จากภาพในชุดภูมิฐานสไตล์กีฬาสนุกเกอร์ “สตีฟ เดวิส” คือนักกีฬาระดับตำนานที่โด่งดังจากการเล่นอย่างแน่นอน จิตใจเยือกเย็น และการเก็บอารมณ์จนดูไร้อารมณ์ จึงแทบไม่น่าเชื่อว่ายอดนักสนุกเกอร์จะกลายมาเป็นดีเจเปิดเพลงอิเล็กโทรนิกแบบที่คนรุ่นใหม่นิยมกัน
สตีฟ เดวิส ได้ชื่อว่าเป็นนักสนุกเกอร์ที่มีส่วนอย่างยิ่งต่อการเติบโตของกีฬาประเภทนี้ในยุค 1970s-1980s เขาถูกตั้งฉายาว่าเป็นนักกีฬาผู้น่าสนใจ (Interesting) ดูแล้วเหมือนจะดี แต่จริงๆ แล้วเป็นการเสียดสีว่า สตีฟ เดวิส ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยต่างหาก
ด้วยการเล่นที่เน้นความชัวร์ และยังเขายังแทบไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย สตีฟ เดวิส จึงมักจะโดนแซวว่าทำให้กีฬาชนิดนี้ดูน่าเบื่อ แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับคู่ปรับในยุคแรกๆ อย่าง อเล็กซ์ ฮิกกินส์ ที่ว่ากันว่าเปลี่ยนกีฬาสนุกเกอร์ให้กลายมาเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในวงการอย่างเป็นทางการ
แต่ในวัย 63 ปี สตีฟ เดวิส กลับได้รับความสนใจขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเขากำลังสร้างชื่ออยู่ในอีกวงการ กับการเป็นดีเจเปิดแผ่นที่เน้นเพลงแนวล้ำสมัยอย่างที่ดูไม่ได้เข้ากับวัยเกษียณของเขาเลย
สองคนในร่างเดียว?
ในสนามกีฬา สตีฟ เดวิส คือนักสนุกเกอร์ผู้เยือกเย็น แต่เมื่ออยู่กับเสียงเพลง เขากลับกลายเป็นนักฟังเพลงผู้กระตือรือร้น และทุ่มเทให้กับการฟังเพลงอย่างจริงจัง สตีฟ เดวิส สะสมแผ่นเสียง และแผ่นซีดีเอาไว้เป็นจำนวนมาก เขามักจะไปปรากฏในคอนเสิร์ตของศิลปินดังๆ และยังเคยลงทุนจัดคอนเสิร์ตให้กับศิลปินในดวงใจมาแล้ว
นอกจากนั้น สตีฟ เดวิส ยังเป็นนักฟังเพลงประเภทหัวก้าวหน้า ที่นิยมหาดนตรีแนวใหม่ๆ ที่มีความแตกต่าง และซับซ้อนมาฟังอยู่เสมอ โดยเขาเริ่มต้นสนใจเสียงเพลงจากการเป็นแฟนเพลงแนวโปรเกรสสีฟร็อก ดนตรีแนวก้าวหน้าที่มีเนื้อหาซับซ้อน และแต่ละเพลงจะมีความยาวเป็นสิบนาที
“ผมเริ่มจากการฟังวง Soft Machine เล่นที่กรีนิชในช่วงปี 1974 ตอนนั้นฟังแล้วก็ติดหนึบเลย” เดวิส เล่า “ผมฟังแบบทุ่มเทมาก เป็นดนตรีที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนั้น และตอนนี้ก็ยังมีอยู่ ผมได้มีโอกาสกลับไปฟังเพลงหลายๆ ยุค ที่พลาดไปเพราะต้องเล่นสนุกเกอร์ ตอนนั้นเหมือนเป็นอาลาดินที่ค้นพบสมบัติแห่งเสียงเพลงเลย”
