไรครับ ก็แล้วแต่คนเขาจะมอง ไม่ได้ว่าโดนอีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นมามันมีเหตุผลมันไม่ใช่เรื่องอะไรที่ร้ายแรงที่แบบว่าแย่ จริงๆ ก็รู้จักครับ แต่ว่าในฐานะพี่น้อง”
ส่วนกรณีที่มีผู้ใช้ชื่อ pattyykaa แท็กถึงโป๊ปท้าให้ออกมาตอบคำถามนั้น เจ้าตัวบอกว่า ไม่มีตัวตน ไม่ต้องไปใส่ใจ
“คนคนนั้นเขาเป็นใครเราก็ไม่รู้ใช่ไหม เราอย่าไปสนใจคนที่เขาไม่มีตัวตนเนอะ อันนี้เราก็ตอบไม่ได้ เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร จริงไม่จริงอันนี้ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาอยากทำอะไรก็ทำ ไอ้ประเด็นนี้มันมีมาตั้งแต่ต้นปีนานแล้วแหละ แต่ว่าเราก็ให้อภัยเขาไปแล้วกัน ผมก็อยู่ของผม ผมก็เป็นคนของผมแบบนี้ ผมก็ยังไม่มีแฟน ผมเจอใครถ้าใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่"
“ก็เขาไม่มีตัวตนไงครับ ผมก็คิดว่าเขาน่าจะเป็นกรณีเดียวหรืออาจจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับคนที่เคยทำเมื่อต้นปี ก็มีคนทำแบบนี้มานานแล้ว แต่พอกระแสละครมันดังมากขึ้นมาข่าวมันก็เลยบูมขึ้นมา แล้วตอนนี้ถ้ามีเรื่องอะไรก็จะเจอแบบนี้ขึ้นมาตลอด”
“ก็คงเป็นกรรมมั้ง ก็อาจจะเคยมีคนที่คุยแล้วเลิกกันไปก็ชีวิตนึงผ่านมาก็เจอคนมาหลายคน มันก็อาจจะเป็นสิ่งที่เราเคยทำมาเราก็เลยต้องรับไป ผมก็ปล่อยให้ผ่านไปไม่ได้หวังว่าเขาจะมาทำร้ายหรือไม่ทำร้ายผม ผมก็ตอบไปตามความจริง”
ไม่แจ้งความดำเนินคดีเพราะกรรมมันอยู่ที่คนทำ
“จริงๆ ผมว่าใครจะพูดอะไรมันก็เรื่องของเขาอ่ะ เราทำอะไรก็รู้อยู่ในใจ กรรมมันไม่ได้อยู่ที่เรามันอยู่ที่คนทำก็เลยไม่ได้สนใจว่าเขาจะมาทำอีกไหม มันก็คือเรื่องเดิมๆ มันก็คือคนๆ เดิมที่ต้องการอะไรก็ไม่รู้ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เป็นไอจีที่สร้างขึ้นมาปลอมมาว่าเราหรือมาพูดถึงเราในทางที่ไม่ดี ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”
