xs
xsm
sm
md
lg

“ถั่วแระ” เล่าวาระสุดท้ายของชีวิต “ดม ชวนชื่น” ท้องใสเหมือนลูกโป่งพร้อมแตก ครอบครัวไม่ปั๊มหัวใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ถั่วแระ เชิญยิ้ม” เสียใจ สูญเสีย “ดม ชวนชื่น” บุคลากรในวงการตลกที่มีความสามารถ และเป็นตัวอย่างในเรื่องบริหารครอบครัว แม้จะมีภรรยาและลูกหลายคน แต่ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกัน ลั่นได้มีโอกาสเจอตลกดังในวาระสุดท้ายของชีวิต เผยท้องใสเหมือนลูกโป่งพร้อมจะแตก ครอบครัวไม่ปั๊มหัวใจ ไม่อยากให้เจ็บปวด

นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ สำหรับวงการตลกของเมืองไทย หลังจากที่ “ดม ชวนชื่น” อุดม ทรงแสง ตลกรุ่นใหญ่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจ เพราะที่ผ่านมาตลกดังสุขภาพแข็งแรงมาตลอด ด้าน “ถั่วแระ เชิญยิ้ม” ศรสุทธา กลั่นมาลี ซึ่งวันนี้ (25 ธ.ค.) มาร่วมพิธีรดน้ำศพที่วัดนวลจันทร์ ก็เผยความรู้สึกว่า เป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีความสามารถ

“รู้สึกเสียใจกับการสูญเสียพ่ออุดม ซึ่งเป็นบุคลากรในวงการตลกที่มีความสามารถทั้งเล่นดนตรี แต่งเพลง และเป็นบุคคลตัวอย่างในเรื่องการบริหารครอบครัว แม้ว่าพ่ออุดมจะมีภรรยา และลูกหลายคน แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง แต่กลับสร้างให้ลูกหลานทุกคนมีความรักและสามัคคีกัน ในวันนี้จึงมารดน้ำศพ เพื่ออำลาให้กับพ่อดมเป็นครั้งสุดท้าย”

“ตอนที่เป็นนายกสมาคมตลก ก็ได้ติดต่อและประสานงานกับพ่อดมมาโดยตลอด หากว่าสมาคมมีอะไร เราก็จะโทร.หากัน ให้พ่อมาคอยช่วยเหลือ มาเป็นผู้ใหญ่ทางฝ่ายของสมาคม แล้วก็เป็นตัวอย่างที่ดีของสมาชิกสมาคม ไม่ว่าจะเป็นงานสงกรานต์ ก็จะเชิญพ่อมาเป็นผู้ใหญ่ให้ได้รดน้ำดำหัวกัน มีอะไรแกก็จะช่วยเหลือสมาคมตลอด ถ้ามาได้ก็มา มาไม่ได้ก็จะโทร.มา”

ประทับใจในความสนุกสนาน ให้ทั้งความสุขและความรัก
“สิ่งที่ประทับใจที่สุด คือ พ่อเป็นกันเองกับลูกๆ ตลกทุกคน ในวงการจะรู้เลยว่าพ่อทำไมถึงใจดี ไม่อยากให้คนเรียกว่าพ่อ ถ้าเรียกพี่จะสนุกสนานใจดี ถ้าเรียกพี่ดม จะมีมุกตอบเลย จะเล่นกันสนุกสนาน นี่คือความเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่อินมาก พร้อมที่จะให้ทั้งความสุขความรัก ให้ทั้งความเป็นพ่อจริงๆ”

รู้ป่วยมะเร็งด้วยความบังเอิญ เห็นปุ๊บรู้เลยว่าไม่เกิน 1 เดือน ไม่กล้าแพร่งพรายบอกใคร
“ตอนป่วยคงไม่มีใครรู้หรอกว่าพ่อป่วยเป็นอะไร จนกระทั่งได้ข่าวทีหลัง พอดีวันนั้นไปโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า หมอก็บอกว่าไม่ไปเยี่ยมพ่อดมเขาเหรอ เราก็ถามเป็นอะไร เขาบอกว่าพ่ออยู่ชั้น 6 ไง ก็ถามว่าเป็นอะไร เขาก็บอกเป็นมะเร็ง พอเข้าไปพอเห็นอาการ เราก็คุยกันกับภรรยาเขาว่าสงสัยอาการแบบนี้ ไม่เกินเดือน แล้วเราก็ถามว่ารู้กันหมดแล้วใช่มั้ย แล้วทำไมไม่ให้ใครมาเยี่ยม เขาก็บอกว่าไม่อยากบอก กลัวพ่อรับไม่ได้ กลัวพ่อรู้ว่าเป็นมะเร็ง”