“เป็นความสนุกแบบสุดๆ เลยก็ว่าได้” สตีฟ เดวิส บอกถึงชีวิตอีกด้านของตัวเอง “หลังจากนั้นต้องซ้อมหนัก ต้องเดินทางไปฮัลล์, ลอนดอน, แมนเชสเตอร์, กลาสโกว์ เพื่อเล่นกีฬา มันก็คงต้องเป็นแบบนั้นล่ะนะ ต้องพยายามเพื่อที่จะเป็นสุดยอด ผมแทบไม่มีเวลาหายใจ ก็เลยพลาดดนตรีไปอีกหลายแนว ทั้ง พังก์, แจ๊ซฟังก์, อีลิคโทนิกา ของดีๆ ทั้งนั้น”
นักฟังเพลงหัวก้าวหน้า
สตีฟ เดวิส มีศิลปินที่ชื่นชอบมากมาย ทั้งวงโปรเกรสสีฟร็อกจากอังกฤษอย่าง Gentle Giant ที่เขาบอกว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้วงดังๆ อย่าง Pink Floyd และ Genesis เลย ส่วน Magma วงร็อกจากฝรั่งเศสที่บัญญัติภาษาของตัวเองขึ้นมา และเล่นเพลงที่มีความยาวเป็นชั่วโมง ก็เป็นวงดนตรีที่ เดวิส ชื่นชอบมากถึงกับเคยควักเงินให้ Magma มาแสดงที่อังกฤษมาแล้ว
“ผมจะชอบดนตรีประหลาดๆ หน่อย ถือว่าเป็นความสุขอันล้นพ้นเลยก็ว่าได้กับการฟังและชมการแสดงของวงเหล่านี้
ผมเคยเอาเพลงของ Art Zoyd ไปเปิดเวลาเดินเข้าสนามแข่งขันด้วย แต่พอครั้งหน้าพวกเขาก็ไม่ให้เปิดแล้ว อยากจะให้มีนักสนุกเกอร์เดินเข้าสนามมาด้วยเพลงแนวเทคโนเฮาส์อะไรแบบนั้นบ้าง”
กระชุ่มกระชวยอีกครั้งในวัย 60 เศษ
จนเมื่อวัยขึ้นเลข 6 สตีฟ เดวิส จึงเริ่มลองมาอยู่อีกด้านของเสียงเพลงดูบ้าง จากที่เคยเป็นผู้ชม ก็เปลี่ยนตัวเองมาเป็นศิลปิน ซึ่งเขาก็เลือกที่จะเป็นดีเจในแนวทางของเพลงอิเล็กโทรนิก และใช้ชื่อในวงการว่า DJ Thundermuscle ... “ชีวิตผมเหมือนย้อนวัยกลับไปหนุ่มอีกครั้งแบบ เบนจามิน บัตตันเลย ตลกดี”
สตีฟ เดวิส ได้มีโอกาสไปเปิดแผนในอีเวนต์ และสถานบันเทิงทั่วสหราชอาณาจักร รวมถึงงานใหญ่อย่างแกลสตันบิวรีด้วย “ตอนนี้ผมคล้ายๆ จะเป็นแวมไพร์ ตอนขึ้นมากลางคืน พอถึงตอนเช้าก็นอน”
“ตลกดีเหมือนกันที่เมื่อก่อนผมจะเล่นปาเป้า แล้วก็กินนมก่อนจะเข้านอน แต่ตอนนี้มาปาร์ตี้อยู่จนถึงเช้ามืด”
ในวงการสนุกเกอร์ สตีฟ เดวิส คือนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งที่เคยมีมา ซึ่งเขาก็ยอมรับตรงๆ ว่าในบทบาทดีเจเขาไม่ได้เก่งกาจอะไรมากนัก “ผมก็แค่ขนซีดีกับแผ่นเสียงแล้วเปิดไป กดๆ เต้นๆ ไปเรื่อยๆ”
แม้จะออกตัวว่าเขาไม่ได้เป็นดีเจชั้นยอดอะไรนัก แต่ สตีฟ เดวิส ก็เชื่อว่าเสียงเพลงทำให้เขาได้ค้นพบความตื่นเต้นในชีวิตอีกครั้ง “มันยอดเยี่ยมจริงๆ ที่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นหลังจากการเล่นสนุกเกอร์”
“คุณอาจจะพูดว่าไม่มีอะไรมาเทียบกับความตื่นเต้นจากการแข่งขัน นั่นก็จริง เพราะคงไม่มีอะไรมาเปรียบกับการเดินเข้าสนามครูซิเบิล เธียเธอร์ ได้ แต่ก็เป็นโชคดีของผมที่ได้ค้นอะไรความตื่นเต้นในรูปแบบที่แตกต่างออกไป”