“ขอบคุณบลิ้งค์ชาวไทยทุกคนนะคะ ไม่ว่าจะครั้งไหนๆ ก็ให้การต้อนรับกลับบ้านที่ดีเยี่ยม มาครั้งนี้ รู้สึกมีความสุขและสนุกมากที่ได้แสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกที่ไทยถึง 3วันติด! และมีคนมาให้กำลังใจเยอะมาก หวังว่าจะเป็นความ ทรงจำที่ดีของทุกคนนะคะ Thank you so much! ไว้เจอกันค่ะ!”
นั่นคือข้อความที่ทีนไอดอล อย่าง “ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล” เด็กสาวสายเลือดไทยแท้ๆ เพียงหนึ่งเดียวในวงเกิร์ลกรุ๊ปยอดนิยมของแดนกิมจิ อย่าง Black Pink โพสต์ขอบคุณกำลังใจจาก “บลิงค์” คนไทย หลังจากผ่านพ้นคอนเสิร์ตใหญ่ ‘BLACKPINK 2019 World Tour [IN YOUR AREA] BANGKOK’ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ต้องยอมรับว่าตอนนี้กระแสความนิยมของ “ลิซ่า Black Pink” คนนี้กำลังมาแรงเหลือเกินบนถนนดนตรี K-Pop พิสูจน์จากยอดผู้ติดตามในไอจีส่วนตัว ที่พุ่งขึ้นไปถึง 13 ล้านคน ในระยะเวลาเพียงแค่ 7 เดือน !!! นับตั้งแต่เริ่มต้นเปิดใช้เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา
ตัวเลข 13 ล้านคนนั้น ถ้านับเฉพาะในเมืองไทย ก็ถือว่าเอาชนะเจ้าแม่ไอจี อย่าง “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” ไปได้แบบทิ้งห่าง
ขณะที่ถ้าเทียบกับฝั่งเกาหลี นั่นก็หมายถึงว่าสาวไทยที่ชื่อลิซ่าคนนี้ กลายเป็นไอดอลสาว K-Pop ที่มีผู้ติดตามไอจีสูงสุด เอาชนะแชมป์เก่าอย่าง “คิม แทยอน” หัวหน้าวง Girls Generation ที่ยอดหยุดนิ่งอยู่ที่ 12.9 ล้านคนมาพักใหญ่ๆ โดยเป็นตัวเลขที่เพิ่งสรุปยอดมาหมาดๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา
พร้อมๆ กันกับที่สมาชิกที่ร่วมวง Black Pink คนอื่นๆ ก็ล้วนมียอดผู้ติดตามไอจีติด Top 5 ในอันดับที่ไล่เรียงกันมา ตั้งแต่
อันดับ 3 เจนนี่ 11.8 ล้านคน
อันดับ 4 โรเซ่ 10.01 ล้านคน
และอันดับ 5 จีซู 9.99 ล้านคน
ขณะเดียวกันไอจีอย่างเป็นทางการของวง ก็ครองแชมป์ยอดผู้ติดตามไอจีสูงสุดในหมวดของเกิร์ลกรุ๊ป ประจำปี 2018 ด้วยจำนวน 14.7 ล้านคน
แต่กว่าที่จะเดินทางมาถึงจุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้ ก็ต้องยอมรับว่าลิซ่าใช้ความทุ่มเท และความมานะพยายามแลกมาอย่างหนักเลยทีเดียว
ลองมาย้อนดูที่มาที่ไปกว่าจะมาเป็นลิซ่า Black Pink ผู้กุมหัวใจของบรรดาติ่ง K-Pop กันดูหน่อย
“ปราณปรียา มโนบาล” คือชื่อดั้งเดิมของลิซ่า ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น “ลลิษา มโนบาล” ส่วนชื่อเล่นเดิมนั้นคือ “ป๊อกแป๊ก” มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์
ลิซ่าเริ่มสนใจดนตรีแนว K-Pop ตั้งแต่เด็ก และมุ่งมั่นที่จะต้องเป็นศิลปินในแนวนี้ให้ได้
จุดแจ้งเกิดของลิซ่าเริ่มจากที่ลงแข่งขันในรายการ “LG Entertainer ล้านฝันสนั่นโลก ” ที่ผลิตโดย “หนุ่ม- กิตติกร เพ็ญโรจน์” เมื่อปี พ.ศ. 2552 ในฐานะสมาชิกของวง "วีซาคูล" (We Zaa Cool) ทีมเต้นที่มีสมาชิกทั้งหมด 11 คน ซึ่งผลก็คือได้รางวัลพิเศษในประเภททีม และอีกหนึ่งในสมาชิก ก็คือ “แบมแบม - กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” เป็นคนเดียวที่ได้รับคัดเลือกให้ไปออดิชันกับค่ายเจวายพีเอนเตอร์เทนเมนต์ จนกลายเป็นสมาชิกของวง Got 7
