“นาวิน ต้าร์” ไม่ตอบ มือขูดรถคือ “คิทตี้” แต่บอกดูในคลิปก็รู้ว่าใคร!

“นาวิน ต้าร์” ไม่รู้คลิปขูดรถหรูหลุดออกมาได้ยังไง เพราะเรื่องผ่านมานานแล้ว แต่ยอมรับพยาน-หลักฐาน ชี้ชัดว่าเป็นใคร ดูในคลิปก็รู้ ไม่ขอออกความเห็นว่าคล้าย “คิทตี้ ชิชา” แฟนเก่า หวั่นกระทบคดี ทนายห้ามเอ่ยชื่อ งงคดีไม่คืบ ในขณะที่คดีจอดรถขวางไม่นานก็คลี่คลาย

เรื่องคดีจอดรถขวางเพิ่งจะเรียบร้อยไปไม่นาน ก็มีเรื่องเก่าที่โผล่ขึ้นมาเป็นประเด็นจนเป็นข่าวครึกโครมอีกรอบ สำหรับหนุ่ม “ต้าร์ นาวิน เยาวพลกุล” ที่อยู่ๆ ก็มีคลิปที่มีผู้หญิงคนหนึ่งขณะกำลังกรีดรถหรูของเจ้าตัวจนยับเยิน เขียนเป็นข้อความว่า FUCK YOU โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเกือบ 2 ปีแล้ว และหนุ่มต้าร์ก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่สน.ทองหล่อ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จนล่าสุดคลิปนี้หลุดออกมาทางโซเชียลและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก มีการคาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าผู้หญิงในคลิปนั้นเป็นใครกันแน่

ล่าสุด นาวิน ต้าร์ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ว่าตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคลิปนี้หลุดออกมาได้ยังไง เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นก็มีคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่น้อย

“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมมันออกมาตอนนี้ แต่ก็คงไม่สงสัยอะไร เพราะมันก็เป็นเรื่องที่มีคนน่าจะรู้เห็นมากพอสมควร ก็เป็นไปได้ที่มันอาจจะออกมาจากทางใดทางหนึ่ง คือเรื่องนี้ผ่านมาประมาณปีกว่าแล้วครับ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องผมก็แจ้งความเลย เพราะผมก็เป็นผู้เสียหาย และผมก็คิดว่ามันอันตราย เพราะตอนนั้นภรรยาผมก็กำลังตั้งท้องได้ 2-3 เดือนแล้วล่ะ แล้วเขาต้องมาเห็นภาพอย่างนี้ คือถ้าเป็นผมคนเดียวผมคงเฉยๆ นะ ก็คงไม่ได้อะไร แต่ถ้ามันมีภัยที่มันคุกคาม ผมเลยรู้สึกว่าแบบนี้มันไม่ได้แล้วล่ะ ผมเลยคิดว่าต้องจัดการทำอะไรสักอย่าง”

“แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ นะครับ มันคงเป็นเรื่องของการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เขาจะดำเนินคดีความ สืบเสาะหาตามหลักฐานที่เขามีอยู่แล้ว ผมก็ให้เป็นหน้าที่ของเขา แต่คาดว่าข่าวนี้มันเพิ่งออกมาอีกครั้ง มันอาจจะเป็นเพราะว่าข่าวที่เป็นคดีเรื่องจอดรถขวาง ซึ่งก็เป็นเรื่องคล้ายๆ กันเกี่ยวกับรถยนต์ และอาจจะคล้ายๆ กันที่เป็นตัวผมด้วย แต่ที่ไม่เหมือนกันคือเพียงแค่ไม่เท่าไหร่อีกคดีนี่เดินไปข้างหน้าเลย มีหมายเรียก แต่เรื่องนี้คดีช้าและค้างอยู่เป็นปีๆ แล้ว ค่อนข้างนาน แต่ถ้าถามผมนะ ผมก็มองในมุมของผู้ที่เสียหาย ผมก็อยากจะดำเนินคดีความตามที่มันเหมาะสม ก็คือดำเนินให้มันสิ้นสุด เพราะว่าเรื่องแบบนี้ผมก็มองว่ามันไม่ถูกต้อง จะมีใครที่บุกรุกมาทำลายข้าวของในอาณาบริเวณของเรา และลอยนวลไปได้ ผมว่ามันก็ไม่เหมาะครับ”