“ตอนนี้เวลาผมเจอใครนะ ก็จะกลัวเขาหมดแล้ว ก็โอเคไม่เป็นไร ก็อยู่โสดๆ แบบนี้แหละ มันก็ทำไรไม่ได้ ไม่รู้จะฟ้องหรืออะไรเขาไปเพื่ออะไรอ่ะ คนที่เข้าใจผมก็มี คนที่ดีต่อกัน รู้จักกันเขาก็ให้กำลังใจผม ผมก็รู้สึกว่าไม่หรอก มันมีทั้ง 2 มุมแหละทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ผมก็ไม่ใส่ใจ ก็อยู่ตรงกลาง คนที่เขารู้จักผมให้กำลังใจผมเขาก็รู้ว่าผมเป็นคนยังไงมันก็มีไง ไม่ฟ้องหรอกครับก็ให้คนใช้วิจารณญาณที่จะรับชมแล้วก็ดูเอาเองครับ"
“ผมก็โดนมาตลอดนะ ข่าวที่แย่ๆ ก็โดนมาตั้งแต่เข้าวงการ จะ 8 ปีละ ผมก็เป็นอย่างนี้ อย่างที่ทุกคนเห็นก็ทำงานมาเรื่อยๆ มีงานเข้ามาเรื่อยๆ อย่างน้อยถึงผมจะผ่านอะไรมาเยอะ สิ่งที่ผมผ่านมาผมก็อยู่ในศีลก็อยู่ในคุณธรรมที่ผมรู้ตัวเองอยู่ ผมทำชั่วแค่ไหน ผมทำดีแค่ไหน ผมรู้อยู่แก่ใจ ฉะนั้นใครอยากทำอะไรก็ปล่อยให้เขาทำไป"
“ผมบอกเลยว่าเราจะผ่านพ้นไปได้ไม่ใช่เพราะเขาเลิกทำแต่ผ่านไปได้ด้วยใจเราที่มีสติ เมื่อผมค้นพบว่าถ้าเราไม่ยึดติดในสิ่งที่เขาว่าเราผมผ่านมันไปได้ ผมไม่สนใจใครจะเข้าใจว่าผมแย่ ผมเลว ผมดีน่าสรรเสริญ นั่นคือความคิดของเขา ผมก็จะอยู่ของผมอย่างนี้แหละ สุดท้ายชีวิตมันก็เหมือนความฝัน เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ใครทำร้ายเราก็ทำร้ายไป คนที่ชื่นชมเราก็ชมไป เราก็จะอยู่ของเราไปในคุณธรรมที่เรามี"
สัญญากับแฟนคลับจะเป็นคนดี เพราะคำว่าขอบคุณยังน้อยไปกับสิ่งที่แฟนคลับให้
“คือผมให้ดีที่สุดได้เท่านั้น เพราะว่าคำขอบคุณมันน้อยไปกับสิ่งที่เขาทำให้ ชื่อไหมวันที่มีข่าวบุพเพฯ ตอนแรก ที่เขามาทำร้าย ทุกคนแบบพี่โป๊ปสู้ๆ มันคือที่สุดแล้ว คำขอบคุณก็ไม่พอสำหรับพวกเขา เลยรู้สึกว่าถ้าผมได้ทำอะไรดีๆ ตลอดไปให้เขาเห็นตัวอย่างว่าการดำเนินชีวิตที่ดี ผมว่าอันนี้น่าจะเป็นการตอบแทนเขาได้ดีที่สุด แต่ก็อย่างที่บอกแหละว่าผมก็มีเรื่องที่ไม่ดีก็มี เลยบอกเขาว่าดูสิ่งที่ดีแล้วกัน สิ่งที่ไม่ดีก็มีบ้างแหละ แต่ไม่ได้มากมายขนาดนั้น ก็มนุษย์คนนึง"
“เขาจะทำอะไรก็ตาม หนึ่งก็คือเขาไม่มีตัวตนอ่ะ เขาต้องเอาหน้าเขามาพูดเราถึงจะรู้ว่าเราเป็นแบบนั้นจริงๆ หรอ คือพอเข้าไปก็ปิดหนีไง คือคนนี้เขาเป็นใครหรอกับเราเขาถึงมาทำร้ายเรา เราก็ไม่รู้ไง เราก็เลยต้องปล่อยไป แต่สิ่งที่เราเคยทำอย่างที่ข่าวออกมาไหม มันไม่ 100 เปอร์เซนต์หรอก จริงบ้าง จริง 50 เปอร์เซนต์ ไม่จริงเลย มันมีหมด แต่พูดไปก็เท่านั้นแหละ เราต้องรู้ว่าเราอ่ะดีมากกว่าไม่ดีไหม"