พบทางสว่าง "โย ยศวดี" เผยชีวิตหลังแขวนส้นสูง เลิกปารตี้ เลิกกินเหล้า ไม่ใช้ของแบรนด์ ใช้เงินประหยัดติดดิน มีความสุขและเป็นตัวของตัวเองที่สุด
หลังจากที่ทิ้งแคทวอร์คหันไปเอาอีเป็นนักกีฬาวันนี้ "โย ยศวดี หัสดีวิจิตร" ก็พบว่าชีวิตมีความสุขที่สุด มีไฟในการทำงานอีกครั้ง ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ งดปาร์ตี้ ไม่กินเหล้า เลิกใช้แบรนด์เนม ใช้เงินอย่างประหยัด มีชีวิตติดดินและเป็นตัวของตัวเองที่สุด
บอกลาชีวิตรันเวย์สู่วงการกีฬา
"โยเดินแบบมา 23 ปีนานมาก จะมีใครทำได้นานเท่าโยบ้าง คือโยทำมาตั้งแต่อายุ 10 กว่า โยรับใช้ส้นสูงรับใช้แคทวอล์คมาเพียงพอละ โยอยากทำสิ่งอื่นบ้างเพื่อเติมไฟให้ตัวเอง ตอนที่โยทำงานนางแบบ 2 ปีสุดท้ายโยรู้สึกว่าโยไม่มีไฟแล้ว โยลุกไปทำงานเหมือนตัวเองเป็นโรบอท"
"เป็นหน้าที่ที่ตัวเองต้องทำแต่ไม่ได้มีใจ ไม่ได้มีความรักเหมือนสมัยแรกๆ ที่โยทำ จะด้วยอะไรรอบๆ ตัวที่ทำให้โยไม่สนุก โยรู้สึกว่าอยากทำอะไรที่ตื่นเต้นและเติมไฟให้ตัวเองอีกครั้งเลยเลือกมาวิ่ง พอวิ่งผ่านมาราธอนเสร็จก็เลือกไตรกีฬา และมาเป็นนักจักรยาน ก็ทำทั้ง 3 อย่างสำเร็จในระยะเวลาแค่ 2 ปีกว่า"
เก็บแบรนด์เนมเข้ากรุ ใช้ชีวิตติดดิน
"มันสามารถเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง ทุกวันนี้ใช้ชีวิตติดดินมากขึ้น ใช้เงินอย่างประหยัดและมีความหมายมากขึ้น ไม่เคยซื้อของแบรนด์เนมที่มันเปล่าประโยชน์ พยายามคิดว่าข้างในมันมีความหมาย พยายามกินดีอยู่ดี มีความสุขแบบชีวิตคนปกติ นอนหลับสนิท นอนเร็วตื่นเช้า มีเวลาให้ครอบครัว"
"วันหยุดคือวันหยุดไม่ต้องทำงาน วันอาทิตย์อยากไปแข่งก็แข่งไม่มีใครบังคับเราว่าเราต้องทำ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราอยากทำแล้วต้องทำให้ดี การมีสปอนเซอร์ก็เหมือนเป็นการสนับสนุนสิ่งที่เราทำว่าเราทำงานให้เขาตอบแทนน้ำใจเรา เหมือนเวลาเดินแบบแล้วได้เงิน มีสปอนเซอร์ก็เหมือนเราได้โฆษณารายปี"
อยู่วงการมา 20 กว่าปี วันนี้เป็นตัวเองมากที่สุด
"อย่างที่บอกเราไม่เคยซื้อของแบรนด์เนม เราไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่เคยดื่มเหล้ามาหลายปีมากๆ และเสื้อผ้าสวยๆ ก็เก็บใส่กล่องอย่างดี รองเท้าดีๆ ก็ให้เขาไปบ้าง เก็บใส่กล่องบ้าง กระเป๋าแบรนด์เนมก็ไม่เคยใช้ แต่ก็มีคนบอกว่าบ้า ทำไมไม่ขาย หรือให้คนอื่นยืมใช้ คือมันเป็นของที่เรารักนะ เราไม่ใช้ก็อยากเก็บไว้ และสิ่งที่เราทำอยู่นั้น มันเป็นความสนุก"
