xs
xsm
sm
md
lg

“บอย-เจี๊ยบ” ตื้นตัน จับมือฝ่ามรสุมชีวิต ถึงเป็นหนี้ 48 ล้านแต่คุ้มค่า เพราะเป็นบทพิสูจน์รักแท้ของเรา!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“บอย-เจี๊ยบ” ปลื้มใจ “เดวิด เบ็คแฮม” เซ็นลายเซ็นให้ในการ์ดแต่งงาน แอบแซวคงไม่รู้ธรรมเนียมไทยที่ต้องเอาเงินใส่ซองให้ด้วย น้ำตาไหลเป็นกำลังใจให้คนท้อ หลังออกรายการคลับฟรายเดย์ เผยเรื่องหนี้ 48 ล้าน ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ มั่นใจอีก 2 ปีเคลียร์หนี้จบ คุ้มค่าพิสูจน์รักแท้

ใกล้ถึงวันวิวาห์เข้ามาทุกทีแล้ว สำหรับว่าที่คู่บ่าวสาวป้ายแดงอย่างนักร้องหนุ่ม “บอย อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี” หรือ “บอย พีซเมกเกอร์” และนักแสดงสาว “เจี๊ยบ พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์” ซึ่งทั้งคู่ก็ควงกันออกงานแถลงข่าว “แพ็กเกจสินเชื่อบ้าน เพื่อคนฉลาดวางแผนความมั่นคงระยะยาว” ณ แสนสิริ เลานจ์ ชั้น 3 สยามพารากอน และเผยว่าตอนนี้ความพร้อมในงานแต่งอาจจะยังไม่ 100% เพราะยังมีความกังวลอีกหลายๆ อย่าง และยิ่งใกล้วันแต่งก็ยิ่งตื่นเต้น

บอย : ถ้าถามว่าพร้อมจริงๆ ก็ยังไม่มีอะไรที่ 100% หรอกครับ เราก็ยังคงกังวลว่าอันนั้นอันนี้ได้ครบหรือเปล่า ก็ยังคงถามกับทีมงานตลอดเวลาว่าติดต่อคนนั้นคนนี้หรือยัง

เจี๊ยบ : มันก็ยังไม่มีอะไร 100% ทั้งหมดค่ะ ยกเว้นเรื่องชุด เสื้อผ้า แต่พวกหน้างานหรือเรื่องอาหาร เราได้กะเกณฑ์ไปหมดแล้ว แต่เราก็ยังกังวลว่าจะพอมั้ย

บอย: ถ้าคนมาเยอะจะพอมั้ย หรือถ้าคนมาน้อยเราต้องแบกกลับบ้านหมดเลยนะ มันก็คิดได้ทั้งสองอย่าง กลัวคนไม่มาบ้าง กลัวคนมาเยอะไปแล้วอาหารไม่พอบ้าง

เจี๊ยบ : กลัวดูแลแขกผู้ใหญ่ไม่ดี จะนั่งกันยังไง จัดโต๊ะนี่จัดยังไม่ถูกเลยค่ะ

บอย : ถามว่าตื่นเต้นมั้ย เรื่องความตื่นเต้นนี่น้อยกว่าความกังวลว่างานจะเรียบร้อยมั้ยมากกว่าครับ

เจี๊ยบ : กลัวว่าจะดูแลแขกได้ไม่ดี แรกๆ ก็ไม่ตื่นเต้นมาก แต่ว่าพอใกล้วันก็เริ่มคุยกันบ้างแล้วว่าเราต้องอะไรยังไงบ้าง ต้องมีสเต็ปยังไงบ้าง วันศุกร์นี้แล้ว

บอย: แต่งครั้งแรกด้วยครับ (หัวเราะ)

เผยดีใจได้ลายเซ็น “เดวิด เบ็คแฮม” ที่เซ็นให้บนการ์ดแต่งงาน

บอย: เรื่องของเรื่องคือผมกับเจี๊ยบได้มีโอกาสไปร่วมงานกับที่เขามาเมืองไทยกับแพกเกจที่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ครับ ผมก็ได้มีโอกาสไปช่วยเขาเปิดคลินิกสอนฟุตบอลน้องๆ ก็หาโอกาสเอาการ์ดไปให้เขาเซ็นไม่ทัน ก็เลยฝากพี่ๆ ที่บริษัทนั้นไปให้เขาเซ็นมาให้ได้มั้ย เขาก็ใจดีเซ็นมาให้ครับ

เจี๊ยบ : เขารู้มั้ยว่ามันเป็นการ์ดแต่งงาน ก็คิดว่าน่าจะรู้นะคะ เพราะในการ์ดหน้าหลังมันเป็นการ์ดแต่งงานเลย

บอย: คิดว่ารู้ครับ แต่ไม่น่าจะรู้ธรรมเนียม

เจี๊ยบ : เรื่องซองไม่ได้คาดหวังค่ะ จริงๆ ก็อยากได้ลายเซ็นเขานี่แหละค่ะ แต่เราก็เอ๊ะทำเป็นใส่ซองไปแล้วกัน เผื่อจะมีเงินกลับมา (หัวเราะ)

บอย: กลัวโดนแฟนคลับเดวิด เบ็คแฮม ด่า (หัวเราะ)

