xs
xsm
sm
md
lg

ทำความรู้จัก “แคทรีโอน่า เกรย์” เจ้าตัวเผย แม่ฝันว่าตนจะเป็นมิสยูนิเวิร์สตั้งแต่อายุ 13

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เปิดใจ “แคทรีโอน่า เกรย์” มิสยูนิเวิร์ส 2018 เผยแม่ฝันว่าตนจะเป็นมิสยูนิเวิร์สตอนอายุ13 วันนี้ภาพนั้นกลับมาเดจาวู รับการประกวดทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น เป็นเวทีที่มีคุณค่าและสำคัญ จะสานต่อโครงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ จะมอบความรู้การศึกษาที่ดีให้กับเด็กที่ยากไร้ ดีใจจะได้เดินทางไปยุโรปครั้งแรก



เรียกว่าเป็นสาวงามจากประเทศฟิลิปปินส์คนที่ 4 ที่สามารถคว้ามงกุฎบนเวทีประกวด "มิสยูนิเวิร์ส" สำหรับ "แคทรีโอน่า เกรย์" มิสยูนิเวิร์ส 2018 เจ้าของท่าสโลว์โมเทิร์นที่ฮิตหนักมากในตอนนี้ ซึ่งหลังจากได้รับตำแหน่ง เจ้าตัวเผยความรู้สึกว่าสิ่งแรกที่อยากทำตอนนี้คือพบกับครอบครัว และอยากทานมะม่วกับชาเย็นของไทย

“สวัสดีค่ะ (พูดภาษาไทย) ขอบคุณทุกๆ คนมากนะคะ ตอนนี้ก็ยังรู้สึกตื่นเต้น ขอบคุณสื่อมวลชนและแฟนๆ ทุกคนที่ติดตามมิสฟิลิปปินส์และมิสยูนิเวิร์ส ไม่ว่าจะเป็นตัวดิฉันเองและผู้เข้าประกวดทุกๆ ท่าน ต้องขอบคุณในนามผู้เข้าประกวดทุกท่านด้วยค่ะ ‘ขอบคุณค่ะ’ (พูดภาษาไทย)”

“รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากเลย รู้สึกเหมือนยังไม่ได้รับตำแหน่ง เพราะหลังจากที่ได้รับรางวัลก็เดินออกมา ตอนนี้ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ แต่หลังจากนี้อาจจะรู้สึกเปลี่ยนแปลงไป ฉันขอขอบคุณประสบการณ์ที่ได้รับจากการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งนี้ที่ประเทศไทย เป็นประสบการณ์ที่มีค่าและคุ้มค่ามากๆ เลยค่ะ”

“ซึ่งสำหรับสิ่งแรกที่จะทำหลังจากที่ได้รับตำแหน่งก็คือ อยากจะพบกับครอบครัวและเพื่อนๆ ในทีมค่ะ อยากจะพูดคุยกับพวกเขา และอยากจะกินมะม่วง และชาเย็นด้วยค่ะ นี่สิ่งเป็นสิ่งที่ฉันเพื่อนนางงามทุกๆ คนชอบ”

"ถามว่าหลังจากได้รับตำแหน่งแล้วจะไปที่ไหนต่อ อันนี้เป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากนะคะ เพราะฉันได้รู้จักกับสาวงามผู้เข้าประกวดจากหลายประเทศ ต่างบอกว่าประเทศของเขามีหลายอย่างที่น่าสนใจ เราก็อยากไปทุกที่เลย และคิดว่าจะไปประเทศอินโดนีเซียแน่นอน และอยากไปเที่ยวที่ประเทศยุโรปด้วยนะคะ เพราะยังไม่เคยไปเลย แต่ที่แน่ๆ ฉันรู้ดีว่าไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนก็จะมีเพื่อนนางงามในทุกประเทศ”

เผยอยากเดินหน้าสานต่อโครงการให้ความรู้เรื่องเอดส์ กับการผลักดันการศึกษาที่ดีแก่เด็กผู้ยากไร้
“อยากจะขยายการทำงานด้านการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องของเอชไอวีที่ฉันได้ทำในฟิลิปปินส์ เป็นสิ่งที่อยากทำมากๆ เพราะหลายปีที่ผ่านมาฉันได้สูญเสียเพื่อนที่สนิทด้วยเอชไอวี เป็นโครงการที่อยากจะทำเพื่อสร้างความตระหนักในเรื่องของโรคเอดส์ และอยากทำโครงการที่เกี่ยวกับการศึกษาสำหรับเด็กในชุมชนที่ห่างไกล มีเด็กจำนวนมากที่ได้รับการศึกษาไม่เพียงพอ เลยอยากจะทำโครงการขึ้นมาเพื่อเด็กเหล่านี้ และอยากทำโครการอะไรก็ตามที่ดิฉันสามารถทำได้ ขอบคุณค่ะ”

“โครงการที่ได้ทำที่ฟิลิปปินส์เป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจ และทำให้มีชีวิตที่เรียบง่าย ได้งานกับโครงการนี้มาประมาณ 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะมาประกวดมิสยูนิเวิร์ส และรู้สึกภูมิใจมากๆ ที่คณะกรรมการเล็งเห็นคุณค่าในการที่ฉันร่วมทำโครงการนี้”

