"ชายแฮ็คส์" เปิดความรักหวานซึ้ง "บอล" รับอายุห่าง 2 รอบ ตอนแรกอยากชวนเป็นนักแสดง แต่เกิดถูกอกถูกใจเลยลองคบกัน ไม่หวั่นคนมองว่าเป็นสายเปย์ หลอกกินเด็กในค่าย รักครั้งนี้ไม่คาดหวัง ดูกันเป็นวันต่อวัน ทำทุกวันให้เหมือนเพิ่งจีบกันก็พอ
เปิดตัวแบบไม่มีกั๊กเลยทีเดียว สำหรับ “ชายแฮ็คส์” หรือ “ดร. วโรดม ศิริสุข” ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต บ.ไอพีเอ็มทีวี จำกัด ผู้ผลิตละครแนวพื้นบ้าน และนักปั้นมือทองอีกคนของวงการ ที่เพิ่งเปิดตัวว่ามีความรักกับเด็กในสังกัดตัวเองอย่างหนุ่ม “บอล ติณณภัทร์ ภูนอก” ดีกรีรางวัลรองอันดับ 1 เวที Top Model Thailand ประจำปี 2015 และเคยผ่านผลงานในวงการบันเทิงมาบ้างแล้ว ซึ่งล่าสุดกำลังจะมีผลงานซีรี่ย์เรื่อง รักไม่จำกัดนิยาม ที่ชายแฮ็คส์เป็นผู้ผลิตและเล่นคู่กันในบทคู่รักต่างวัยแบบชายรักชายในเรื่องนี้ด้วย
ซึ่งตั้งแต่ทั้งคู่เปิดตัวก็มีกระแสไม่น้อย ทั้งเรื่องว่าเป็นสมภารกินไก่วัด ทั้งเรื่องอายุที่ว่ากินเด็กคราวลูก “ชายแฮ็คส์” ก็เผยถึงเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาก็ไม่เคยยุ่งกับเด็กคนไหนในสังกัดตัวเองมาก่อน แต่คนนี้เกิดถูกตาต้องใจจริงๆ เลยลองคบหากันดู และยอมรับว่าอายุห่างกันกว่าสองรอบจริง
"ที่เขาบอกว่าเรากินเด็ก (หัวเราะ) ไม่รู้สิ เพราะที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยได้ยุ่งกับใคร โดยเฉพาะที่ผ่านๆ มาเด็กๆ ที่เราปั้นเองเราจะไม่ไปยุ่งสุงสิงตรงนั้น แต่บังเอิญกับบอลคือเราคุยกันก่อน เพราะเราชอบเขาตั้งแต่ทีแรก ก็มีการพูดคุยกัน แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดว่าจะมาคบกันแบบนี้"
"ตอนแรกคือเห็นหน่วยก้านเขาก็ทาบทามมาในเรื่องของงาน ก็จะเอามาปั้นก่อน เห็นเขาเหมาะสมจะมาเป็นนักแสดง และบังเอิญซีรีส์ในเรื่องมันเป็นเกี่ยวกับความรักหลากหลายคู่ ทั้งหญิง-ชาย ชาย-ชาย หญิง-หญิง และบังเอิญเขาเป็นคู่หนึ่งที่จะต้องมาเป็นชายรักชาย แต่เป็นรักที่ต่างวัย ปกติเราจะเป็นซีรีส์วัยรุ่นทั่วไปคบกันจะเป็นรุ่นเดียวกัน แต่ในเรื่อง รักไม่จำกัดนิยาม จะเป็นคู่จิ้นที่ต่างกันมาก ก็เลยเอาน้องเขามาเล่น และพอได้ทำงานด้วยกันก็สนิทกัน ได้ใกล้ชิดกัน ก็เลยลองคุยดู"
"ที่เขาว่าเรากินเด็กคราวลูก (หัวเราะ) จริงๆ ก็ห่างกันสองรอบเลย เขา 24 เราก็ 48 (ยิ้ม) แต่สิ่งหนึ่งตอนนี้มันทำให้หลายคนที่ชื่นชมชื่นชอบเราสองคนนั่นก็คือรักต่างวัย ทำให้เรารู้ว่าในเมื่อเรื่องเพศไม่ได้เป็นเรื่องจำกัด เรื่องอายุก็ไม่ได้เป็นเรื่องจำกัดเหมือนกัน"
"จริงๆ แล้วคำว่าอายุต่างกันมันอยู่ที่การดูแลตัวเอง เด็กบางคนอายุน้อยแต่ดูแก่กว่าก็มี ฉะนั้นสิ่งที่เราทำเป็นตัวอย่างได้ก็คือเรื่องของการดูแลตัวเอง ก็ทำให้เรารู้สึกไม่แก่ ก็เหมือนเขาก้าวขึ้นมา 12 เราก็ถอยหลังลงไป 12 ตอนนี้เราก็อายุเท่ากัน เราหยุดที่ 36 (หัวเราะ)"
ยันไม่ได้เป็นฝ่ายเปย์ให้แฟนหนุ่ม เพราะฝ่ายชายก็มีหน้าที่การงานประจำทำอยู่แล้ว
"เราก็รู้อยู่แล้วว่าเขาทำอะไรมา เราก็รู้ว่าเขาเรียนจบปริญญาตรี และทำงานมีอาชีพเป็นหลักเป็นแหล่ง เป็นพนักงานบัญชี เงินเดือนก็สูงอยู่แล้ว"
