“ซาร่า-เอ็ม” ชื่นมื่นควงฉลองวิวาห์หลังครองรักมาราธอน 15 ปี เผยพิธีสมรสเมื่อวานร้องไห้ตลอดงาน สินสอดทองหมั้นเป็นไปตามความเหมาะสม แพลนชีวิตคู่หลังจากนี้เจ้าสาวขอเวลา 1 ปีพร้อมมีทายาท เล่าเคล็ดลับครองรักกันยาวนาน 15 ปีเพราะต่างเปิดใจเรียนรู้กันและกัน
เข้าพิธีสมรสพระราชทานจากสมเด็จพระเทพฯ ไปแล้วเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาสำหรับคู่รักมาราธอน “ซาร่า เล็กจ์” และ “เอ็ม สืบสกุล ทวีผล” ที่คบหาดูใจกันมา 15 ปี พร้อมจัดพิธีวิวาห์ไปเมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) เฉพาะแขกเหรื่อคนสนิท และวันนี้ทั้งคู่ก็จัดพิธีฉลองมงคลสมรสขึ้นอย่างเรียบง่าย ที่บ้านปาร์คนายเลิศ โดยทั้งคู่เผยกับสื่อมวลชนว่าแม้จะคบกันมา 15 ปีแล้วแต่วันนี้คือครั้งแรกออกมาให้สัมภาษณ์พูดถึงความรักด้วยกัน
เอ็ม : “15 ปีที่ผ่านมาเราก็โตมาด้วยกัน และอยู่กับน้องมาตั้งแต่น้องยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ผมเริ่มเป็นดีเจครั้งแรก และเราก็ผ่านทุกอย่างมาด้วยกัน และเราก็เรียนรู้ทุกอย่างมาด้วยกัน และโตมาด้วยกันจนถึงทุกวันนี้”
ซาร่า : “รู้สึกมันเร็วมาก ตอนฟังเป็นตัวเลขก็แอบรู้สึกว่ามัน 15 แล้วเหรอ ทุกอย่างมันเร็วมากและก็โตขึ้นมาด้วยกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จากแฟนพอต้องมาใช้คำว่าสามีภรรยาสำหรับซาร่าตื่นเต้น คือเรายังไม่ชินก็ตื่นเต้นในทางที่ดีว่าเราต้องเปลี่ยนสรรพนามเป็นสามีภรรยาก็มีความสุข เอาจริงๆ ตอนนี้ก็เขิน (หัวเราะ)”
บ่าว-สาวเผยพิธีสมรสเมื่อวานร้องไห้ตลอดงาน ส่วนสินสอดทองหมั้นนั้นทั้งคู่เผยเป็นไปตามความเหมาะสม
ซาร่า : “เป็นวันที่มีความสุขมาก ก็ไม่รู้ตัวเลยว่าจะตื่นเต้นได้มากขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเราจัดงานค่อนข้างเล็กและอบอุ่น และค่อนข้างเน้นคนในครอบครัวจริงๆ เพื่อนๆ ที่มาก็เป็นเพื่อนที่เราสนิทด้วย เขาก็จะเห็นเรา 15 ปีที่ผ่านมา เขาก็จะรู้เส้นทางความรักของเรา เขาก็จะเข้าใจเรา ก็จะมีน้ำตาเยอะมากทั้งเพื่อน ทั้งซาร่า ครอบครัวจะร้องไห้เยอะมาก”
เอ็ม : “ผมก็ร้องไห้ครับ เป็นน้ำตาที่มีความสุขมากครับ จริงๆ ร้องไห้ครั้งแรกตอนที่เดินเข้ามาหาเจ้าสาวครับ คือตั้งแต่เช้าไม่เจอกันเลย ไม่ให้ผมเห็นชุดของเขาเลย เขาก็มานั่งรออยู่ แล้วผมก็ผ่านขันหมากมาทั้งหมด ก่อนเข้ามาเขาก็จะมีการ์ดให้อ่าน เขาเขียนน่ารักมาก ผมอ่านเสร็จก็น้ำตาไหลครับ”
ซาร่า : “ร้องไห้เต็มที่เลย เพื่อนทุกคนตกใจ ร้องไห้ตามกันหมดเลย”
เอ็ม : “หลังจากนั้นก็เหมือนเปิดก๊อก ไหลกันทั้งวันเลยครับ(หัวเราะ)”
