“สายไหม มณีรัตน์” นางเอกช่อง 3 บ่อน้ำตาแตก วิวาห์แฟนหนุ่มนักธุรกิจ เจ้าบ่าวทุ่มสินสอดไม่อั้น แหวนเพชร 5 กะรัต กำไลเพชร นาฬิกา รถยนต์ ฝ่ายหญิงตัดใจเลือกรักมากกว่างาน บอกเข้าขากันได้เพราะเป็นลูกแหง่ ยกสถาบันครอบครัวสำคัญที่สุด น้ำตาเอ่อขอบคุณครอบครัว เลี้ยงตนให้เป็นผู้หญิงที่มีคุณค่า ขนลุกได้เป็นสามีภรรยา
งานในวงการกำลังไปได้สวย สำหรับนางเอกช่อง 3 “สายไหม มณีรัตน์ ศรีจรูญ” ซึ่งเป็นที่รู้จักในบท “แม่บัว” ละครข้าบดินทร์ และมีผลงานตามติดอีกหลายๆ เรื่อง แต่ล่าสุดเจ้าตัวเลือกความรัก ตัดสินใจเข้าประตูวิวาห์กับหนุ่มนักธุรกิจทายาทออดี้ ไทยแลนด์ “หยางหยาง ธีรคุปต์ ธรรมมณีวงศ์” โดยทั้งคู่จูงมือแถลงข่าว ณ ห้องสโรชา ชั้น 2 โรงแรมสยามเคมปินสกี้ งานนี้ฝ่ายหญิงจดทะเบียนสมรส เปลี่ยนนามสกุล แต่ยังใช้คำว่านางสาว เผยรู้สึกขนลุกที่ได้เป็นสามีภรรยากัน
สายไหม : “จริงๆ เรามีจัดพิธีหมั้นไปก่อนแล้ววันที่ 23 ธ.ค. วันนี้ก็เลยตื่นเต้นน้อยลง เพราะมีประสบการณ์แล้ววันนึง แต่ตื่นเต้นเพราะวันนี้เชิญแขกเยอะมาก”
หยางหยาง : “วันนั้นเป็นพิธีจัดไม่ใหญ่มาก อบอุ่นประมาณ 120 ท่านครับ น่ารักดีเป็นพิธีสู่ขอไทยจีน”
สายไหม : “จะคนละมู้ดกับวันนี้ค่ะ วันนั้นก็มีแต่คนในครอบครัวทั้งนั้นเลย ซึ้งมาก ร้องไห้ตั้งแต่ต้นงานจนจบงาน หารูปที่ไหมน้ำตาไม่ไหล หน้าสวยเป๊ะไม่ได้เลย ซึ้งที่ผู้ใหญ่ให้โอวาทคำสอนดีๆ พูดถึงความรู้สึกต่างๆ เป็นอีกวันนึงที่ทุกคนที่เรารักมากๆ สำคัญที่สุดในชีวิตอยู่รวมกัน วันนั้นก็มีการจดทะเบียนสมรสด้วย”
หยางหยาง : “ก็ตื่นเต้นครับ เพราะไหมสวย จริงๆ ปกติก็สวย แต่สองวันนี้พิเศษหน่อย”
สายไหม : “ธีมวันนี้เน้นเป็นดอกไม้ป่าๆ เป็นธีม botanical house เหมือนเรือนกระจกที่ปลูกดอกไม้ เข้ากับชุดของไหมที่เป็นแนวเลื่อมๆ กระจกๆ วันนี้มี 3 ชุดค่ะ ชุดนี้ ชุดของ Sean Poem และชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้”
ขนลุกเป็นสามีภรรยากัน ขอบคุณครอบครัวฝ่ายชาย ให้การต้อนรับที่ดี
สายไหม : “ขนลุก(ยิ้ม) ก็เป็นอีก chapter นึงของชีวิต จริงๆ เข้าไปอยู่ที่อยู่เรือนหอตั้งแต่วันที่ 23 แล้ว ก็ตื่นเต้นดี ที่บ้านพี่เขาก็ดูแลไหมเอ็นดูไหมมากๆ ก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะบ้านพี่หยางที่ให้การต้อนรับดีมากๆ”
