ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่นักร้องลูกทุ่งคนดัง “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” ยอมออกมาเปิดใจเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงขายปุ๋ย ที่โดนตัดสินให้จำคุกถึง 20 ปี ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้มาเปิดใจหมดเปลือกในรายการ พระอาทิตย์ Live ทางช่อง News1 พร้อมกับ “หมอโอม” หรือ “ชัยพร ชื่นศิลป์” หมอดูประจำตัวที่คอยเป็นที่ปรึกษาให้ระหว่างที่เจ้าตัวนั้นเครียดจัด จนในที่สุดก็หาทางออกให้ตัวเองได้ โดยยิ่งยงเผยถึงเรื่องราวทั้งหมดว่า เกิดจากความไม่รู้เรื่องกฎหมาย และไม่รู้เรื่องการบริหารของตนเอง
“มันเป็นเรื่องของธุรกิจน่ะครับ คือตอนแรกเจ้าของโรงงานปุ๋ยเขาให้ผมไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ พอเป็นแล้ววันหนึ่งเขาก็เปลี่ยนว่าไม่ต้องเป็นพรีเซ็นเตอร์หรอก มาเป็นหุ้นส่วนดีกว่า ถ้ายอดขายดีเงินก็ทวีคูณมากขึ้น เราก็คิดว่าดีนะ ถ้าเกิดขายได้เป็นร้อยล้านล่ะ แล้วยุคนั้นกำลังเฟื่องเรื่องการเกษตรด้วย ผมก็เลยตัดสินใจว่ามาเป็นหุ้นส่วนก็ได้ แล้วเขาก็ให้เราเป็นประธานบริษัท”
“ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเลย คิดแค่ว่าจะได้มีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว และเป็นธุรกิจของเราด้วย ต้องบอกว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตเรามันเกิดจากความอยากมากกว่า เราเอาความอยากเป็นที่ตั้งมันก็เลยเกิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ โดยที่เราไม่รู้เรื่องการบริหารจัดการ และเราเองก็ไม่ได้บริหารจัดการเองด้วย เป็นแค่ตั้งขึ้นมาเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย อาจจะไปพรีเซ้นบ้างในเรื่องของปุ๋ย คือที่อยากทำปุ๋ยเพราะว่าสมัยเด็กๆ พ่อแม่เราก็ทำไร่ทำนาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เราก็อยากให้คนมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ก็เลยต้องรับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้”
เผยดีใจที่เคลียร์จบทุกอย่าง และทุกคนได้เงินคืน ส่วนตัวศาลก็ตัดสินรอลงอาญา 4 ปี
“พอตอนหลังก็มีเรื่องเป็นระบบอะไรขึ้นมา เราก็ไม่รู้เรื่อง พอสุดท้ายมันก็เป็นเรื่องอย่างที่เห็น ก็อยากจะบอกทุกคนว่าจะทำอะไรก็ต้องเรียนรู้ให้ละเอียดและมีสติ ต้องเช็คว่ามีความเสี่ยงหรือเปล่า ก็เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับวงการเพลงลูกทุ่ง แต่ก็นั่นอีกแหละพอเราทำไปแล้วมันก็มีรายได้เข้ามาเล็กๆ น้อยๆ แต่พอมันไปต่อไม่ได้ ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าใครมาร่วมลงทุนบ้าง เพราะไม่มีรายชื่อไม่มีอะไร แต่สุดท้ายเราก็ดีใจนะที่คนที่ลงทุนได้เงินคืน และถ้าเกิดวันหนึ่งตรงนี้มันยังคาราคาซังอยู่ แล้ววันหนึ่งผมมีบ้านหรูๆ มีรถดีๆ แล้วคนมาชี้หน้าบ้านว่านี่คือเงินที่มึงโกงกู ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้เรื่องเลย แต่ตอนนี้ผมเคลียร์ ผมมีความสุขที่ทุกคนได้เงินคืน และไม่มาตราหน้าผมว่าผมขี้โกง ผมก็เคลียร์ตัวเอง”
“เรื่องมันเกิดจากพอมันเป็นระบบแล้ว และพอมันขาดทุน ก็เลยไม่มีเงินไปจ่ายเขา ทีนี้เขาก็มาเคลียร์กับเราในฐานะเจ้าของบริษัท ผมยินดีเคลียร์นะ แต่ทางบริษัทเขาก็คิดว่าตัวเองถูก ต่างคนต่างคิดว่าถูก มันก็เลยมีปัญหาเกิดขึ้น แต่มันก็เป็นบทเรียน มันทำให้เราโต มีวิธีคิดที่ดีขึ้น ก็ต้องขอบคุณศาลที่พิจารณาเราทั้งสองฝ่าย คือถ้าเกิดท่านไม่ให้ความเป็นธรรมกับพวกเรา มันก็จะคาราคาซังอยู่อย่างนี้ ก็ยินดีกับทุกคนที่ได้เงินคืนด้วย และขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงผมด้วยครับ คือคนในวงการทุกคนก็เป็นห่วงครับ แต่ตอนนี้ก็พ้นแล้วครับ ตัดสินเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ศาลอุทรท่านก็ตัดสินรอลงอาญา 4 ปี เราก็ได้ชดใช้ โรงงานได้ชดใช้ให้ผู้เสียหายไปหมด ตอนนี้ก็สิ้นสุดแล้วครับ”
เผย “หมอโอม” คือคนที่คอยให้คำปรึกษา และทำให้ตนคลายความทุกข์ในเรื่องที่เกิดขึ้น
“เริ่มมาจากน้องสาวที่เขาชอบดูหมอดูอยู่แล้ว เขาก็มาแนะนำให้รู้จักกับหมอโอม ผมก็อยากจะลองดูสิว่าแม่นจริงหรือเปล่า ตอนนั้นผมก็เครียดนะ พอตัดสินว่าถูกจับคุก 20 ปีน่ะ เครียดมาก หมอโอมก็แนะนำให้เรายึดหลักศาสนาพุทธ ให้เดินสายกลาง เราก็มาคิดว่าทุกอย่างมันยังเป็นอนาคตนะ เราก็อย่าไปคิดวิตกกังวลมาก ก็สบายใจขึ้น บวกกับหมอโอมเขาก็คอยให้กำลังใจและแนะนำวิธีการดำเนินชีวิต ดูว่าเราควรจะแก้ไขอะไรยังไง คือทำให้ผมสบายใจขึ้นมากเลยครับ และมันก็ดีขึ้นอย่างที่หมอโอมแนะนำจริงๆ นะ ก็ต้องขอบคุณหมอโอมด้วยครับที่ช่วยแนะนำผมในหลายๆ เรื่องเลยครับ”
อย่าลืมติดตามชีวิตเฉียดคุกของ “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” ได้ที่รายการ พระอาทิตย์ Live รับชมทางช่อง News1 วันอังคารที่ 4 ธ.ค. นี้ เวลา 10.00-11.00 น. หรือติดตาม “หมอโอม” ได้ที่เพจ https://www.facebook.com/Horapayaporn/
