“ปู ไปรยา” ลั่นฟาดเคราะห์สวยๆ ถูกกุข่าวโจรขึ้นบ้านทำร้ายจนตาย อโหสิกรรมให้ แต่อย่าทำซ้ำอีก ก่อนกัดมโนเก่งมาก น่ามาเขียนบทประพันธ์ให้บริษัท ขอโทษดรามาเหยียดภาษา ยันเป็นสคริปต์ ไม่มีเจตนาเหยียดใคร รักทุกชาติ ต่อไปจะเข้มงวดไม่อยากให้กระทบภาพที่สร้างมาปีหน้าลุยสารคดีเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย อยากให้คนเข้าใจมากขึ้น
ผ่านปีใหม่มาไม่กี่วัน นางเอกสาว “ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนเบิร์ก” ก็โดนสารพัดข่าวโจมตีเหลือเกิน ทั้งเรื่องที่ไปออกรายการแล้วพูดเลียนสำเนียงต่างชาติ จนโดนกระหน่ำตำหนิว่าเป็นการเหยียดภาษา และล่าสุดมีเพจหนึ่งในเฟซบุ๊กเสนอข่าวว่าสาวปูถูกโจรบุกขึ้นบ้าน ชิงทรัพย์ แถมถูกทำร้ายจนเสียชีวิตอีก ทำเอาตกอกตกใจกันไปทั้งเมือง ซึ่งสาวปูได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ในงานเปิดตัวซีรีส์เรื่อง สาวแปลกในเมืองป่วน (Strange Girl in a Strange Land) ผลงานแรกของ แมงกาต้า โปรดักชั่นส์ ซึ่งเป็นบริษัท “แมทธิว บราก” แฟนเจ้าตัว และรับหน้าที่เขียนบทเองด้วย โดยสาวปูควบตำแหน่งนางเอกและโปรดิวเซอร์ จะออกอากาศทางไลน์ทีวี เริ่มตอนแรก 18 ม.ค. นี้
“ตอนนั้นอยู่นิวยอร์กค่ะ คนโทร.ไปหาเยอะมาก โทร.หาคุณพ่อคุณแม่ โทร.หาปู แล้วก็เลยไปเปิดเพจดู ก็ตายล่ะ มีรูปรถพยาบาล มีรูปพยาบาล จริงจังเนอะ (หัวเราะ) ก็ถือว่าปีนี้ปีชง ฟาดเคราะห์ไปแล้วกัน ฟาดเคราะห์แบบสวยๆ เป็นข่าว แต่ก็ถามว่าแฮปปี้กับตรงนี้มั้ย มันก็ไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้โกรธ อโหสิกรรมให้ แต่ไม่อยากให้เขาทำให้แฟนๆ ตกใจหรือไม่สบายใจโดยใช่เหตุ เพราะว่าวันนึงมันก็คงต้องมีข่าวที่อาศัยความจริงว่าคนต้องเชื่อว่าจริงหรือไม่จริง ปูไม่อยากให้คนต้องมาคิดว่าเอ๊ะมันไม่เป็นอะไรนี่”
“คนรอบข้างก็เป็นห่วงค่ะ คนโทร.มาเยอะมาก ในเคสของปูโชคดีที่ปูอยู่นิวยอร์ก และงานก็ค่อนข้างนิ่งแล้วและแข็งแรงแล้ว แต่ถ้าเป็นดาราที่งานเขายังไม่ได้ชัดเจน แล้วเล่นข่าวแบบนี้ บางครั้งคนจะคิดว่าเขามีอุบัติเหตุจริงๆ และมันมีผลกระทบต่องานเขา ปูขอชี้แจงก่อนว่านี่ไม่ใช่สื่อบันเทิงนะ ปูเกรงว่าคนนอกจะไม่รู้ อันนี้ไม่ใช่เพจที่เกี่ยวกับสื่อบันเทิงเลย ปูคิดว่าบางครั้งประชาชนอาจจะเข้าใจผิดตรงนี้ ก็เลยอยากจะพูดแทนพี่ๆ สื่อว่าหลายรอบแล้วที่เขาทำแบบนี้ มันจะเป็นพวกเพจที่ต้องการให้คนเข้ามาไลก์ เข้ามาดู แต่ปูมองว่าทำแบบนี้ไม่ถูก ควรจะมีจรรยาบรรณค่ะ”
ไม่คิดฟ้อง เพราะฟ้องไปก็ไม่มีประโยชน์ อโหสิกรรมให้ แต่ถ้าทำซ้ำอีก เดี๋ยวเจอกันหน้าประตูบ้าน