คบกันเกือบ 4 ปี ฝ่ายชายเสมอต้นเสมอปลาย เหมือนเดิมตั้งแต่วันแรก
สายไหม : “พี่หยางเขาเป็นเหมือนเดิมมากๆ ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเลย ถ้าถามว่าวันนี้ไหมอยากได้อะไรจากเขาอีก มั้ย ขอให้เขาเป็นคนที่ดี เป็นคนที่น่ารักแบบนี้แค่นี้พอเลยไปอีกนานๆ ค่ะ”
หยางหยาง : “นี่ผมยังตื่นเต้นจากวันที่ 23 อยู่เลยครับ ผมรู้สึกว่าตัวเองก็โชคดีนะที่ได้เจอเขาและที่เราได้เจอกัน ก็รู้สึกว่าเวลาทุกอย่างมันใช่และเหมาะสมแล้วที่จะได้อยู่ด้วยกันครับ ก็คบกันมาประมาณ 3 เกือบ 4 ปีครับ”
เผยวันวิวาห์คือวันพบรักกันครั้งแรก
สายไหม : “จริงๆ คือวันนี้ของ 4 ปีที่แล้วเลยค่ะ (ยิ้ม) เขาเอาเรื่องงานมาอ้างค่ะ พี่หยางทำโชวร์รูมรถ แล้วเขาก็จะให้ไหมไปถ่ายรูป แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนมาจีบค่ะ”
หยางหยาง : “จริงๆ น้องสาวเป็นคนแนะนำให้ครับ น้องสาวผมเป็นรุ่นน้องไหมที่นิเทศฯ จุฬาครับ ก็พยายามจะแนะนำให้ว่าชอบรุ่นพี่คนนี้มาก น่ารัก จริงๆ น้องชอบก่อนพี่ (หัวเราะ)”
คุยกันครึ่งปีกว่าจะได้เจอกัน ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก
หยางหยาง : “จริงๆ ผมว่าใช้ความทนเข้าว่านะ จีบอยู่นานมาก จริงๆ ไม่รู้ว่าพี่เพชร ผู้จัดการของไหมหรือไหมที่ตอบไลน์ เพราะคุยกันอยู่นาน ไม่เคยเจอเลย (หัวเราะ)”
สายไหม : “จริงๆ พี่หยางเขาบอกว่าเขาจะติดต่อเรื่องงาน ไหมก็เลยโยนไปให้พี่ผู้จัดการไหมคือพี่เพชรค่ะ ให้ดีลงานต่อว่ายังไง สรุปเขาก็เลยคุยกับพี่เพชรอยู่ประมาณเดือนนึง กว่าที่จะได้มาคุยกันจริงๆ ก็จีบอยู่เกือบครึ่งปีเหมือนกันค่ะกว่าที่จะได้เจอกันค่ะ”
“เปิดใจให้เขาน่าจะเป็นความอดทนมาก (หัวเราะ) ตื๊อเก่งค่ะ ด้วยความที่เขาก็พิสูจน์ให้เราเห็นว่าเหมือนจะมีเราคนเดียวจริงๆ นะ เพราะปกติแล้วไหมก็จะไม่ค่อยยุ่งกับใครที่เข้ามาทางออนไลน์หรือทางที่ไม่ได้เจอหน้ากัน ก็ต้องใช้เวลา จนถึงเกือบครึ่งปีก็คิดว่าอาจจะลองไปเจอครั้งแรกดีกว่า คือไม่ได้เจอกันเลย”
หยางหยาง : “เขาไม่ยอมมาเจอเลย”
สายไหม : “ครั้งแรกที่ไปเจอกันยังจำได้ว่าพี่หยางใส่ชุดทำงานมา ปกติเวลาผู้ชายมาเจอผู้หญิงวันแรกต้องจัดเต็มมา แต่วันนั้นเขามาลุกส์ออฟฟิศมากเลย แล้วเขาชวนเราไปกินข้าวต้ม ในใจเราคิดว่าเขาต้องพาไปกินอาหารฝรั่งแน่ๆ จะต้องหรูหรามาก แต่สุดท้ายชวนไปกินข้าวต้มกุ๊ย กลับกลายเป็นว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เราประทับใจ เขาพร้อมที่จะให้เราดูตัวตนที่แท้จริงของเขา ไม่ได้ประดิษฐ์ประดอย จนถึงวันนี้ก็ยังกินข้าวต้มอยู่”
