“พีค กองทัพ” เผย “พ่อปราบ” น้ำตาซึม ร่วมรายการ I Can See Your Voice Season 6 ที่เกาหลี ฝันอยากตามรอยไอดอล “ลิซ่า แบล็คพิงก์” ส่วนงานที่เมืองไทยเซ็นสัญญาเป็นเด็กในสังกัดช่อง 3 แล้ว ภูมิใจเป็นลูก “พ่อปราบ” อีกฝ่ายบอกไม่ต้องเหมือนพ่อ ทางใครทางมัน ลั่นถูกเรียกเป็น “เจมส์จิ2” ยกเป็นไอดอลตั้งแต่ ป.6
เป็นกระแสฮือฮาไม่น้อย หลังจากที่มีคลิปของลูกชายสุดหล่อของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง “ปราบ ยุทธพิชัย” นั่นก็คือหนุ่ม “พีค กองทัพ” ไปร่วมโชว์พลังเสียงในรายการ I Can See Your Voice Season 6 ที่ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากที่มีการแชร์ในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลาย ทุกคนก็พูดเสียงเดียวกันว่าหล่อโอปป้ามากๆ เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลยจริงๆ ล่าสุดได้เจอหนุ่มพีค เจ้าตัวก็ยอมรับว่าฟีดแบ็กดีเกินคาด และถ้ามีโอกาสในอนาคตก็อยากได้ร่วมงานกับทางเกาหลีอีก
“สนุกมากเลยครับ I can see your voice ก็ให้ประสบการณ์พีคเยอะครับ มันฝึกความอดทนด้วย เพราะต้องถ่ายตั้งแต่เช้าถึงดึกเลย ที่ได้ไปร่วมรายการเพราะทางผู้ใหญ่ทางเกาหลีสนใจมาอยู่แล้วครับ และเขาก็ติดต่อมาทางลุงปิ๊ก (ชาญฉลาด ทวีทรัพย์) ครับ สิ่งที่ต้องเตรียมตัวไปก็คือเรื่องภาษาก่อนเลยครับ พยายามเรียนภาษาให้เยอะที่สุด และมันต้องมีการร้องและเต้นด้วย ก็ฝึกให้มากที่สุดครับ ตอนในรายการคณะกรรมการเขาก็ตกใจครับ พีคบอกว่าอายุ 17 เขาก็ตกใจกันมากครับ”
“ฟีดแบ็กดีกว่าที่คิดเยอะเลยครับ เพราะพีคไปทำงานโดยที่ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว แต่ผลออกมามันดีกว่าที่พีคคิด ก็ดีใจมากๆ ครับ วันนั้นคุณพ่อก็ไปด้วยครับ ไปครั้งนี้ก็เหมือนไปเที่ยวด้วย และได้อยู่ด้วยกันสามคนพร้อมๆ หน้ากันครับ คุณพ่อก็มีน้ำตาซึมๆ ครับ เพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นพีคแสดงสด หรือไม่ได้เห็นพีคแสดงอะไรแบบนี้เลย ตอนแรกก็รู้สึกเกร็งนะครับ เรื่องภาษาด้วยเพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาพูดว่าอะไรบ้าง แต่พีคว่าสำหรับเด็กไทยคนนึงมันยิ่งใหญ่มากสำหรับพีค ส่วนตัวคิดว่าเป็นอะไรที่รักและสนุกมากๆ ครับ”
“ถามว่าพีคเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ไปรายการนี้มั้ย พีคก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีคนไทยก่อนหน้านั้นหรือเปล่า แต่ในเทปนั้นมี 6 คน และพีคเป็นคนไทยคนเดียวในเทปนั้นครับ แต่ก่อนหน้านี้พีคเคยไปเดินแบบในงานโซล แฟชั่นวีคครับ ก็ถ้ามีโอกาสมีงานต่อเนื่องที่นั่นอีกก็ยินดีครับ อันนั้นเป็นเรื่องของอนาคต แต่ถ้ามีโอกาสพีคก็จะทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุดครับ”
“อยากตามรอยรุ่นพี่คนไทยที่ไปโกอินเตอร์มั้ยเหรอครับ พีคก็อยากเป็นอย่างนั้นเหมือนกันครับ พี่ลิซ่า (วง Blackpink) ผมก็ติดตามผลงานเขาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่ถามว่ามีโอกาสมั้ย อันนี้ต้องถามลุงปิ๊กเลยครับ เพราะทุกวันลุงปิ๊กจะบอกว่าพีคต้องทำอะไรบ้างครับ ในแต่ละวันพีคต้องมีตารางฝึกซ้อมอะไรบ้าง พีคก็โฟกัสตรงนั้น ลุงปิ๊กบอกว่าต้องโฟกัสที่การซ้อมและเตรียมงานในพาร์ตของเราดีกว่า จะได้ทำออกมาให้ดีที่สุด เพราะถ้าพีครู้ก่อนก็จะทำงานออกมาไม่ได้เต็มที่”
เผยตอนนี้เซ็นสัญญาเป็นเด็กในสังกัดของทางช่อง 3 เรียบร้อย
“ก็อยู่กับทางช่อง 3 ครับ จะมีผลงานเพลงประกอบละครเรื่อง หนี้รักในกรงไฟครับ ชื่อเพลงว่าหนี้ชีวิตครับ ซึ่งถามว่าการเป็นลูกพ่อปราบมีผลยังไงกับเราบ้าง ผมว่าเป็นเรื่องโชคดีมากครับ เพราะคุณพ่อเป็นคนที่มอบโอกาสและเปิดรับ เขาจะให้พีคเลือกเองเลยว่าพีคต้องการอะไร เพราะว่ามันเป็นชีวิตของพีค เขาก็จะคอยมอบโอกาสนี้ให้พีคเสมอว่าให้พีคเลือกทางของพีคเองครับ พ่อก็ไม่ได้อยากให้เหมือนเขา คุณพ่อบอกว่าตัวใครตัวมันนะลูก พ่อก็ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย (หัวเราะ) เขาพูดอย่างนี้จริงๆ ครับ คุณพ่อต้องการให้พีคภูมิใจในการสร้างชื่อเสียงของพีคเอง คือถ้าพีคไปถึงจุดๆ หนึ่งที่พีครู้สึกภูมิใจในตัวเอง พีคจะได้พูดอย่างเต็มปากว่าผมชื่อ กองทัพ พีค ครับ”
“พีคไม่คาดหวังเลยครับว่าจะต้องเป็นพระเอกหรืออะไร เพราะว่าพีคชอบทั้งด้านเพลงและหลงรักทางด้านเพลงอยู่แล้ว และหลงใหลทางด้านละครเหมือนกัน และถ้ามันไปถึงจะเป็นพระเอกหรือเปล่าก็เป็นเรื่องของโชคชะตาครับ”
ยอมรับคนทักเยอะว่าหน้าคล้าย “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” จนถูกเรียกเป็น “เจมส์จิ2”
“ขอบคุณครับ (ยกมือไหว้) ก็มีคนทักตลอดครับ เขาบอกว่านึกว่าพี่เจมส์ ผมก็ขอบคุณครับ เพราะว่าพี่เจมส์ก็เป็นไอดอลพีคเหมือนกันครับ ดูละครเขาเรื่องแรกก็จุฑาเทพครับ ตอนนั้นพีคอยู่ป.6 ครับ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)