“ปั้นจั่น ปรมะ” ประกาศเลิกแฟนแล้ว เหตุไม่มีเวลาให้กัน ยันไร้มือที่สาม ไม่อยากทำให้ “ฐิสา” ด่างพร้อย อ้อนหวังว่าจะไม่ปิดโอกาสพี่ ชี้แจงกรณีฉะแอดมินบ้านแฟนคลับ เพราะมีปัญหากัน ยันไม่อยากให้แบ่งแยก
หลังจากที่ถูกจับตามองว่าแอบซุ่มขายขนมจีบ “ฐิสา วริฎฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร” จนฝ่ายหญิงถึงกับโบ้ยให้สื่อมาถาม “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” เอาเองว่าจีบหรือไม่จีบ โสดหรือไม่โสด พร้อมพูดชัดว่าไม่ปิดโอกาสใครทั้งนั้นเพราะตนก็โสด ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เจอตัวหนุ่มปั้นจั่น ในงานแถลงข่าวเปิดแคมเปญขอบคุณการให้ที่ประเมินค่าไม่ได้ มอบแบรนด์ ณ ลานเซนทรัลคอร์ท ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวก็ออกมายอมรับว่าโสดซักพักแล้ว และหวังว่าฝ่ายหญิงจะไม่ปิดโอกาสตน
“จริงๆ ก็โสดมาตั้งแต่งานเนสกาแฟที่เจอพี่ๆ สื่อก่อนหน้านี้แล้ว 4-5 เดือนแล้ว แต่รอบนั้นไม่ได้มีใครถาม คือถ้าไม่ถามแล้วจะให้มาบอกว่าผมเกิดเรื่องแล้วนะ คือมันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ต้องอัปเดตขนาดนั้น แต่พอครั้งนี้ถามก็บอกเลยว่าโสดแล้ว แต่ก็เป็นเพื่อนกันครับ ยังทักทาย ยังส่งกำลังใจให้กันอยู่ครับ”
“เรื่องสาเหตุผมขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวแล้วกัน ด้วยความที่เราเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว พอเราเป็นเพื่อนกัน เราก็ยังดูแล เจอกันได้ เพียงแต่มันไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนก็คือเรายังไม่ได้เจอกันเลย แต่อย่างเวลามีวันสำคัญอะไรเราก็ส่งข้อความไป เขาก็ส่งข้อความมา ยินดีกับงานต่างๆ ของเรา ผมว่าปัญหาเป็นเรื่องของเวลาด้วยและเรื่องของความไม่เข้าใจกันด้วย ถามว่าเสียดายมั้ย ผมว่าทุกครั้งที่เราเริ่มมีความรักมันก็คาดหวังนะ ฉะนั้นจะช้าจะเร็วมันเสียดายหมดแหละเป็นเรื่องปกติ”
ไร้มือที่สาม ไม่อยากให้ “ฐิสา” ต้องด่างพร้อย
“คืออย่างแรกผมต้องบอกเลยว่าผมไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะหนึ่งคือน้องฐิสาเป็นนักแสดงที่ไม่มีข่าวเสียหายเลย ผมเองก็ไม่อยากจะไปเป็นส่วนหนึ่งให้เขาด่างพร้อย (หัวเราะ) ผมเองก็กลัวในจุดนี้ แต่วันนั้นผมเจอน้องจริงๆ ที่มาบุญครอง ผมก็ขอถ่ายรูปแล้วก็โพสต์ ปกติผมก็เจอนักแสดงผู้หญิงเยอะ แต่ผมไม่ได้ลงไง แต่คนนี้ผมปลื้ม ก็ยอมรับครับ (หัวเราะ) คือเขาเป็นผู้หญิงในสเปก”
“ซึ่งก็เกิดหลังจากที่เลิกกับคนของเราไปแล้ว มันต้องเป็นอย่างนั้นครับ ถ้าถามว่าจีบฐิสามั้ย อันนี้บอกได้เต็มปากว่ายังไม่ได้จีบ เพราะจีบไม่ได้ เพราะยังไม่ได้บอกกับพี่ๆ สื่อว่าผมโสดแล้ว (ตอนนี้บอกแล้วว่าโสดก็จีบได้?) ก็ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ เพราะผมเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเข้าทางไหนดี (หัวเราะ)”
ทำได้แค่กดไลก์ เปิดใจจะจีบฝ่ายหญิง จะเข้าไปขอไลน์น้องเอง