หยางหยาง : “แต่ก็มีอย่างอื่นด้วย”
ลูกแหง่ รักครอบครัวทั้งคู่
หยางหยาง : “ผมอยากเจอคนแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเจอ ไหมเรียบร้อยและเป็นคนรักครอบครัว ผมเองก็เหมือนกัน เป็นคนติดครอบครัวอาจจะไม่ถึงลูกแหง่แต่รักครอบครัวใช้เวลาอยู่ร่วมกันเยอะมากและเราก็แมตซ์กันเรื่องนี้ได้พอดี และเข้าใจกันได้ดี ไหมเป็นคนเรียบร้อยแต่ก็มีความสนุกอยู่ในตัวเองรวมความสุขไว้ที่ตัวเอง ผมคิดว่าได้แบ่งความสุขนั้นมาด้วยยิ่งชอบ”
สายไหม : “อย่างที่พี่หยางพูดค่ะ สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ ในชีวิตไหม เขาบอกไม่ใช่ลูกแหง่แต่ไหมเป็นลูกแหง่เลย ทุกวันนี้ยังนอนห้องเดียวกับคุณพ่อคุณแม่อยู่เลยค่ะ สถาบันครอบครัวเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตของไหม ได้มาเจอพี่หยางเราเข้ากันได้เร็วมากเพราะการให้ความสำคัญกับครอบครัว การแคร์คนในบ้าน เราเข้าใจกันตรงนี้ ชอบที่พี่หยางเป็นแบบนี้ คิดว่าน่าจะเป็นพื้นฐานที่ดีของเราสองคนในการสร้างครอบครัวกันในอนาคตค่ะ”
เลือกรักที่ดีมากกว่างานที่กำลังรุ่ง ลั่นเจ้าบ่าวเป็นคนดี สมควรได้รับรางวัลกลับคืน
สายไหม : “จริงๆ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องเลือกเหมือนกัน แต่ด้วยความที่พี่หยางเป็นคนดีมาก จนกระทั่งไหมคิดว่าเลือกที่จะอยู่ทางนี้ค่ะ ตั้งแต่ที่คบกันวันแรก เขาไม่เคยทำให้ไหมเสียใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งไหมมองว่ายากมากหนุ่มๆ สมัยนี้ ทุกอย่างที่เคยพูดเคยให้ไหมตั้งแต่วันแรกที่เจอกันจนถึงทุกวันนี้ คือทำได้ดีมากเหมือนเดิมตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ก็เลยคิดว่าเขาสมควรได้รับรางวัลนี้”
“ไหม 26 พี่หยาง 27 ค่ะ ก็อาจจะถือว่าเร็วนิดนึงสำหรับคนในวงการบันเทิง แต่ไหมก็ยังคงทำงานในวงการบันเทิงต่อค่ะ อย่างละครที่มีถ่ายอยู่ตอนนี้ก็ยังคงถ่ายอยู่ จนถึงปีหน้ามีถ่ายอยู่ มีออนแอร์อยู่ จากนี้ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับพี่หยางก็เลือกไปทางด้านพิธีกรบ้างหรืองานอื่นๆ ที่ต้องมีเวลาเผื่อให้พี่หยางบ้าง ยังรับละครอยู่นะคะ บริหารจัดการได้ค่ะ กับพี่แอน ทองประสม เพิ่งเปิดกล้องไปไม่นาน ไหมก็แจ้งว่าจะแต่งงาน ผู้จัดทุกคนที่เข้ามาติดต่องานไหใก็รับรู้ว่าไหมแต่งงานก็ยังให้โอกาสและให้ความเข้าใจ ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านมากค่ะ”
