เจ็บแต่ต้องยอมรับ “ท็อป จรณ” เผยเลิก “ใบเฟิร์น” แต่ยังรู้สึกเหมือนเดิม ขอเก็บความสุขไว้ตลอดไป ไม่แปลกอกหักแล้วเข้าวัดไปปฏิบัติธรรม ธรรมะก็ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ปลงไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ก็ต้องรับแบบไม่มีเงื่อนไขให้ได้
เห็นสวีทหวานกันน่าดูแต่จู่ๆ “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าได้เลิกกับ “ท็อป จรณ โสรัตน์” ซะแล้ว แถมยังบอกไม่มีโอกาสจะรีเทิร์น ด้านท็อปนั้นถึงขั้นกับโพสต์ภาพเข้าวัดปฏิบัติธรรมเลยทีเดียว เจอตัวท็อปขณะมาร่วมงานมหกรรมท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถี "เที่ยวบ้านฉัน ไปแล้วจะรู้ อยู่แล้วจะรัก" เจ้าตัวก็บอกว่า ยังรู้สึกเหมือนเดิม แต่ต้องยอมรับและเข้าใจความเป็นจริง โต้อกหักจนต้องเข้าวัด แต่ธรรมะก็สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์
“จริงๆ ก็ตามที่น้องให้สัมภาษณ์ไปครับ เราก็ให้เกียรติเขา ส่วนสาเหตุผมว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคนแหละ ผมว่าในการคบกันคุยกันมันก็มีดีเทลอะไรหลายๆ อย่าง ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียด แล้วก็ไม่มีมือที่ 3 แน่นอนครับ การที่เราจะใช้ชีวิตหรือว่าคุยกับใครสักคน แน่นอนว่ามันมีรายละเอียดทั้งทุกข์แล้วก็สุขเป็นเรื่องธรรมดา ผมขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดว่ามันเป็นเรื่องอะไรดีกว่า ทุกคนมองว่าที่ผ่านมาผมมีความสุขมากก็ขอบคุณเขามากๆ ที่เข้ามาในชีวิตผม ที่ผ่านมามันมีความหมายกับผมมากๆ ทุกวันนี้ผมก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมตั้งแต่วันที่เจอเขาวันแรก”
ไม่บอกว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายตัดสินใจ แต่ที่ผ่านมาก็มีการปรับจูนกันเป็นเรื่องธรรมดาเพราะมาจากต่างครอบครัว
“ผมให้เกียรติตรงที่น้องได้ให้สัมภาษณ์ไปดีกว่า เรามีการคุยกันปรับกันอยู่แล้ว ทุกคนมาคนละครอบครัวกันวิธีคิดทัศนคติที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นมันต้องมีการปรับตลอดเวลาอยู่แล้ว ผ่านประสบการณ์ ผ่านเหตุการณ์มันมีการโตขึ้น มีการเรียนรู้ เพราะฉะนั้นทุกๆ วันเราก็มีการปรับตัวเข้าหากัน การทะเลาะกันผมว่ามันก็เป็นเรื่องปกตินะครับ"
ไม่ขอลงรายละเอียดทำไมเลิกกัน เพราะเป็นเรื่องที่อ่อนไหว อยากให้ทุกคนเก็บความน่ารักเอาไว้ตลอดไป
"ตรงจุดไหนเหรอ จริงๆ ผมก็ไม่อยากบอกว่าเป็นจุดไหน มันคงพูดไม่ได้หรอก มันเป็นการลงรายละเอียดของคนสองคนจริงๆ มันอ่อนไหวมากๆ ผมไม่อยากลงรายละเอียดอะไรเลย แต่ว่าในสิ่งที่ทุกคนเห็นสิ่งที่ทุกคนมองว่าน่ารัก ผมอยากให้ทุกคนเก็บเอาไว้เหมือนที่ผมเก็บเอาไว้ ผมอยากให้ทุกคนมองว่าที่ผ่านมามันน่ารัก ซึ่งมันก็คงยังเป็นอย่างนั้นตลอดไป"
ไม่เสียดายเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมอง ต้องยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
