xs
xsm
sm
md
lg

เลิกปลอมแล้วจ้า “ไอซ์ ปรีชญา” งดอัพหน้า ยอมรับหน้าเปลี่ยนทุกไตรมาส

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ไอซ์ ปรีชญา” ชินแล้วโดนเม้าท์หน้าเปลี่ยนทุกไตรมาส ลั่นตอนนี้พอใจกับใบหน้าไม่คิดไปทำอะไรเพิ่มอีกแล้ว รับตนมีไปเสริมบ้างแต่ไม่ถึงขั้นทำศัลยกรรมยกหน้าใหม่ คาดที่คนเห็นว่าหน้าเปลี่ยนเพราะหลายๆ ปัจจัย พ้อไม่เคยสมหวังในความรักเจอแต่ผู้ชายไม่จริงใจ มาๆ หายๆตลอด

ออกงานทีไรหน้าตาเปลี่ยนไปตลอดสำหรับ “ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” เลยโดนเม้าท์โดนแซวว่า เป็นนางเอกหน้าใหม่ เปลี่ยนทุกไตรมาส เป็นนางเอกศัลยกรรมไปแล้ว เมื่อถามสาวไอซ์รู้สึกอย่างไรที่คนมองว่าเราเติมหน้าตลอดจนหน้าเปลี่ยนไปขนาดนี้ เจ้าตัวก็บอกว่าเริ่มชินเสียแล้ว

“อันนี้โดนประจำอยู่แล้ว ไม่คิดมากแล้ว ไม่รู้สึกอะไรแล้วเวลาคนทักเพราะว่าชินแล้ว มันหลายๆ อย่างบวกกัน ไอซ์แก่ขึ้นด้วย จะ 30 ปีแล้ว ตัวไอซ์ลองมองตัวเองก็คิดว่า มันก็มีเปลี่ยนบ้างเหมือนกัน อย่างเวลาที่ไอซ์เปลี่ยนสีปากหน้าก็จะเป็นอีกแบบนึงแล้ว หน้าก็จะมีเล็กบ้างอ้วนบ้างขึ้นอยู่กับมุมกล้อง คือตอนนี้ไม่ได้ทำแล้วนะหยุดทำแล้ว พอใจกับใบหน้าตอนนี้แล้ว ไม่คิดจะทำอะไรแล้ว เรารู้สึกว่าที่มันเปลี่ยนเพราะการแต่งหน้า แล้วก็การทำผมมากกว่า ไอซ์ตัดผมสั้นด้วย แล้วตัวไอซ์ก็เดี๋ยวอ้วนเดี๋ยวผอม ช่วงที่คนทักเยอะๆ ว่าหน้าเปลี่ยนเราก็มาดูอ่อ...เป็นเพราะเราใส่คอนแทคเลนส์สี ซึ่งเราไม่เคยใส่เลย ทุกวันนี้ก็เลยไม่ใส่คอนแทคเลนส์สีอีกเลย”

“ถามว่าเสียเซลฟ์ไหม ไอซ์คิดว่าคงจะโดนทุกคน นักแสดงทุกคนจะมีโดนทำพัฒนาการหน้า ซึ่งจริงๆ มันก็พัฒนาไปเรื่อยๆ ตามวัยแหละ ไอซ์ว่าตรงนี้มันก็จริง ไม่ได้บอกว่าตัวเองไม่เปลี่ยนนะ ตัวไอซ์ก็ยอมรับว่าเปลี่ยน แต่มันเปลี่ยนได้จากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเราอ้วนขึ้นผอมลง เราดัดฟัน เราใส่คอนแทคเลนส์ เราตัดผม ไอซ์ก็รู้สึกว่าบางช่วงหน้าเราก็มีเปลี่ยนไป ไม่ได้บอกว่าหน้าตัวเองเหมือนเดิมอยู่ตลอด บางช่วงทำเลเซอร์เยอะหน้าก็จะเล็ก”

ลั่นทุกวันนี้พอใจกับใบหน้าตัวเองแล้ว ไม่คิดจะเสริมเพิ่มเติมอีก
“คิดว่าตอนนี้โอเคพอใจกับหน้าตัวเองแล้ว ไม่น่าจะต้องทำอะไรแล้วแหละ คิดว่าหลังจากนี้คงจะไม่ทำอะไรกับมันอีกเลย รู้สึกว่าตอนนี้เราโอเคกับมันแล้ว ที่ผ่านมาก็ยอมรับค่ะว่ามีไปจิ้มไปโบท๊อกซ์เลเซอร์ทรีตเม้นต์ ก็ทำเหมือนคนทั่วไปเขาทำกัน แต่ไม่ถึงขั้นไปผ่ารู้สึกว่ามันเป็นศัลยกรรมที่เราต้องพักฟื้น ถ้าเราเราต้องพักฟื้นเราจะทำงานไม่ได้ เราเล่นละคร เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ จะโดนผู้ใหญ่ว่าถ้าหน้าเราไม่เหมือนเดิมมันจะถ่ายไม่ต่อเนื่อง”
 