บอกชอบในการร้องเพลง และดีใจที่จะได้ไปนิวยอร์กครั้งแรก เพระอยากไปดูละครบอร์ดเวย์
“อยากจะร้องเพลงค่ะ เพราะเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งจะปล่อยซิงเกิ้ลไป เป็นซิงเกิ้ลที่ชื่อว่า ‘We're In This Together’
ฉันคิดว่าดนตรีเป็นเครื่องมือที่วิเศษมาก เพราะสามารถเชื่อมต่อทุกคนได้ถึงจะมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน”

“หลังจากนี้มีแพลนจะไปนิวยอร์กค่ะ รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ไป เพราะเป็นประสบการณ์ใหม่ยังไม่เคยไป อยากจะไปดูบรอดเวย์และอะไรอีกหลายอย่าง รวมทั้งอยากจะไปสัมผัสฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว”

เผยแม่เล่าว่าเคยฝันว่าเห็นตนใส่ชุดสีแดงรับตำแหน่งนางงามจักรวาล
“ชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภูเขาไฟมายอน ที่ฟิลิปปินส์ เป็นชุดสีแดงเพลิง เพราะตอนอายุ 13 ปี คุณแม่ของฉันได้ฝันว่าฉันสวมชุดสีแดงและได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาล ตอนที่พบคุณแม่หลังเวที คุณแม่ก็ร้องไห้และเล่าเรื่องนี้ให้กับฉันฟัง”

“ส่วนชุดประจำชาติของฟิลิปปินส์มีน้ำหนักถึง 50 กิโลกรัม โดยเข็มขัดก็หนักไปแล้ว 5 กิโลกรัม และที่ถามว่าทำไมถึงจัดการกับชุดนี้ได้ ฉันก็แค่พยายามทำให้ดีที่สุด รับน้ำหนักตรงนั้นให้ได้ เพราะมันแสดงถึงวัฒนธรรมต่างๆ ที่มีอยู่ในฟิลิปปินส์ ก็รู้สึกภูมิใจมากๆ เลยนะคะ กับชุดประจำชาติที่ได้ใส่ เพราะว่าเพื่อนๆ ฟิลิปปินส์หลายคนก็ไม่เคยทราบว่าประเทศของฉันมีวัฒนธรรมแบบนี้ด้วย”

“ถามถึงเคล็ดลับตอนเดินฟูลเทิร์นชุดว่ายน้ำเหรอคะ ฉันก็แค่เดินช้าๆ แต่ว่าตอนที่ใส่ชุดว่ายน้ำ มันก็สบายสามารถหมุนและมีท่วงท่าได้ แต่พอมาเป็นชุดราตรี การที่จะหมุนช้าๆ และสง่างามมันก็ทำได้ยากแต่ก็พยายามให้ดีที่สุด”

บอกนอกจากจะต้องจัดการกับแรงกดันแล้ว ยังต้องเรียนรู้ที่จะยิ้มตลอดเวลาด้วย
“การจัดการกับความกดดัน และการเรียนรู้ที่จะยิ้มแย้มมีความสุขอยู่เสมอในทุกประสบการณ์ที่ได้รับค่ะ เพราะว่ามีกิจกรรมที่ต้องทำต่างๆ เยอะแยะมากมาย ถ้าไม่รู้จักการควบคุมอารมณ์ ก็จะทำให้รู้สึกไม่ค่อยโอเค ต้องเรียนรู้ที่จะรู้สึกสนุกสนานและมีความสุขกับทุกกิจกรรมค่ะ(ยิ้ม) ฉันคิดว่าถ้าเรามีการเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสที่จะเกิดขึ้น และสามารถทำได้เต็มที่ ได้ทุ่มเทกับมัน มันก็จะนำไปสู่ความสำเร็จได้ค่ะ”

“ฉันคิดว่าการประกวดมิสยูนิเวิร์สมีคุณค่ามากๆ เลยนะคะ เวทีนี้เป็นเวทีที่สำคัญมาก ทำให้ผู้หญิงมีพลังในการที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง
ต้องมีกำลังใจอยู่ตลอดเวลานะคะ ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ก็มีปัจจัยภายนอกมากมายนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโซเชียลมีเดียที่ใช้ มันเลยมีความรู้สึกต้องพยามรักษาใจตัวเองให้มีกำลังใจต่อไป และต้องคิดอยู่เสมอว่าเรามาประกวดเพื่ออะไร"

"ส่วนเรื่องการตอบคำถามในรอบ 5 คนสุดท้าย ที่เป็นคำถามที่เกี่ยวกับการอพยพและกัญชา เพราะเรื่องของกัญชาเป็นเรื่องที่พูดถึงกันเยอะในฟิลิปปินส์ ส่วนตัวมองว่าต้องมีการทำวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องของการที่จะนำกัญชามาใช้ และต้องมีกฏที่ชัดเจนค่ะ”

“สุดท้ายก็อยากจะขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ ในหัวใจของฉันรู้สึกขอบคุณทุกคนจริงๆ มีความรู้สึกที่ตื้นตันและกดดันเยอะอยู่เหมือนกัน เพราะว่ามีหลายอย่างที่เป็นความคาดหวังกับนางงามฟิลิปปินส์ เพื่อที่จะทำให้รู้สึกมีกำลังใจต่อไป แต่ดิฉันก็พยายามมองหาแฟนๆและครอบครัว รวมถึงเพื่อนๆเพื่อที่จะมีกำลังใจในการประกวดต่อไป รู้สึกขอบคุณทุกคนมากจริงๆ เพราะถ้าไม่ได้แรงสนับสนุนจากคนเหล่านั้นก็จะไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้”

















กำลังโหลดความคิดเห็น