แต่ลิซ่าก็ไม่ล้มเลิกความฝัน เมื่อวายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์มาเปิดออดิชันในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในปีต่อมา จึงได้ส่งคลิปวิดีโอการเต้นไปร่วมออดิชัน จนสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบ 30 คน ที่จะได้มาแสดงต่อหน้ากรรมการ และเป็นคนเดียวที่ผ่านการคัดเลือกให้เป็นศิลปินฝึกหัดของวายจี เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554 และเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในปีต่อมา หลังจากทางค่ายอัปโหลดวิดีโอการเต้นของเธอลงบนยูทูปในชื่อคลิปว่า WHO'S THAT GIRL??? รวมถึงการที่มีโอกาสได้ร่วมแสดงมิวสิกวิดีโอเพลง "รินการีนกา" (Ringa Linga) ของแทยัง
กระนั้น ก็ยังต้องใช้เวลาฝึกซ้อมอย่างหนักถึง 5 ปีเต็มๆ กว่าจะได้เดบิวต์ในฐานะหนึ่งในสมาชิกของวง Black Pink และเปิดตัวครั้งแรกด้วยอัลบั้ม “สแควร์วัน” เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559 และสามารถคว้ารางวัลเอเชีย อาร์ติสต์ อะวอดส์ สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม เป็นรางวัลแรกในปีต่อมา ก่อนจะตามมาด้วยอีก 3 รางวัล จากแกออนชาร์ตเคป็อป อะวอดส์ ในสาขาศิลปินหน้าใหม่แห่งปี , เพลงแห่งปี ประจำเดือนสิงหาคม จากเพลง "วิสเซิล" และเพลงแห่งปี ประจำเดือนพฤศจิกายน จากเพลง "เพลย์อิงวิทไฟร์"
นับเวลาเพียงแค่ 2 ปี นับจากการเดบิวต์ Black Pink ก็สร้างปรากฏการณ์ที่กระหึ่มวงการ K-Pop ในฐานะของวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จสูงสุด กลายเป็นทีนไอดอลที่มีแต่คนคลั่งไคล้
โดยเฉพาะสาวสายเลือดไทยอย่างลิซ่าที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความสามารถที่ไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการร้องแร็พ , การเต้นที่หลากหลายสไตล์ รวมถึงความสามารถในเชิงภาษาที่สามารถสื่อสารได้ทั้ง ภาษาไทย , เกาหลี , อังกฤษ และญี่ปุ่น
แหละแม้จะมีกระแสแอนตี้ในเชิงเหยียดเชื้อชาติจากชาวเกาหลี ก็ไม่ทำให้กระแสความชื่นชอบในตัวของ ลิซ่าลดน้อยถอยลง เห็นได้ชัดจากการที่เหล่าแฟนๆ พร้อมกันออกมาส่งกำลังใจด้วยการติดแฮทแท็ก #RespectLisa จนติด เทรนด์ทวิตเตอร์ใน 45 ประเทศ และติดเทรนด์อันดับ 4 ของโลก
อีกมูลเหตุหนึ่งที่ทำให้ลิซ่าสมควรได้รับความชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ก็คือความเป็นคนติดดิน และไม่ลืมตัว
โดยได้รับการพูดถึงว่า แม้จะเป็นศิลปิน K-Pop ที่โด่งดังระดับนี้ แต่ลิซ่าก็ยังคงแวะกลับไปเยี่ยมเยียนถิ่นกำเนิดของตัวเอง โดยเฉพาะตากับยายที่อยู่ในวัยชราอยู่ไม่ได้ขาด แถมยังทำตัวสมถะด้วยการเดินทางด้วยรถ บขส. แทนที่จะเป็นเครื่องบินที่ใช้เวลาน้อยกว่า และสะดวกสบายมากกว่า
วันนี้ของลิซ่า จึงเป็นความภาคภูมิของคนไทย ที่สามารถไปสร้างชื่อระดับเวิลด์คลาสในตลาดเพลง K-Pop ได้เป็นผลสำเร็จ คุ้มค่ากับที่ยอมทิ้งชีวิตวัยเด็กที่สุขสบายที่เมืองไทยเพื่อเดินทางไปตามหาความฝันเพียงลำพัง
คงไม่สายเกินไป ถ้าจะปิดท้ายคอลัมน์ด้วยแฮทแท็ก #RespectLisa คนนี้อีกครั้งหนึ่ง….. ลิซ่า Black Pink …..
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 478 19-25 มกราคม 2562