เชื่อคนสมัยนี้มองว่าการไปเสริมไปจิ้มหน้าเป็นเรื่องปกติ ใครๆ ก็อยากดูดีไม่ใช่เฉพาะคนในวงการบันเทิงเท่านั้น
“ไอซ์ว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับคนในยุคนี้แล้วดีกว่านะคะ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนในวงการบันเทิงที่มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ คนทั่วไปก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติแล้ว เพราะทุกคนก็อยากสวยกันหมด ถ้าทำอะไรแล้วหน้าเราดูดีขึ้นที่มันไม่เกินไป เราชอบรู้สึกว่าเราพอใจก็ทำไปเถอะ ไอซ์ว่ามันไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้ถ้าเราไม่อ้วนขึ้นหรือผอมลงไอซ์ว่าไม่น่ามีปัญหานะคะ ก็เดี๋ยวรอดูก่อน ถ้าตอนนั้นมันอ้วนขึ้น หรือหน้าเริ่มหย่อนก็อาจจะกลับไปพึ่งเลเซอร์ พึ่งเทอมาจบ้าง ณ ตอนนี้ขอไม่ทำอะไรแล้ว”

พ้อไม่เคยสมหวังในความรักเจอแต่ผู้ชายไม่จริงใจมาๆ หายๆตลอด
“ตอนนี้พอเราเริ่มโตขึ้นมันก็มีประสบการณ์หลายๆ อย่างเกิดขึ้นกับเรา อย่างที่ผ่านมาเราก็รู้สึกว่าเออ...มันก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้เนอะในชีวิตคนเรา มันก็น้อยครั้งที่เราจะเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิด เราก็ไม่รู้หรอกว่าอนาคตเราจะไปเจออะไรแบบไหน ก็ถือเป็นประสบการณ์มากกว่าว่ามันทำให้เราระวังตัวมากขึ้นเข้มแข็งขึ้น เราผ่านมันไปได้มันก็ถือเป็นบทเรียนบทนึงสำหรับเรา เอาจริงๆในชีวิตเรื่องความรักไม่เคยดีเลยนะ ตั้งแรกๆ มาเลยเหมือนชีวิตไม่แฮปปี้เรื่องความรัก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”

รับคิดไม่อยากจะแต่งงาน อยากใช้ชีวิตอยู่เป็นโสดตลอดไป
“ก็บอกกับที่บ้านว่าถ้าไอซ์ไม่แต่งงานโอเคไหมแม่ แม่ก็บอกว่าแต่งเถอะลูกอยากมีหลาน ตอนแรกที่เรามีคนเข้ามาคุยหรือเรามีแฟนเรารู้สึกว่าเราจะต้องมี แต่พอวันที่เราไม่มีเราก็รู้สึกว่าเราเอนจอยกับชีวิตมาแล้ว แล้วเราก็โฟกัสกับการทำงานดูแลครอบครัว เลยรู้สึกว่าแบบนี้ก็แฮปปี้ดีไม่จำเป็นว่าจะต้องมีใครมาคุยกับเราตลอดเวลาก็ได้ ตอนนี้เริ่มชินกับความโสดไม่มีแฟนก็อยู่ได้เพราะเราโฟกัสกับงานและครอบครัวแทน เราไม่จำเป็นจะต้องไปคิดถึงเรื่องคนรักตลอดเวลา ความรักเป็นอะไรที่เราคาดเดาไม่ได้ ไม่รู้ว่าคนแบบไหนจะเข้ามาในชีวิตเรา รู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่จำเป็นต้องไปรีบหา ไม่ถึงขั้นว่าท้อแท้นะยังไม่ปลงเพราะยังไม่ 30 เลย แต่ถ้า 30 แล้วยังคงเป็นแบบนี้อยู่ก็คงจะเริ่มท้อแล้วแหละ ตัวไอซ์เองก็กำหนดไว้ว่าช่วง 30 จะเป็นช่วงที่เราอยากจะมีครอบครัวแล้ว”

บอกแม้จะไม่เคยสมหวังในความรักแต่ก็ไม่เคยเอามาเป็นปมกับตัวเอง
“เราเลือกมองในด้านดีๆ เราก็มองว่าที่เราไม่สมหวังเรื่องความรักคงเพราะเรายังไม่เจอคนดีๆ ที่เหมาะสมกับเรามากกว่า แล้วเราเองก็อาจจะไม่เหมาะสมกับเขาด้วย ยังไม่เข็ดกับความรักนะคะ มองให้มันเป็นบทเรียนว่าไม่ใช่ว่าใครเข้ามาหาเราแล้วเราจะรู้สึกดีกับเขาไปหมด”




กำลังโหลดความคิดเห็น