“ปูไม่อยากจะฟ้อง ถ้ามีวันไหนที่ปูต้องขึ้นฟ้องใครเป็นคดีความจริงๆ ปูขอให้มันเป็นเรื่องที่จำเป็นจริงๆ ปูรู้สึกว่าชีวิตคนเรามันสั้น อะไรที่เราปล่อยวางได้และอโหสิกรรมให้ เราก็ทำซะจะได้ไม่ทุกข์ แต่จริงๆ วันที่โพสต์เราก็ไม่ได้เดือดนะ แต่พอมีคนโทร.มาเยอะมาก คือเราอยากจะพัก แต่ก็พักไม่ได้ (หัวเราะ) จริงๆ ที่ห่วงที่สุดคือพี่ป้าน้าอาของปูอยู่อ่างทองกันหมด แล้วเวลาคนในหมู่บ้านดูข่าวก็มาบอกว่าหลานโดนทุบหัว ป้าก็โทร.มาร้องไห้ใหญ่เลย ก็เลยรู้สึกว่าชุลมุนกันทั้งบ้าน ใจเย็นๆ (หัวเราะ) คือไม่โกรธนะ เพราะเราอยู่มานานแล้ว เรื่องแค่นี้โกรธก็ไม่ใช่เรื่อง”
“แต่ถามว่ากลัวเขาจะทำซ้ำมั้ย ทำซ้ำไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเจอกันหน้าประตูบ้านค่ะ (หัวเราะ) ก็เล่าให้แมทธิวฟังค่ะ เขาก็ถามว่าทำไมมีแบบนี้ด้วย ปูก็อธิบายกับเขา บางครั้งคนต่างชาติจะไม่เข้าใจว่ามันคือสื่อหรือคือเพจ แมทเลยบอกว่ามันสำคัญนะที่ยูต้องชี้แจงกับประชาชนว่าไม่ใช่สื่อมวลชน แต่คือเพจ เขาก็บอกว่ามันแปลกที่มีทั้งรูปรถพยาบาล รูปพยาบาล ขออนุญาตพยาบาลในรูปหรือยังเอาเขามาลง รถพยาบาลที่ใช้อาจจะเป็นคนไข้จริงๆ มันมีหลายอย่างที่เขาทำแล้วไม่ถูกต้อง แต่ปูรู้สึกว่าฟ้องไปแล้วได้อะไร เดี๋ยวเขาก็ลบเพจ เสียเวลาเปล่าๆ”
กัดมโนเก่ง น่ามาช่วยเขียนบทประพันธ์ให้บริษัทแฟน
“ในข้อความข่าวที่เขียนก็มโนเก่งมาก มาช่วยเขียนบทประพันธ์ให้แมงกาต้าร์ได้มั้ยคะ (หัวเราะ) ถามว่าเห็นแล้วใจเสียมั้ย ก็ไม่เสียนะ แต่เห็นแล้วรู้สึกว่าทำไมเขียนได้จริงจังและมโนได้ขนาดนี้ แต่พอเลื่อนๆ ลงไปก็เห็นโฆษณาในเพจ ก็อยากให้ใช้วิจารณญาณดูก่อนที่จะเชื่อว่ามันเป็นข่าวจริงหรือไม่จริง แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่ลบนะคะ เพราะเราไม่ได้พูดอะไรรุนแรง แต่ปูเชื่อว่าเราทำงานสังคมค่ะ เราจะมาใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง มันเป็นสิ่งที่ปูไม่เคยเชื่ออยู่เสมอ ใครประพฤติตัวไม่ดี ปูก็ชี้แจงแล้วว่ามันไม่ถูกต้อง ก็ปล่อย ปลด ไม่คิดแล้ว”
ขอโทษดรามาเหยียดภาษา ยันทำตามสคริปต์ ต่อไปจะคำนึงให้มาก รับสิ่งที่เราคิดว่าตลก คนอื่นอาจไม่ตลกด้วย
“พูดตรงๆ ว่าบางครั้งพอเราเป็นนักแสดง แล้วเราออกรายการหรือออกทีวีออกซีรีส์ แม้แต่หนังโฆษณาเองมันเป็นสคริปต์หรือเป็นสตอรี่บอร์ด และปูยอมรับว่าปูควรจะสตริ๊กกว่านี้ในบางเรื่อง เพราะปูเป็นนักแสดงปูก็เปลี่ยนสำเนียงตัวเองตลอดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะไปแคสติ้งที่ไหนก็จะเปลี่ยนสำเนียงเล่น หรืออยู่ในเมืองไทยเราก็ยังมีการล้อเลียนกันในกอง แต่บางครั้งเราต้องคำนึงว่าสิ่งที่เราคิดว่าตลก คนอื่นอาจจะมองว่าไม่ตลก แล้วถ้าปูได้ทำให้ใครไม่พอใจหรือเสียใจ ปูต้องกราบประทานโทษจริงๆ แล้วถึงปูไม่ได้อยู่ในทีมงานของพี่ป๋อมแป๋ม (นิติ ชัยชิตาทร) หรือโปรดักชั่นของพี่ป๋อมแป๋ม ในฐานะของคนที่อยู่ในวงการเหมือนกัน”