ให้ฝ่ายหญิงวางแผนเรื่องทายาท
หยางหยาง : “เรื่องนี้ผมก็ให้ไหมวางแผนแล้วกัน เขาจะได้จัดการได้ด้วยทั้งเรื่องงานและครอบครัว”
สายไหม : “ที่แน่ๆ ก็ต้องถ่ายละครที่รับอยู่ตอนนี้ให้เสร็จก่อนค่ะ”
หยางหยาง : “ส่วนฮันนีมูนก็น่าจะไปวันที่ 30 ธ.ค. เพราะวันที่ 29 ธ.ค. เป็นวันเกิดคุณพ่อไหม เขาต้องอยู่วันเกิดพ่อทุกปี”
สายไหม : “จริงๆ ทริปนี้เราแพลนกันก่อนที่พี่หยางจะขอไหมแต่งงานด้วยซ้ำ เลยเรียกว่าฮันนีมูน 1 แล้วกัน(ยิ้ม) เดี๋ยวจะมีครั้งที่ 2,3,4 ตามมาอีก ครั้งนี้ก็จะไปอังกฤษกัน ตอนแรกจะพาเขาไปดูบอล แต่บังเอิญขอแต่งงาน เลยอาจจะต้องเปลี่ยนแผน”
แหวนเพชร 5 กะรัต รับทุ่มสินสอดสุดๆ เพื่อผู้หญิงคนนี้ เพราะคิดว่าเหมาะสม
หยางหยาง : “คิดว่าทุ่มสุดๆ นะครับ สำหรับผู้หญิงคนนี้ เพราะคิดว่าควรจะเหมาะสมกับความที่เป็นเขาด้วย แน่นอนว่าต้องมีแหวนเพชร มีสิ่งที่จำเป็นต้องมีกำไลเพชร นาฬิกา แล้วก็มีรถยนต์ครับ”
สายไหม : “แหวนเพชรหนัก 5 กะรัตค่ะ”
น้ำตาเอ่อขอบคุณครอบครัวที่เลี้ยงดูมาให้เป็นผู้หญิงที่ดีพอ และมีคุณค่า
สายไหม : “แน่นอนว่าขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่าย ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของไหม ที่เลี้ยงไหมมาให้เป็นคนที่ผู้ชายคนนึงที่คิดว่าผู้หญิงคนนี้ดีพอ (เสียงสั่น) แล้วก็เป็นคนที่มีคุณค่า รวมถึงขอบคุณครอบครัวพี่หยางที่ให้โอกาสไหมได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่ดี ขอบคุณพี่หยางที่ทำให้ไหมมั่นใจว่าคนคนนี้จะเป็นคู่ชีวิตของไหมค่ะ(น้ำตาไหล)”
หยางหยาง : “ขอบคุณน้องสาวที่แนะนำให้รู้จักกัน ขอบคุณครอบครัวเหมือนที่ไหมพูดคือเลี้ยงผมออกมาเป็นดี และทำให้เขาไว้ใจว่าผมจะเป็นคนที่ดูแลเขาไปตลอด และขอบคุณการต้อนรับที่น่ารักของบ้านไหม รวมถึงทุกสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวที่ทำให้เราเป็นเรา ชอบกัน รักกัน และทำให้เราได้อยู่ด้วยกันครับ”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)