ซาร่า : “แหวนแต่งงานก็กำลังดีเป็นไซส์สวยงามกำลังดี เหมาะค่ะ(ยิ้ม)”
เอ็ม : “สำหรับสินสอดก็กำลังเหมาะดี เหมือนเพชรครับ 18 กะรัต ก็ยังสาวอยู่เหมือนเดิมครับ(หัวเราะ) สำหรับการจัดงานแต่งงานไม่ว่าจะวันนี้หรือเมื่อวานอยากจะบอกว่าเป็นความภูมิใจมาก เจ้าสาวผมเก่งมาก ภาพที่เห็นเมื่อวานเจ้าสาวเขาช่วยคิดช่วยทำ เราสองคนจะมีคนมาช่วยรันงาน และทำอะไรต่างๆ ไม่ได้มีเวดดิ้งแพลนเนอร์ แต่ว่าน้องเขาเห็นอะไรที่ดี เห็นดอกไม้แบบนี้สวย หรือเห็นคนนี้ตกแต่งออกมาดี เขาติดต่อเอง เช่น เรื่องเพลงและวงดนตรี เราก็คุยกันว่าจะเอาวงไหนมาเล่น ซึ่งเราเองสุดท้ายก็ทำทุกอย่างด้วยตัวเองหมดเลย ภาพที่เห็นไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า หรือด้านไหน น้องเป็นอินสไปเรชัน และคุยกับทีมงานเอง”
ซาร่า : “เราก็เลยมีความสุขกับทุกช็อตที่เดินไป เพราะเราอยากให้มันเป็นงานที่เป็นตัวของเราสองคนจริงๆ เป็นโมเมนต์ที่เราอยากจะจำทุกอันเลย”
แพลนชีวิตคู่หลังจากนี้เจ้าสาวขอเวลา 1 ปีพร้อมมีทายาท
ซาร่า : “จริงๆ เราสองคนก็วางแพลนกันมาเรื่อยๆ อยู่แล้วนะคะ แล้วเราก็ซื้อบ้านไว้ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ก็ทำอะไรไปเรื่อยๆ ยังใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมค่ะ หลังจากนี้เราจะจดทะเบียนสมรสกัน ก็แพลนว่าจะจดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ค่ะ ซึ่งเป็นวันที่เราสองคนเจอกันวันแรก”
เอ็ม : “ก็ 15 ปีที่แล้วครับ เรื่องมีลูกจริงๆ ก็ (หัวเราะ) ผมพูดตรงๆ ว่าผมอยากมี ก็อยากมีลูกครับ รู้สึกว่าการมีลูก ในอนาคตเราจะทำอะไรก็ทำให้มีความหมาย แต่ว่าก็ต้องรอว่าเจ้าสาวผมเขาจะพร้อมเมื่อไหร่ครับ(ยิ้ม)”
ซาร่า : “จะขอเวลาอีกสักปีหนึ่งค่ะ ตั้งตัวแป๊บหนึ่ง”
เผยเคล็ดลับครองรักกันยาวนาน 15 ปีเพราะต่างเปิดใจเรียนรู้กันและกัน
ซาร่า : “จริงๆ เราไม่ได้มีคำมั่นสัญญาอะไรตายตัว แต่ว่าเราให้กำลังใจกันตลอดเวลา แล้วมีอะไรดีๆ เราก็แนะนำกันเสมอ เราบอกกันเสมอว่าไม่ว่าเราทะเลาะกันยังไง สุดท้ายผลลัพธ์ก็อยากให้เราสองคนดีขึ้น ทุกปัญหาที่เรามี มันก็เลยเป็นชาเลจน์ที่เราจะต้องทำให้มันดีขึ้น เป็นบทเรียนไปเรื่อยๆ”
เอ็ม : “ผมว่าอีกอย่างหนึ่ง มันเป็นเรื่องของการเปิดใจ และก็ความเข้าใจกัน ทุกปัญหาเวลามันเกิดขึ้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเปิดใจ ฟังว่าเขาคิดยังไง เราก็เรียนไปด้วยกัน สุดท้ายมันก็ทำให้เราโตขึ้นไปเรื่อยๆ นี่เป็นสิ่งที่ผมกับน้องพูดตลอด ว่าเราโตมาด้วยกัน เรามีปัญหาด้วยกันทุกครั้งเราก็เปิดใจกัน แล้วก็แก้ไปด้วยกัน มันก็เลยทำให้เราสตรองขึ้นเรื่อยๆครับ”