“ปูก็ต้องขออภัยแทนทีมพี่ป๋อมแป๋มจริงๆ เพราะเจตนาของปูคือเอาจริงๆ ปูเป็นคนไทย ปูไม่มีทางที่อยากจะล้อเลียนคนของตัวเองหรือคนชาติอื่นที่อยู่ในคลิปนั้น เพราะปูรู้สึกว่าไม่มีใครชอบหรอกค่ะที่จะให้ใครมาล้อเลียน และถ้าปูได้ทำให้ใครเสียใจก็ต้องขอโทษ เพราะปูเป็นคนแมนๆ อยู่แล้ว ถ้าผิดก็รับผิด”
“ถามว่าได้อ่านคอมเมนต์มั้ย อย่างที่บอกเวลาที่คนบอกว่าอ่านคอมเมนต์แล้วท้อมั้ย ทุกข์มั้ย ปู ไปรยาเวอร์ชั่น 2007 กับปู ไปรยาเวอร์ชั่นปีนี้ 2007 ปูอ่านข่าวการกระทำตัวเอง ปูรู้สึกทุกข์ โกรธ ร้อน และสิ่งที่ออกมาคือบทสัมภาษณ์ที่ไม่ได้ใช้สติ และพูดจาในสิ่งที่ไม่ควรจะพูด พอเราโตขึ้นเราเจอข่าวเกี่ยวกับการกระทำของตัวเองซึ่งมันไม่เหมาะสม เราก็ควรจะวิเคราะห์ว่าทำไมเราไม่ปรับปรุงตัว และทำไมเราไม่เซฟตัวเองกว่านี้ และทำไมเราไม่พูดตั้งแต่วันนั้นว่ามันอาจจะมีเรื่องอะไรมั้ย”
“เลยมองว่าอ่านคอมเมนต์ไม่เครียด เพราะเราเป็นคนของประชาชน อาชีพปูสร้างเพื่อสังคม ซีรีส์นี้ปูจะมีงานมีโฆษณาก็เพราะว่าประชาชนซื้อสินค้าปู ถ้าปูทำอะไรผิดแล้วเขาไม่พอใจ ปูนี่แหละที่ควรจะมาขอโทษเขา และสำนึกถึงการกระทำของปู และขอปรับปรุงตัว ก็เลยรู้สึกว่าไม่โกรธเลย”
“ไม่มีมนุษย์คนไหนเพอร์เฟกต์ และปูเชื่อว่าดาราได้สิทธิพิเศษมาเยอะแล้ว ถ้าเราผิดบางครั้งแค่การถ่อมตนและรับว่าผิด มันเป็นสิ่งที่เราควรจะทำต่อประชาชน ก็เลยรู้สึกว่าถ้าปูทำอะไรที่ไม่พอใจ ซึ่งตัวปูเองก็มองว่าเรื่องนี้มันเซนซิทีปและละเอียดอ่อน ก็ขอโทษจริงๆ ค่ะ เดี๋ยวปรับปรุงตัว จะระวังให้มากกว่านี้ค่ะ ไม่มีเจตนาจริงๆ ปูไม่เหยียดค่ะ รักทุกชาติค่ะ (ยิ้ม)”
บอกต่อไปถ้าต้องออกรายการไหนคงต้องเข้มงวดในเรื่องสคริปต์มากกว่านี้
“กับพี่ป๋อมแป๋มก็คุยกันค่ะ ปูโทร.หาเขาทันทีและโทร.หาณัฐ (ณัฐ ศักดาทร) ด้วย จริงๆ ตอนที่คลิปขึ้นมา บางครั้งเวลาเราถ่ายเราไม่ได้ดูถึงรายละเอียดว่ามันจะเป็นยังไง พอเขาบอกว่ามันจะเป็นคอนเซปต์นี้นะ เราก็โอเค แล้วของปูเป็นเวอร์ชั่นที่ต้องพูดภาษาอังกฤษในสำเนียงไทย ซึ่งปูก็มองว่าเราเป็นลูกครึ่งคนไทย มันก็ไม่น่าจะเซนซิทีปมาก และอีกอันนึงเป็นสำเนียงอเมริกัน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าไม่เซนซิทีป”
“แต่พอปูเห็นในคลิปแล้วปูวิเคราะห์ก็เห็นด้วยในระดับหนึ่ง มันเซนซิทีป ก็เลยมองว่าพี่ป๋อมแป๋มควรจะทำอะไรสักอย่าง ก็โทร.หาเขา และโทร.หาณัฐว่าลบซะ และชี้แจง ขอโทษ จากประสบการณ์การทำงานของปู ปูรู้สึกว่าผิดแล้วรีบรับผิดซะและแก้ตัว อย่าไปยื้อมัน อย่าไปสู้กับมัน คือเอาใจเขามาใส่ใจเรา”