“ถามว่าแม่สื่อเยอะมั้ยผมก็ไม่ทราบครับ ผมก็ยังไม่รู้ว่าผมจะต้องไปทางไหน ถามว่าเดินหน้าจีบมั้ย ยังไม่ถึงขนาดนั้นครับ แต่ก็... (ยิ้ม) ผมไม่ได้คุยกับเขาเลยครับ ผมกดไลก์รูปอย่างเดียว (หัวเราะ) ไลน์เขาก็ไม่มีครับ ผมไม่กล้าขอจากใครครับ ถ้าจะขอต้องขอจากน้องเขาเอง (ยิ้ม) ถ้าจะจีบ ก็ต้องจีบด้วยตัวเอง ต้องเป็นอย่างนั้นนะครับ”
ชัดเจนและระวังเรื่องจีบ ไม่อยากให้น้องโดนต่อว่า
“คือผมก็ค่อนข้างชัดเจนในเรื่องพวกนี้ครับ พอผมรู้สึก ผมก็แสดงออก แต่มันตอบยากนะคำถามนี้ ตอบเพื่อไม่ให้เราโดนด่า และไม่ให้น้องโดนว่า เพราะเรื่องพวกนี้มันก็เซนซิทีฟ แต่ปั้นก็พยายามจะชัดเจนให้มากที่สุดและระวังให้มากที่สุดแล้วกัน”
“ด้วยที่ว่าความรักมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรขนาดนั้น ผมว่าตอนนี้เมื่อเราโสด เราอยู่คนเดียว มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการจะเริ่มต้นใหม่ คำว่าพร้อมเริ่มต้นใหม่ทันทีในความหมายนี้ก็ไม่ใช่ว่าเจอปั๊บมันจะใช่เลย มันก็ต้องเรียนรู้จักกันไปก่อน มันมีขั้นตอน มันจะไปถึงขั้นนั้นหรือเปล่าเราก็ยังไม่รู้ เพราะเราก็ต้องเรียนรู้เขา เขาก็ต้องเรียนรู้เรา และตัวผมเองในฐานะนักแสดงทฤษฎีกับปฏิบัติมันก็คนละเรื่องกัน ทฤษฎีหมายถึงทฤษฎีในการพูดออกสื่อ ผมก็ต้องพูดอย่างอื่น แต่ปฏิบัติมันก็อีกอย่างหนึ่ง เวลาพูดเราก็ต้องระวังใช่มั้ยครับ เพราะมีแฟนๆ คอยจับตามองอยู่ว่ามายังไงอะไรยังไง”
เช็กแล้วอีกฝ่ายโสด และหวังว่าจะไม่ปิดโอกาสพี่
“ผมทราบครับว่าน้องโสด ผมก็ดูข่าวนะครับ ผมก็อ่านข่าวดูครับ ก็ได้ดูที่น้องสัมภาษณ์ครับ (ยิ้ม) น้องบอกว่าไม่ได้ปิดโอกาสใช่มั้ยครับ ก็หวังว่าน้องจะไม่ปิดโอกาสพี่นะครับ”
ชี้แจงกรณีออกโรงฉะแอดมินบ้านแฟนคลับ ประกาศปิดไอจี
“ก็เหมือนที่ผมโพสต์ไปในไอจีนะครับว่ามันเป็นปัญหาของบ้านแฟนคลับนักแสดงหลายๆ บ้านนะครับ ที่จริงผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นะครับ แต่หลังๆ พอมีแฟนๆ ติดตามมากขึ้นเราก็ต้องเข้าไปบริหารจัดการ เพื่อที่ทุกคนจะได้เข้าใจตรงกัน เพราะบางทีมันมีการสื่อสารที่ไม่ได้สื่อสารจากเราโดยตรง แต่ถูกคนอื่นสื่อสาร ซึ่งอาจจะไม่เข้าใจกันได้”
“ซึ่งตัวผมเองต้องบอกว่ามีปัญหากับทางแอดมินนั่นแหละ ที่จริงเราก็ดูแลกันมานาน แต่แค่ด้วยบางอย่าง ด้วยความที่มันมีบ้านหลัก แล้วมันมีบ้านย่อย มันจำเป็นมั้ยที่จะต้องแบ่งชัดเจนว่าใครอยู่บ้านไหนหรืออะไร ในเมื่อเขาตามศิลปินดาราคนเดียวกัน ฉะนั้นผมคิดว่าใครที่ตามศิลปินดารามาแล้วก็มามีความสุขร่วมกัน โดยที่ไม่ต้องมานั่งแบ่งพรรคแบ่งพวกหรือมานั่งจัดแจงว่าใครมาจากไหนมาก่อนมาหลัง จุดประสงค์เดียวกันคือมามีความสุขด้วยกัน พอดาราศิลปินเห็นว่าเขามีความสุขด้วยกัน ผมก็แฮปปี้เหมือนกัน”
