เป็นประเด็นดรามากันสุดๆ ในเวลานี้เลยทีเดียวสำหรับสาวงามผู้เข้าประกวดจากสหรัฐอเมริกาอย่าง “ซาราห์ โรส ซัมเมอร์” มิสยูเอสเอ วัย 24 ปี ที่ไลฟ์สตรีมในอินสตาแกรม เจ้าตัวได้พูดถึง 2 สาวผู้เข้าประกวดจากเอเชียที่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จนโดนถล่มหนักในขณะนี้
โดยการไลฟ์สดผ่านอินสตาแกรมของ ซาราห์ โรส ซัมเมอร์ มิสยูเอสเอ กับอีก 2 สาวอย่าง วาลาเรีย โมราเลส มิสโคลอมเบีย และ ฟรานเซสกา หุ่ง มิสออสเตรเลีย
ซึ่งในไลฟ์ ซัมเมอร์ ได้อ่านคำถามที่มีคนถามเข้ามาว่า “คุณคิดเห็นอย่างไรกับมิสเวียดนาม” ก่อนจะเอ่ยประโยควิจารณ์ที่เข้าข่ายการล้อเลียนว่า “เธอน่ารักมากค่ะ แต่เธอพยายามทำเป็นรู้ภาษาอังกฤษ แล้วพอคุณถามคำถามอะไรเธอไปหลังจากที่พูดคุยกันไปแล้ว เธอก็จะแค่ยิ้มแล้วก็พยักหน้า น่าเอ็นดู!” พร้อมกับหัวเราะออกมา
นอกจากจะพูดถึงนางงามจากเวียดนามแล้ว ซัมเมอร์ก็ยังวิจารณ์ถึงมิสกัมพูชาด้วยว่า “มิสกัมพูชาก็มา แต่เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย และไม่มีใครเลยสักคนที่พูดภาษาเธอได้ คิดภาพออกไหม? ฟรานเซสกา บอกว่า มันคงรู้สึกเหงา และโดดเดี่ยวมากแน่ๆ แล้วฉันก็บอกว่า ใช่ แล้วเธอก็ดูสับสนตลอดเวลาเลย น่าสงสารกัมพูชา”
ซึ่งหลังจากคลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในอินเตอร์เน็ต ซัมเมอร์ ก็โดนกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งล้วนแต่บอกว่า เธอยังไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งนี้
“มิสยูนิเวิร์สคนต่อไปจะต้องไม่เป็นตัวแทนของการกลั่นแกล้งรังแกผู้อื่น”, “นี่คือการแสดงความเห็นใจ แต่แฝงไว้ด้วยความอัปยศอย่างเลวร้ายที่สุด”, “เห็นชัดว่า ผู้หญิงพวกนี้ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเป็นนางงามจักรวาลเลย”, “น่าละอาย! แทนที่จะเอาเวลาที่นั่งนินทาคนอื่นไปส่องดูตัวเองบ้างแล้วถามกับตัวเองว่า เคารพผู้อื่นไหม? ทำให้ใครรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า? เธอไม่สมควรที่จะเป็นสาวงามตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาเลย”, “มิสยูเอสเอพูดถึงมิสกัมพูชาที่พูดอังกฤษไม่ได้ อาจต้องยกโทษให้เธอ บางทีนี่อาจเป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอคนที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ในการประกวดที่เขาเรียกว่า ‘มิสยูนิเวิร์ส’ ที่ไม่ใช่การประกวดที่มีแต่คนพูดภาษาอังกฤษอย่างเดียว”
อย่างไรก็ตาม หลังโดนถล่มอย่างหนัก ซัมเมอร์ ก็ได้ออกมาขอโทษผ่านทางอินสตาแกรม โดยระบุว่า “ มิสยูนิเวิร์ส คือ โอกาสสำหรับผู้หญิงจากทั่วโลกได้มาเรียนรู้วัฒนธรรมของกันและกัน รวมถึงประสบการณ์การใช้ชีวิต และทัศนคติ พวกเรามาจากพื้นเพที่ต่างกัน แต่ก็สามารถที่จะเติบโตเคียงข้างไปด้วยกันได้ ในช่วงที่ฉันตั้งใจจะชื่นชม และให้กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ กับพี่-น้องที่เข้าประกวดด้วยกัน ฉันได้พูดอะไรบางอย่างออกไปที่ตอนนี้ฉันตระหนักแล้วว่า มันเป็นการไม่ให้เกียรติ ฉันต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ชีวิตของฉัน มิตรภาพของฉัน และอาชีพการงานของฉันต่างๆ ที่เกี่ยวข้องล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจ ฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร ฉันขอบคุณที่ฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับมิสกัมพูชา และมิสเวียดนาม โดยตรงเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งนี่คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันค่ะ”