“ผมก็เลยบอกว่าอย่าเลย ปล่อยให้แกได้คุย ได้ยิ้มแย้มแจ่มใสเถอะ ลองไปปรึกษากันดูนะ ว่าจิ้มกับแจ๊สจะว่าไง เพราะตลกไม่มีใครรู้เลยว่าพ่อป่วย บันเทิงไม่มีใครรู้เลย มีผมรู้แต่ก็ไม่กล้าจะแพร่งพรายออกไป เลยบอกแม่ว่าไปคิดกันนะ พ่ออาจจะยืดอายุจากวันนี้เป็นไปอีก 20 วันก็ได้นะ หลังจากนั้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ไปเยี่ยมอีก เที่ยวนี้เรารู้ตัวแล้วว่า ไม่เกินเดือนนี้แน่นอน หมอให้มอร์ฟีนไปหลายรอบ ที่เรารู้เพราะว่าพี่ชายก็ตายเพราะมะเร็งต่อมลูกหมาก”

ไม่ปั๊มหัวใจ เพราะข้างในไปหมดแล้ว รักษาตามอาการ ไม่อยากให้เจ็บปวด
“หมอบอกว่าญาติโยมที่มานั่งตรงนี้รู้แล้วใช่มั้ยว่าพี่ชายเป็นอะไร ก็รู้ แล้วจะให้หมอทำยังไง ให้ปั๊มหัวใจมั้ย ไม่ต้องปั๊ม หมอบอกว่าปั๊มไปข้างในมันก็หมดแล้ว จะเจ็บปวดเปล่าๆ เราก็เลยบอกรักษาตามอาการ ไม่เกินตีหนึ่งหมอก็โทร.มาตามให้ไปดูใจ พ่อดมก็เหมือนกัน เปิดท้องมาแกร้อนมาก เพราะข้างในแกร้อนหมดแล้ว ท้องแกใสมากพร้อมที่จะแตก เหมือนลูกโป่งเลย”

“เราเลยบอกว่าพ่อ ผมกลับก่อนนะ ตอนนั้นพ่อจำอะไรไม่ได้แล้วนะ ผมนับเป็นคนที่โชคดีที่ยังได้คุยกับพ่อ พ่อได้เห็น ทั้งๆ ที่ตอนเราเล่นตลกกันจะไม่ค่อยได้เจอกัน ดูสิพอจะมาเจอกัน ก็มาเจอกันก่อนวาระสุดท้าย เราเลยอยากจะบอกทุกๆ คนว่า โอกาสที่จะได้ตอบแทนบุญคุณคน มันต้องตอบแทนตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ พ่อแม่ก็เหมือนกัน เมื่อไหร่ที่เราพาท่านเที่ยวได้ รีบพาท่านเที่ยว เมื่อไหร่ที่เราได้คุยกับท่านต้องรีบคุย เมื่อไหร่ที่เราซื้อของให้ใส่ ให้ท่านใช้ ให้ท่านกินได้ เราต้องรีบทำ ถ้าถึงวาระแบบนี้แล้วมันทำอะไรไม่ได้แล้ว ผมก็ไม่เชื่อว่าสวรรค์มีจริงมั้ย ทำไปแล้วมันจะได้กินมั้ย อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเชื่อ สู้ทำตอนนี้เลยดีกว่า”

“เราร่วมงานกันบ่อยครับ หลายครั้งเลยในอดีต แต่หนทางของชวนชื่นกับเชิญยิ้มมันก็แตกต่างกัน ชวนชื่นไปอีกแนวหนึ่ง เชิญยิ้มก็ไปอีกแนวหนึ่ง จะเจอกันก็คือเวทีกลาง ถ้าพ่อยังไม่ตาย แต่มีคนตาย เวทีนี้ก็จะเป็นเวทีที่ตลกได้เจอกันเยอะมากที่สุด แล้วเรามาดูสิ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ หรือแม้แต่วันสุดท้าย ตลกจะเยอะมาก เราจะเจอกันในระบบแบบนี้ หรือไม่ก็เป็นงานแต่งหรืองานบวชที่จะเจอกันจริงๆ จังๆ ถ้าธรรมดาก็คืองานใครงานมัน รับกันเอาเอง ไม่ค่อยได้เจอกันหรอก”

อย่าทระนง อย่าประมาทในการดำเนินชีวิต
“วันสุดท้ายก็คงจะอาลัยอาวรกันอยู่พอสมควร เพราะเราก็ไม่ได้เจอศพนี้เป็นศพแรก พี่สีหนุ่ม ไอ้หนู ใครต่อใครเยอะแยะไปหมด ที่นับวันก็ใกล้ตัวเราเข้ามาแล้วเหมือนกัน แต่ไม้อ่อนไม้แก่อย่าไปทระนงว่ากูแก่ต้องไปก่อน มันไม่ใช่ ไม้อ่อนอาจไปก่อนก็ได้ เด็กอายุ 2 ขวบ ตายก่อนเด็กอายุ 80 ก็มี อย่าทระนง ต้องดูแลรักษา อย่าประมาทในการเดินทางของชีวิต”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)




กำลังโหลดความคิดเห็น