“แต่เมื่อไหร่ที่เห็นว่าทำไมคนนี้หายไป จริงๆ จะไปๆ มาๆ หรือจะไปตามคนอื่นสำหรับตัวผมไม่มีปัญหา และพี่ๆ น้องๆ ดาราหลายคนก็คงไม่มีปัญหาเพราะว่าเราเข้าใจธรรมชาติเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพราะบางทีแฟนคลับเราก็ไปตามพี่บอย (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) ไปตามพี่เกรท (วรินทร ปัญหกาญจน์) บางทีเราก็เห็นของเขามาเจอกับพวกเรา ที่จริงก็ช่วยกันซัปพอร์ตนั่นแหละครับ แต่เมื่อไหร่ที่พอแบ่งแยกอย่างชัดเจนปุ๊บผมถึงต้องบอกว่าวิธีนี้ผมไม่โอเค”
“ฉะนั้นไอจีที่มีคนตามเจ็ดหมื่นกว่าคนสำหรับผมก็สะสมมานาน ก็ได้ปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว ไอดีนั้นก็ถูกลบไป รวมถึงแฟนเพจที่มีคนตามอยู่สองแสนคนก็ลบไปเช่นเดียวกัน เหมือนเริ่มใหม่ ผมว่าคนที่เขาตามก็เป็นน้องๆ จากทั่วประเทศตอนที่ละครออนแอร์แหละ ก็ไม่เป็นไรผมว่าแฟนๆ ก็ยังติดตามผลงานผมอยู่ ตอนนี้เปิดใหม่แล้วครับ ชื่อ pjisland ทั้งเพจ ทั้งไอจีครับ ก็ค่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ ครับ”
บอกคาราคาซังมานาน แต่ก็ขอบคุณที่ซัปพอร์ตมาตลอด
“ที่จริงมันเป็นปัญหาคาราคาซังนานแล้วครับ ซึ่งตัวผมเองพยายามประนีประนอมมาตลอด เพราะว่าคนที่ดูแลผมและมีปัญหางอนกันเนี่ยเขาก็คอยซัปพอร์ตผมมาโดยตลอด ผมก็ต้องบอกว่าเขาก็เป็นหนึ่งคนที่ขับเคลื่อน เป็นคนที่คอยให้กำลังใจผมมาโดยตลอด เพียงแค่วันนี้มันมองต่างมุมและเขาก็ไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ผมเลยต้องอธิบายไปแบบนั้น ผมไม่รู้ว่าเราเข้าใจตรงกันหรือเปล่า แต่ผมก็บอกว่าผมขอพอแล้วกัน”
“จริงๆ กับแฟนคลับผมไม่เคยมีปัญหา ใครจะบอกว่าปั้นจั่นเจอแล้วไม่ทักทาย ผมบอกได้เลยว่าไม่เป็นความจริงนะครับ ผมจะบอกเสมอว่าวันนี้ผมไม่มีเวลานะ ผมขอกลับก่อน ถ้าวันนี้ผมมีเวลาผมขอ 20 นาทีในการถ่ายรูปกับทุกคน ทุกคนตั้งกล้องเซลฟี่นะ 100 คนผมก็เซลฟี่มาแล้วนะครับทีละคน ถ้ามีเวลาผมก็จัดให้เต็มที่ ฉะนั้นผมไม่ได้แบ่งแยก”
“พอเกิดเหตุการณ์นี้ หลายคนเข้าใจ ในทวิตเตอร์ผมโพสต์ลงไปคนก็รีทวิต 9,000 กว่าคน ก็มีทั้งบ้านแฟนคลับคนอื่นมาช่วยรีทวิตด้วย คือเขาเข้าใจปัญหา เพราะมันเกิดขึ้นกับทุกบ้านครับ”
แฟนคลับไม่มากไม่น้อย ไม่ได้หายไป
“จริงๆ แล้วผมว่าพูดรวมๆ แล้วกัน ศิลปินก็คือคนๆ หนึ่งนะครับที่อยากให้ทุกคนมีความสุข ฉะนั้นการมาเป็นเจ้าของมันไม่ได้เกิดประโยชน์ ไม่ได้เกิดผลดีหรอก เขาก็คือตัวเขา คุณจะไปสั่งเขาทุกอย่างมันก็ไม่ใช่ แต่บางทีเขาไม่พูดเพราะเขาพยายามถนอมน้ำใจ เพราะสิ่งที่มันได้กลับมาคือความรักและกำลังใจที่คุณคอยมอบให้ตลอด แต่อย่างที่บอกว่าคนตามเราเยอะ ฉะนั้นการดูแลมันอาจจะไม่ทั่วถึง บางทีมีอยู่สิบกล้องเราอาจจะมองอยู่ 5-6 กล้องบางทีก็งอนกันว่าทำไมไม่มองกล้องนั้นกล้องนี้ อันนี้ก็อยากจะให้เข้าใจด้วยว่าการที่เราอยู่ตรงนี้มันก็ยากที่จะดูแลความรู้สึกของทุกคนให้มันเต็มทุกคน แต่ถามว่าให้เท่ากันมั้ย มันให้เท่ากันนะ ไม่มีว่าจะให้มากให้น้อยหรอก ถามว่าแฟนคลับหายไปมั้ย ผมว่าก็ปริมาณเท่าเดิมนะ ไม่ได้มาก ไม่ได้น้อยขึ้น”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)