เผยคนก่อเหตุต้องรู้จุดว่าตนจอดรถไว้ตรงไหน ซึ่งตนก็รู้และมั่นใจว่าเป็นใคร
“ตอนนั้นผมจอดไว้ที่คอนโดครับ เขาบุกเข้ามา จากวิดีโอที่เห็นเป็นวิดีโอที่มาจากกล้องวงจรปิดที่มาจากส่วนกลางที่ทางคอนโดเขามีติดอยู่ทั่วอยู่แล้ว ฉะนั้นในที่จอดก็เป็นที่จอดประจำของผมด้วย ผมก็จอดอยู่ตรงนี้ทุกวันเป็นประจำ เพราะฉะนั้นมันเป็นที่ล็อกครับ คนจะเข้ามาได้ก็ต้องมีความตั้งใจที่จะเดินมาที่รถใช่มั้ยครับ และต้องรู้ว่ารถผมอยู่ตรงไหน เป็นยังไง พอเช้ามาปุ๊บก็ตั้งใจจะทำลายทรัพย์สิน ก็เห็นเจตนาที่ว่าจงใจที่จะทำให้เกิดการเสียทรัพย์ครับ”

“ผมก็เข้าไปดูในวิดีโอด้วยวันนั้นที่เกิดเหตุ หลังจากปากคำของคนที่อยู่รอบตัวก็บอกว่ามีคนเข้ามา ผมก็เรียกเอาคลิปวิดีโอมาดู และส่งหลักฐานให้ตำรวจ ผมก็เป็นคนเอาไปส่งเองด้วย เพราะเราก็อยากรู้ว่าใครเป็นคนทำ ทีนี้ในคลิปผมยังเห็นเลยว่าสูบบุหรี่แล้วเอาบุหรี่มาจี้บนหลังคาด้วย คือนอกเหนือจากการขูดรถแล้วก็ยังเอาก้นบุหรี่มาจี้ที่หลังคารถอีก ก็เห็นชัดว่าจงใจทำให้เสียหาย”

“ถามว่าผมสงสัยใครเป็นพิเศษมั้ย ผมก็ไม่สงสัยอะไรครับ ดูในนั้นก็รู้ว่าเป็นใคร แต่ถ้าผมไปพูดว่าเป็นใคร มันก็เหมือนว่าผมไประบุเจาะจง ทางทนายก็ไม่อยากให้เอ่ยชื่อ แต่หลักฐานและพยานก็มีและบ่งชี้ว่าเป็นใคร ทีนี้มันก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องเป็นคนดูรูปของคดีความและดำเนินการไปตามนั้นครับ แต่จนนี้มันก็ผ่านมาหลายปีแล้วนะ ผมก็มีโทร.ไปสอบถามบ้างที่สน.ทองหล่อ ก็โทร.ไปถามเจ้าของคดีที่เป็นรองสารวัตร แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า เขาก็มีในเรื่องของการมอบอำนาจ เรื่องอะไรอื่นๆ ที่มันเป็นเรื่องประเด็นรอง แต่มันก็มีคดีความที่มันเกิดขึ้นอย่างนี้ ผมก็คิดว่ามันควรจะต้องดำเนินไปตามเวลาของมันนะครับ”

ปัดตอบใช่ “คิทตี้ ชิชา อมาตยกุล” อย่างที่มีคนคาดเดากันในตอนนี้หรือไม่
“ในส่วนที่ตอนนี้คนจะคาดเดาว่าเป็นใครนั้น เรื่องนี้ผมไม่ขอออกความเห็นดีกว่าครับ เพราะพูดไปมันก็จะไปเกี่ยวกับเรื่องของคดี เรื่องการทำงานของตำรวจ มันก็คงไม่ผิดที่ใครจะคาดเดาว่าเป็นใคร คนก็คาดเดาไปได้หมด แต่อยากจะบอกก็คือหลักฐานมันมี และมีพยาน มันก็ชี้ชัดว่าเป็นใคร เราก็รู้ว่าเป็นใคร แต่เราไม่พูด ผมก็อยากให้คดีความมันดำเนินไปจนถึงที่สิ้นสุด เพราะถ้าในลักษณะนี้ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ และตอนนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยของลูกที่เขาก็ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และยังเล็กอยู่ครับ”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)