เจี๊ยบ : แค่ได้ลายเซ็นก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ

ปลื้มฟีดแบ็กหลังจากไปออกรายการคลับฟรายเดย์ โชว์ คนให้กำลังใจเข้ามาอย่างล้นหลาม

บอย: ล้นหลาม ถล่มทลายมากเลยครับ หลายคนเป็นกำลังใจให้เรา และเรื่องของเราสองคนก็เป็นกำลังใจให้กับหลายๆ คนหลายๆ คู่ในการดูแลความรักกันมายาวนาน และเรื่องที่เราสองคนจับมือสู้กับปัญหามา

“ก็รู้สึกดีใจมากๆ ที่เรื่องของเราสองคนได้เป็นอุทาหรณ์ให้แก่ใครหลายๆ คน และได้เป็นกำลังใจให้แก่หลายคนที่กำลังท้อ คือบางข้อความส่งมาเราอ่านแล้วน้ำตาไหลเลยนะครับ เขาบอกว่าเขาก็มีหนี้อยู่เหมือนกัน เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง บางทีมีหนี้อยู่แค่นิดเดียว แฟนเขาก็ทิ้งไปเลย เราฟังแล้วเราก็เสียดายและเสียใจแทนเขาจริงๆ”

“บางคนก็บอกว่าอ่านข้อความของเราสองคนแล้วตอนแรกเกือบจะเลิกกัน แต่กลับมีแรงมาสู้กันต่อ ฟังแล้วมันรู้สึกอิ่มใจครับ รู้สึกดีมีกำลังใจ เราก็จะสู้ต่อไปแบบนี้ให้เขาเห็นและเป็นกำลังใจให้พวกเขาด้วยครับ หนี้ตอนนี้ก็เหลือไม่เยอะแล้วครับ เหลืออีกแค่ 2 ปีเราก็จะเรียบร้อยแล้ว”

เจี๊ยบ : จริงๆ คาดการณ์ไว้ว่าโดยประมาณก็ 2 ปี แต่ก็คุยกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าเกิดสามารถจัดการได้เร็วกว่านี้ก็คงได้เร็วกว่านี้ค่ะ

เผยสภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว แต่พูดถึงทุกครั้งก็ยังเจ็บ

บอย: จริงๆ ดีขึ้นมากแล้วครับ เพียงแต่ในรายการที่ไปออกเป็นการเล่าย้อนหลัง อย่างที่เจี๊ยบเคยบอกไปว่าการที่เล่าก็เหมือนเอามีดมาแทงที่เดิม มันก็เจ็บเท่าเดิม แต่เพียงแค่ทุกวันนี้มันดีขึ้นมาก เราก็เพียงแค่กลับไปเล่าวันที่ผ่านๆ มาให้พี่ๆ เขาฟังในวันนั้น

“และที่เราตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ในรายการ เพราะเราก็คิดว่าเราแข็งแรงพอแล้ว ก็คิดว่าคงจะไม่มีอะไรแล้วล่ะ แต่เล่าปุ๊บมันก็กลับมาเจ็บเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ถามว่ามันเป็นปมในชีวิตมั้ย ก็ไม่ถึงขนาดนั้นครับ เราไม่อยากเอามันมาเป็นปมครับ เพียงแต่เอามาไว้เตือนใจเรามากกว่าว่าวันนึงเราจะทำอะไรเราก็คงต้องระวังมากขึ้น ก็คงจะต้องมีทางหนีทีไล่ที่ดีกว่าครับ”

“ถามว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาถือเป็นบทพิสูจน์ของคนที่ยืนเคียงข้างเราด้วยมั้ย ผมว่าจำนวนหนี้ที่เราเสียไป เงินที่เราเสียไปมันคุ้ม อย่างที่บอกว่ามันเป็นบทพิสูจน์ความรักของเราจริงๆ มันคุ้มมากกับสิ่งที่เราได้มา

เจี๊ยบ : จริงๆ เราต่อสู้กันมาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ เพราะฉะนั้น การเริ่มต้นธุรกิจหรือการเริ่มปัญหาทุกๆ อย่าง มันจะต้องมีสองคนที่ช่วยกันแก้ปัญหาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะปัญหาเล็ก ปัญหาใหญ่ เพราะฉะนั้นในวันที่มันมีปัญหาใหญ่ขนาดนี้เราก็ต้องการกำลังใจ เขาเองก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแม้อะไรที่จะแยกกันค่ะ

บอย: เราก็โชคดีที่เราไม่ได้อยู่สู้เพียงลำพัง เรายังมีอีกคนที่ช่วยคิด ช่วยสู้ ช่วยเป็นกำลังใจ จริงๆ ผมว่ากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญของคู่รักนะครับ บางคนที่เป็นแฟนกันหรือคู่กัน การที่ต่างคนต่างให้ทั้งคู่มันแทบจะไม่ต้องเรียกร้องอะไรซึ่งกันและกันเลย

ถามว่าทำให้รักกันมากขึ้นกว่าเดิมมั้ย ผมว่ามันก็ช่วยนะครับ และเป็นการทำให้เรารักกันอย่างไม่ต้องมีข้อสงสัย หรือไม่ต้องมีคำถามในใจด้วย ก็ต้องขอบคุณรายการคลับฟรายเดย์ โชว์ด้วยที่ให้โอกาสเราได้ไปพูด จริงๆ ไม่ได้พูดเพื่อต้องการความสงสารจากคนอื่นเยอะเลยครับ แต่ขอบคุณที่ให้เราพูดเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนอื่นๆ ที่กำลังหมดแรงจะสู้อีกเยอะมากครับ”









กำลังโหลดความคิดเห็น