สุดท้ายก็ไปไม่รอด! ลูกสาว “เฉินหลง” ถังแตก, ค้างค่าโรงแรม ควงเมียกลับฮ่องกงแบมือขอเงินแม่

หลังแต่งงานกับแฟนสาวจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก สุดท้าย “เอ็ตต้า อู๋” ลูกสาวนอกสมรสของ “เฉินหลง” ได้เดินทางกลับฮ่องกงแล้ว ข่าวบอกว่าเธอยังค้างค่าโรงแรม และไม่สามารถหารายได้เลี้ยงตัวเองได้ จนต้องกลับไปขอเงินแม่อีกครั้ง

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เอ็ตต้า อู๋ สร้างข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เมื่อเธอประกาศแต่งงานกับแฟนสาวรุ่นพี่ชาวต่างชาติที่แคนาดา และทั้งคู่ได้พยายามที่จะใช้ชีวิตกันอยู่ที่นั่น แต่สุดท้าย ลูกสาวของ เฉินหลง ก็ไม่สามารถหารายได้เลี้ยงตัวเองได้ จนต้องเดินทางกลับมาอยู่ฮ่องกงในที่สุด

โดยข่าวจากสื่อท้องถิ่นบอกว่า หลังกลับฮ่องกง เอ็ตต้า อู๋ กับภรรยาได้ชีวิตที่โรงแรมโฮสเทลแห่งหนึ่งในฮ่องกง แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถหางานทำได้ จนต้องค้างค่าห้องพักถึง 2,000 เหรียญฮ่องกง จนทางโฮสเทลถึงกับเรียกตำรวจให้มาจัดการเลยทีเดียว

สุดท้าย เอ็ตต้า ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากแม่ ทั้งเธอและภรรยาชาวต่างชาติจึงไปพักที่บ้านของ อู๋ฉีลี้ ผู้เป็นแม่ โดยสื่อฮ่องกงบอกว่า นอกจากจะออกค่ารถแท็กซี่ให้แล้ว อู๋ฉีลี้ ยังไปธนาคารเพื่อเบิกเงินมาให้ลูกสาวด้วย

เอ็ตต้า อู๋ วัย 19 ปี เป็นทายาทนอกกฎหมายของ เฉินหลง กับอดีตมีสเอเซีย อู๋ฉีลี้ โดยชื่อของเธอกลายเป็นข่าวใหญ่ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เมื่อ เอ็ตต้า ประกาศตัวว่า เธอมีรสนิยมรักเพศหญิงด้วยกัน และได้แต่งงานกับแฟนสาวที่อายุมากกว่าร่วม 10 ปี ที่ชื่อว่า แอนดี ออทัมน์ ซึ่งเป็นนักแต่งคอสเพลย์

โดยเร็วๆ นี้ เพิ่งจะมีผู้สื่อข่าวไปถามความเห็นของเธอเกี่ยวกับ เฉินหลง ผู้เป็นพ่อ ซึ่ง เอ็ตต้า ได้ตอบถึงเรื่องนี้ว่า เธอไม่รู้จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับ เฉินหลง อย่างไร เพราะเธอไม่เคยเจอเขามาก่อน และไม่เคยรู้จักเขาเลย จึงไม่อยากจะพูดถึง หรือตัดสินในสิ่งที่ เฉินหลง ทำ

“ฉันไม่เคยเจอเขาหรอก ... ฉันรู้จักเขาเท่าๆ กับที่คุณรู้จักนั่นแหละ จริงๆ ในสายตาของฉัน เขาไม่ได้ดีหรือเลวอะไร เพราะฉันไม่รู้จักเขาเลย ไม่อยากจะตัดสินคนที่เราไม่เคยคุ้นเคยด้วย” ลูกสาวของ เฉินหลง บอก

“ฉันรู้ว่าที่ผ่านมาเคยพูดไม่ดีเกี่ยวกับเขาไปบ้าง แต่ก็เพราะตอนนั้นตัวเองยังเด็กอยู่ แต่ตอนนี้จิตใจเริ่มมั่นคงมากขึ้นแล้ว ฉันเชื่อว่า คนเราต้องเคยทำเรื่องผิดพลาดกันมาก่อนทั้งนั้นแหละ แต่ไม่ว่าคุณจะทำอะไรผิดพลาดไป มันก็เป็นเรื่องของคุณที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชีวิตของฉัน ซึ่งมันก็ประหลาดดีเหมือนกันที่ฉันเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่เกิด ทั้งๆ ที่ฉันไม่เคยรู้จักเขาเลยด้วยซ้ำไป ทุกคนเฝ้ามองฉันมาตลอด เพื่อที่จะรอดูว่า สุดท้ายชีวิตของฉันจะลงเอยด้วยดีหรือร้ายอย่างไร”