“หลังจากนี้ถ้าไปออกรายการไหนก็คงต้องเข้มงวดมากกว่านี้ค่ะ เพราะ 2-3 ปีที่ผ่านมาปูค่อนข้างคุมตัวเองให้มีข่าวค่อนข้างนิ่ง แล้วปูซีเรียสกับเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะกับงานสังคมที่ปูทำ เพราะมันเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของปู และตอนนี้ปูรู้แล้วว่าเวลาทำงานไม่ว่าจะเป็นสตอรี่บอร์ดโฆษณา สคริปต์หนัง สคริปต์ทุกอย่าง อันนี้จำเป็นต้องเยอะ เพราะว่าเวลาเคสอย่างนี้เกิดขึ้นคนที่ต้องมารับผิดก็คือเรา และเป็นภาพลักษณ์ที่เราสร้างมา เลยรู้สึกว่ามันเป็นบทเรียนที่สำคัญ และขอบคุณนะคะที่ประชาชนเข้าใจจริงๆ และขอบคุณที่ติเตือนด้วย เพราะถ้าคุณไม่เตือนวันนึงปูอาจจะเจอเรื่องที่หนักกว่านี้ก็ได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นบทเรียนแรกค่ะ”
เผยเตรียมทำสารคดีเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย หวังให้คนเข้าใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น
“ปูทำงานกับ UNHCR มา 5 ปี ปีนี้เข้าปีที่ 6 เป็นอาสาก่อน เป็นทูตนี่เข้าปีที่ 3 แล้ว รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ก็จะกำกับสารคดีเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยที่แอฟริกาค่ะ ปลายปีหน้าจะมาชี้แจงอีกที พอปูไปเห็นคุณแมทธิวทำโปรดักชั่นและปูเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับคุณแมทก็ได้เห็นว่างานหลังกล้องเป็นงานที่ปูค่อนข้างประทับใจ และมันเป็นสิ่งที่ปูรักมากที่จะทำ แต่อันนี้ปูไม่ได้เข้าไปเล่นเองค่ะ เดี๋ยวปูจะหาเสียงที่ทรงพลังกว่าปูมาเป็นวอยซ์โอเวอร์ดีกว่า แล้วเดี๋ยวปูไปกำกับภาพมากกว่า ปูรู้สึกว่าถ้าเป็นงานเบื้องหลังก็จะโฟกัสกับงานสังคมมากกว่า และเป็นผู้ช่วยคุณแมทธิวค่ะ”
“ถามว่าสารคดีนี้ปูอยากสื่ออะไรบ้าง ปูอยากจะเล่าถึงชีวิตผู้ลี้ภัยในยุคนี้ อย่างที่เห็นมันจะมีสงครามซีเรียในแอฟริกาและโรฮิงญา ปูรู้สึกว่าปัญหาข่าวทั่วโลกในเชิงอพยพคนกลัวคำนี้มาก คนกลัวอะไรที่แตกต่าง คนจะเข้าใจว่ามันจะเป็นยังไงถ้าคนกลุ่มจำนวนมากต้องลี้ภัยเข้ามาในประเทศเขา ปูก็อยากจะสื่อสารกับคุณผู้ชมและคนดูว่าจริงๆ เขาก็คือมนุษย์คนนึง และเขาก็ไม่ต่างจากพ่อแม่เราหรือลูกเรา”
“และถ้าสงครามนี้หรือเหตุการณ์เกิดที่บ้านเราจริงๆ แล้วเราไม่มีที่ไป เราก็คงหวังว่าเราจะมีประเทศที่สามมารองรับ และรับพ่อแม่เรา รับเรา นั่นคือสิ่งที่ปูอยากจะสื่อสาร ซึ่งปูว่าจากใจปูสำคัญกว่าการระดมทุนอีก คือการปรับเปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนความเข้าใจของคน และปูเชื่อว่ามากกว่าคำพูดของปูคือภาพให้คนได้เห็น เพราะคนไทยเราถูกสอนอยู่แล้วเรื่องพุทธศาสนา ความเมตตา และการที่คนไทยได้เห็นภาพ ปูเชื่อว่าจะดึงความรู้สึกของเขาให้อยากจะมาช่วยค่ะ แต่จะฉายที่ไหนยังไงเดี๋ยวรอดูค่ะ แต่ไม่ฉายทางทีวีค่ะ น่าจะพยายามให้เข้าโรงภาพยนตร์ค่ะ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)