"มันก็เป็นตัวเรา ทำให้คนรู้จักคำว่าโย ยศวดี วันนี้ถามว่าชีวิตมีความสุขไหมก็มีความสุขกับการที่ตื่นมาแล้วคือตัวเรา เราไม่ได้ทำเพื่อใครเราทำด้วยตัวเอง นี่คือโย ยศวดีจากสิ่งที่คนเห็นจริงๆ อยู่วงการมา20 กว่าปี วันนี้เป็นตัวเองมากที่สุดแล้ว เพราะหลายปีมานี้ใส่แต่รองเท้าผ้าใบ เรียกว่าสบายตัวมีความสุข สุขภาพดีขึ้น ทั้งสุขภาพใจและกาย"
โชคดีได้แฟนที่เข้าใจตัวตน
"เรื่องของความรักของโยค่อนข้างเรียบๆ คือโยคบกันก่อนจะประกาศเลิกเดินแบบ เราคบกันมา7 ปีแล้ว ก็เรียบง่าย เราเคยถามเขาว่าถ้าเราไม่ได้เดินแบบแล้ว เขาจะรักเราไหม เขาบอกว่าเขาไม่เคยคิดว่าโยเป็นนางแบบ ตอนรู้จักเธอก็เป็นเธอเป็นผู้หญิงที่ปรี๊ดไปปรี๊ดมา เดี๋ยวก็อารมณ์ดี เดี๋ยวก็อารมณ์เหวี่ยง ก็เป็นตัวเธอ"
"เราคิดว่าถ้าคนที่รู้จักเราจริงๆ น่าจะโอเค บางครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองเหวี่ยงๆ และด้วยความที่เราโดนสปอยมา จากสิ่งแวดล้อมที่เราเป็น เพราะหันไปทางไหนก็มีแต่คนเอาใจ อาชีพที่เราทำไม่ได้เหน็ดเหนื่อย เราตื่นเช้ามาเราก็ขับรถเข้าโรงแรมเข้าห้างสวยๆ และก็ทำงาน แล้วมันจะไม่ฟุ้งเฟ้อได้อย่างไร"
ขอสุขภาพดีมีเงินใช้นิดหน่อย ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรแล้ว
"ชีวิตตอนนี้มันก็ดี พอเป็นนักกีฬาเราก็มีแสงสีในอีกมุมหนึ่ง คือถ้าคนที่ไม่ได้เป็นนักกีฬาคงไม่เข้าใจ เพราะวันนี้เรามีกลุ่มแฟนคลับอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มแฟนคลับที่คลั่งไคล้เรามากกว่าตอนเราเป็นนักแสดง ทุกคนรักและชื่นชอบเราที่เป็นเรา ขี่จักรยานผ่านมาตะโกนเรียกชื่อเรา ซึ่งเรารู้สึกว่าอันนี้เขาเรียกชื่อเราจริงๆ เขาไม่ได้เรียกจากภาพที่เห็นเราจากทีวี"
"ถามว่าตอนนี้ต้องการอะไรอีก โยว่าตัวโยไม่ต้องการอะไรเลย ต้องการให้มีสุขภาพที่ดี มีเงินใช้นิดหน่อยและอยู่แบบนี้มีความสุข ก็อยากมีสุขภาพที่ดี เพื่อที่จะได้ทำแบบนี้อีกยาวนาน และอยากให้คนไทยมีสุขภาพที่แข็งแรง เสียดายคนที่ไม่ออกกำลังกายเพราะทุกครั้งที่มองเห็นคนไม่ครบ 32 มาออกกำลังกาย ใช้ไม้เท้าออกเดินเราต้องรู้สึกละอายใจ"
"เพราะเงินมันซื้อไม่ได้ ถ้าวันนี้ไม่ออกกำลังกายเท่ากับคุณไม่รักตัวเอง และเป้าหมายของตัวเองในตอนนี้อยากไปให้สุดของคำว่านักกีฬา ถามว่าอยากเป็นนักกีฬาอาชีพไหม อยาก อยากเป็นทีมชาติก็อยากในอนาคต..."