“และที่เราคบกันมาได้นาน 15 ปีจริงๆ ก็เป็นเรื่องของการเปิดใจเรียนรู้กัน เวลาคนเราโตมา ตอนนั้นน้องอายุประมาณ 21-22 ปี ตอนนั้นผมก็อายุ 24-25 ปี เราโตมาไม่เหมือนกัน พอมาเจอกันก็ต้องเกิดการเรียนรู้ ซึ่งก็ขึ้นกับว่าเราพร้อมที่จะอยู่กับคนนี้ขนาดไหน ถ้ามั่นใจว่าคนนี้เป็นคนของคุณ คุณก็พร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู้เขา แล้วเราก็โตไปพร้อมๆ กัน สุดท้ายก็ได้มาแต่งงานกันครับ ช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ผมต้องย้ายไปทำงานที่สิงคโปร์ประมาณปีครึ่ง แล้วเขาก็ให้ย้ายกลับมา แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ช่วงนั้นเราก็ไปมาหาสู่กันตลอด แทบตะเจอกันเกือบทุกอาทิตย์ ก็เลยไม่ได้ห่างกันมาก ทำให้เรามั่นใจกันมากขึ้น ความห่างไกลไม่ได้ทำให้ความรักของเราเปลี่ยนไป”
ซาร่า : “จริงๆ ช่วงนั้นเริ่มคิดแล้วว่าเราจะเปลี่ยนสถานะ หรือแต่งงาน เขาก็เริ่มแพลนว่าต้องกลับมาเตรียมนั่นเตรียมนี่ด้วย จังหวะก็เลยพอดี”
แพลนฮันนีมูนยังไม่ได้วางเพราะมีงานเข้ามาพอดี ขอทำงานก่อน
ซาร่า : “ตอนแรกก็ไม่ได้ซีเรียส เราเที่ยวกันอยู่เรื่อยๆ พอเรามาลองจัดเตรียมงานก็รู้สึกว่าเข้าใจแล้วที่เขาไปฮันนีมูนทันทีหลังจัดงานเสร็จมันควรมากๆ เลย เพราะเราก็อยากจะรีแล็กซ์ แต่ไปๆ มาๆ เหมือนจะมีงานเข้าค่ะ ก็อาจจะไปทำงานก่อนแล้วไปด้วยกัน”
ต่างขอบคุณกันและกัน ด้านเจ้าบ่าวขอบคุณเจ้าวสาวที่เข้ามาเปลี่ยนโลกของตน ส่วนเจ้าสาวขอบคุณเจ้าบ่าวที่ดูแลตนมาอย่างดีและพิสูจน์ตนเองให้
เอ็ม : “ก็อยากขอบคุณเขาครับ เพราะว่าตั้งแต่อย่างที่รู้ เราไม่เคยมีแฟนด้วยกันทั้งคู่ เป็นคู่แรกของกันและกัน หลังจากที่เขาเข้ามาโลกมันก็เปลี่ยนไป โลกไม่ได้แค่เปลี่ยนไปอย่างเดียว แต่ว่ามันดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวผมเองหรือความรักที่เรามีทุกอย่าง ก็อยากขอบคุณเขาที่เข้ามา แล้วมาทำให้ทั้งโลก ทั้งตัวเอง ตัวเขาด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีไปหมดเลยครับ(ยิ้ม)”
ซาร่า : “เขินเลย โอเคค่ะ ของซาร่าก็อย่างที่บอกว่าเราโตมาด้วยกัน ซาร่าอยากจะบอกพี่เอ็มว่าซาร่าโชคดีมากที่ได้มาเจอพี่เอ็ม เหมือนกับชีวิตคนหนึ่งที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วกัน ได้มาเจอพี่เอ็ม และได้ใช้ชีวิตที่เหลือ ได้เจอคนๆ นี้ ซาร่าโชคดีมาก ขอบคุณที่พี่เอ็มดูแลซาร่ามาอย่างดีมาก มีอะไรหลายๆ อย่างที่พี่เอ็มพิสูจน์ให้ซาร่าเห็น”
เอ็ม :” ขอบคุณเช่นกันครับ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)