"ตรงนั้นก็เลยไม่ใช่ปัญหาว่าเราจะต้องไปเปย์เขา แต่ถ้าเปย์ในเรื่องของงานก็ยอมรับว่าในเมื่อเขาเป็นคนใกล้ตัวเรา เมื่อมีงานก็ต้องมีรายได้ มีอะไรเข้ามาของเขาอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังต้องทำงานหลักงานประจำของเขาอยู่"
"เรื่องกระแสอะไรต่างๆ ไม่มีผลกระทบเลย เพราะเขาไม่ได้มาพึ่งอะไรเรา ไม่ได้มาเอาอะไรจากเรา (หัวเราะ) เพราะเราเลือกคนที่จะเข้ามาในชีวิตอยู่แล้ว เพราะเราจะบอกตัวเองเสมอว่าจะไม่ซื้อความรักด้วยเงินครับ"
"แต่ถามว่าคาดหวังกับความรักครั้งนี้มั้ย ไม่เลยนะ ดูเป็นวันต่อวันเลย เพราะเราคิดว่าทำปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่า เพราะเด็กๆ เราเคยวาดฝันอนาคตว่าเราต้องอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วมันพังตลอด ก็เลยคุยกันว่าเราทำวันต่อวันให้ดี ดีกว่า ก็จะบอกรักเขาทุกวัน เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะได้บอกหรือเปล่า ก็คิดว่าถ้าคนนี้เข้าใจเราได้ เราก็ไปด้วยกันได้ครับ เราก็อยากให้คู่ของเราเป็นตัวอย่างของใครหลายๆ คน ในเรื่องของการช่วยกันทำงาน เป็นกำลังใจให้กันดีกว่า"
"คู่ชายรักชายที่เขารักกันมานานก็มีนะ เพียงแต่เขาอาจจะไม่ได้ออกสื่อ ไม่ได้เป็นคนของสื่อเท่านั้นเอง แต่เราเป็นคู่ของคนในวงการบันเทิง คนก็เลยให้ความสนใจเท่านั้นเอง แต่เราก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเราสองคนจะคบกันได้ยาวนานหรือ 1-2 ปี แต่เราดูที่ปัจจุบันทำความหวานให้มันเกิดขึ้นทุกวันดีกว่า เพิ่มความหวานทุกวัน ให้เหมือนวันที่เราจีบ เหมือนวันที่เราคบกันวันแรก ทุกอย่างก็จะเหมือนเริ่มต้นใหม่ทุกวัน"
ฟากหนุ่ม “บอล” ก็เผยว่าครอบครัวรับทราบเรื่องความสัมพันธ์ดี และไม่มีปัญหากีดกันแต่อย่างใด
"ส่วนใหญ่ฟีดแบ็กที่หลังจากเปิดตัวแล้วก็ดีนะครับ มีคนชื่นชอบและมีคนติดตามเยอะ เพราะเป็นคู่ที่เปิดเผยอย่างจริงจัง ไม่มีการปกปิดใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับผมเรื่องอายุมันไม่สำคัญอยู่แล้วครับ คืออยู่ที่ใจสองคนมากกว่า เมื่อเราได้คุยกันแล้ว เราทำความเข้าใจกันได้ว่าคุณต้องการอะไร ผมต้องการอะไร มันจะได้จูนเข้ากันได้ ถามว่าผมมีกระแสด้านลบเข้ามาบ้างมั้ย ก็ไม่มีนะครับ มีแต่คนให้กำลังใจ บอกว่าสู้ๆ นะ รักกันนานๆ นะมากกว่าครับ ส่วนกระแสด้านลบถ้ามันมีจริงๆ ผมก็คงไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะผมไม่สามารถบังคับความคิดใครได้”
"ครอบครัวไม่มีปัญหาครับ เขาบอกว่าแล้วแต่เราตัดสินใจมากกว่า คือแรกๆ เขาอาจจะสงสัยว่าพี่เขาเป็นใคร แต่เมื่อเราได้เปิดใจคุยกับครอบครัว เขาก็บอกว่าโอเค ดูแลให้ดีๆ แล้วกัน"
"คนอาจจะมองว่าความรักชายกับชายมันจะไม่ยั่งยืน แต่สำหรับผมมองว่าอยู่ที่คนสองคนมากกว่า คือทุกคนมีนิสัยไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่เราต้องปรับจูนเข้าหากัน เรานิสัยแบบนี้ เขานิสัยแบบนี้ แล้วเรามาจูนเข้าหากันให้เข้ากันให้ได้ แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดมีกระทบกระทั่งกัน เราก็จะเปิดใจคุยกันเลย เราจะเคลียร์กันให้จบวันนั้นเลย"