“บุ๋ม ปนัดดา” รับนัดทานข้าว “เอก เอกริน” อดีตสามีแต่โนรีเทิร์น โต้ใจแข็ง แต่เชื่ออีกฝ่ายยังแก้โจทย์ปัญหาชีวิตคู่ไม่ได้ ตัดใจขายเรือนหอเพราะสร้าง 15 ห้องนอน ใหญ่เกินความจำเป็น บอกตอนแรกหวังพ่อแม่-ญาติพี่น้องมาอยู่ด้วย แต่ไม่มีใครมา เอกไม่อยู่ห่วงเรื่องความปลอดภัย เล็งหาบ้านหลังใหม่มีพื้นที่ให้น้องหมา
หลังประกาศเตียงหัก เลิกรากับอดีตสามี “เอก เอกริน นิลเศรษฐี” ล่าสุดก็ถูกจับตาว่า “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” จะมีสิทธิ์รีเทิร์นรักหรือเปล่า หลังจากที่ทั้งคู่เพิ่งนัดทานข้าวกันมา โดยบุ๋มเผยว่าเป็นการนัดคุยกันเรื่องงาน ลั่นไม่ได้ใจแข็ง แต่เชื่ออีกฝ่ายยังแก้โจทย์ปัญหาชีวิตคู่ไม่ได้
“ล่าสุดไปทานข้าวกันมา เพราะว่ายังมีโปรเจกต์ที่ต้องคุยกันอยู่ อย่างที่รู้ๆ กันว่าเรากับคุณเอกลงทุนกันไปเยอะมาก ในเรื่องของยิม ดังนั้นเราถอยกันไม่ได้ แต่ในเรื่องความสัมพันธ์ก็แยกอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าในเรื่องของธุรกิจ ยังไงก็ยังต้องทำด้วยกัน เป็นความโชคดีที่เราไม่ได้ทะเลาะกัน ถามว่าเขามีง้อมั้ย แรกๆ มี แต่ตอนนี้นิ่งแล้ว(หัวเราะ)”
“ไม่ได้เรียกว่าใจแข็ง เราก็อยู่ตรงนี้เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเขาอาจจะยังแก้โจทย์ปัญหาชีวิตคู่ของเราไม่ได้เท่านั้นเอง ว่ากลับมาแล้วมันจะเป็นยังไง โจทย์มันเหมือนเดิม เขาก็ยังทำตัวเหมือนเดิม เราก็ยังต้องทำงานของเราเหมือนเดิม เราเรียงลำดับความสำคัญของชีวิตว่างานห้ามเสีย เงินลงทุนห้ามเสีย ความรักว่ากันทีหลัง”
“ต่อให้เราไม่ได้อยู่กันแบบสามีภรรยา เราก็อยู่แบบเพื่อนก็ได้ เรื่องธุรกิจ เราก็พยายามคุยกันอยู่ว่า เราจะยังไง เขาจะดูแลต่อไปยังไง แล้วเราจะช่วยในส่วนไหนบ้าง เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่ว่าคุยครั้งเดียวจบ มันยังต้องคุยกันอีกนานว่าจะตกลงกันยังไง รวมทั้งสาขา 2-3 ที่จะเกิดขึ้น เราจะช่วยในส่วนไหนบ้าง”
รับอึดอัด ลำบากใจ ถูกแซวเรื่องรีเทิร์น
“ถามว่าลำบากใจมั้ย บอกตามตรงว่าต้องมีบ้าง อึดอัดตรงที่ คนมาเขียนแซวซะมากกว่า เวลาที่เขาเองก็อยากลงรูปว่าไปกับบุ๋ม ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร กลายเป็นว่าคนแซวว่ารีเทิร์นเหรอ คือใจเย็นๆ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบุ๋มไม่ปิดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันยังไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่ ถ้ายิ่งไปกดดัน ก็จะทำให้เราอึดอัดค่ะ”
“เรื่องธุรกิจ ใจเราก็อยากทำต่อนะ เพราะเราก็สนุกกับมัน เพียงแต่ว่ามันจะไปยังไงต่อ เรายังต้องคุยกันอีกเยอะ ซึ่งเรายังไม่ค่อยได้มีโอกาสคุยกันเท่าไหร่”
ขายเรือนหอเพราะอยู่กันแค่ 3 คน กับบ้าน 15 ห้องนอน ที่ใหญ่เกินความจำเป็น ลั่นสร้างตอนแรกเพราะอยากให้พ่อแม่ญาติพี่น้องมาอยู่ด้วย แต่ทุกคนไม่มา
“อย่าเรียกว่าเรือนหอดีกว่า เป็นบ้านที่เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรกที่ตั้งใจซื้อเป็นสมบัติ ให้น้องอันดามัน และตั้งใจว่าจะพาคุณพ่อคุณแม่มาอยู่ด้วย แต่คุณพ่อคุณแม่ท่านไม่มา เพราะติดบ้านอีกหลังหนึ่งที่บุ๋มซื้อให้ก่อนแล้ว ตอนนี้ก็เท่ากับว่าเหลือแค่บุ๋ม อันดามัน และพี่สาวของบุ๋ม 3 สาว กับบ้าน 15 ห้องนอน มันใหญ่เกินไป เพราะตั้งแต่แรกเราตั้งใจเตรียมไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ และให้ญาติๆ มาอยู่ด้วยกัน”
“เพราะเมื่อก่อนบุ๋มจน เราอยู่ในแฟลตห้องเล็กๆ อยู่ด้วยกัน 8 คน ดังนั้นมันฝังใจบุ๋มตั้งแต่เด็ก ว่าโตขึ้น ฉันจะมีบ้านหลังใหญ่ เพื่อดูแลญาติให้หมดทุกคน แต่กลายเป็นว่า ญาติทุกคน บุ๋มก็ดูแลจนมีบ้านเป็นของตัวเองกันหมดแล้ว เลยไม่มีใครมาอยู่ ตอนนี้มันก็เลยใหญ่เกินไปสำหรับต้องอันดามัน เวลาเราไปต่างจังหวัด เราก็กลัวว่ามันจะปลอดภัยมั้ย เพราะคุณเอกไม่ได้อยู่แล้ว ก็จะไม่มีผู้ชายอยู่ในบ้าน มีกันแค่ผู้หญิงแค่ไม่กี่คน ก็เลยเป็นห่วง คิดว่าอยากได้บ้านหลังเล็ก ที่ดูแลกันเองได้สบายๆ มากกว่า แต่ให้มีพื้นที่หน่อย เพราะว่าเอาไว้ให้หมา”
“คนก็ไม่ได้เข้ามาถามเยอะสักเท่าไหร่ ด้วยราคาบ้าน และจำนวนห้องนอนที่มันใหญ่โตพอสมควร แต่ถามว่ามีมาถามมั้ย ก็มีบ้าง และมีคนที่ต่อรองอยู่ เราก็คงไม่กลับไปอยู่ที่นี่ ก็คงจะหาหลังใหม่ที่มีเนื้อที่มากกว่าเดิมหน่อย ให้น้องหมา เพราะเป็นคนรักหมา”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)