"มันไม่ได้เสียดายหรอกครับ คนเราผ่านเข้ามาเพื่อให้อะไรบางอย่าง ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันอยู่ที่คุณมองว่ามันคืออะไร มันมีความสุขเสมอ แต่ในความเป็นจริงคงไม่มีอะไรที่สุขร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วทุกข์ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก มันเป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องยอมรับและเข้าใจในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น"
ไม่ได้ติดต่อกันอีก เพราะต้องให้เวลากันและกัน
"ไม่ได้คุยเลยครับ เพียงแต่ว่าเราอาจจะต้องให้เวลากัน ให้เกียรติ สภาพจิตใจตอนนี้เดี๋ยวมันก็ผ่านไปครับ (ยิ้ม)ส่วนเรื่องที่ผมไปปฏิบัติธรรม ผมขอชี้แจงแบบนี้ดีกว่าว่า ผมเป็นคนชอบทำบุญและปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้อาจจะไม่เห็นภาพมากนัก แต่พอครั้งนี้เราได้ไปปฏิบัติธรรม เรารู้สึกว่าเราได้อะไรกลับมาจริงๆ เราได้มองเห็นธรรมะบางอย่าง ได้มองเห็นความจริงที่เกิดขึ้นกับใจเรา และเรารู้สึกว่าโอเค เราเป็นนักแสดงมีคนติดตาม ถ้ามีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสามารถทำให้เขาหันไปเข้าวัดนั่งกรรมฐานทำบุญได้ เพียงแค่สักคนเดียวผมก็รู้สึกดีใจแล้ว”
“ส่วนถ้าใครมองว่าอกหักจนต้องไปปฏิบัติธรรมมันก็แล้วแต่มุมมองของคน แต่ว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่เหรอครับ สมมติว่าถ้าเรามีสิ่งที่ไม่สบายใจเราก็ไปที่วัด ไปฟังพระที่เรานับถือบอกกล่าวหรือเทศน์ วิเคราะห์ใจเราดูว่าตอนนี้ใจเราเป็นยังไง ผมว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ผมได้มาเลยคือ การยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไข ฝึกใจตัวเองให้ยอมรับได้ทั้งทุกข์ที่สุดและสุขที่สุด เมื่อไหร่ที่เรายอมรับได้โดยไม่มีเงื่อนไขเราก็ต้องฝึก และที่สำคัญที่สุดคือเราต้องซื่อสัตย์กับใจตัวเอง ผมว่ามันก็จะผ่านไปได้ ไม่เกี่ยวกับอกหักขนาดนั้น (หัวเราะ) ผมว่าธรรมะสามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ครับ"
ยินดีร่วมงานกับ “ใบเฟิร์น” ส่วนโอกาสรีเทิร์นที่ใบเฟิร์นบอกว่าไม่มี แต่สำหรับ “ท็อป” ไม่กล้าคอนเฟิร์มเพราะโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
"ร่วมงานกันได้ครับ ส่วนเรื่องรีเทิร์นจริงๆ เรื่องนี้น้องให้สัมภาษณ์ไปแล้วครับ ผมให้เกียรติทางน้องในสิ่งที่น้องพูดครับ แต่ถ้าถามผมเรื่องโอกาสรีเทิร์น ผมไม่กล้าคอนเฟิร์ม ผมรู้สึกว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สถานะเราตอนนี้ก็เป็นพี่น้องกันได้ครับ"
ขอโฟกัสสิ่งที่ต้องทำ เรื่องใจก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของใจ
"เพื่อนๆ คนรอบตัวก็ให้กำลังใจ ทุกคนก็ตกใจเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ส่วนใหญ่ทุกคนจะให้กำลังซะมากกว่าครับ ความรู้สึกตอนนี้ ผมคิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป อารมณ์ของคนเรามันเปลี่ยนไปทุกขณะ วันนี้เราอาจจะโอเค แต่พรุ่งนี้อาจจะเสียใจก็ได้ ผมก็ตอบไม่ได้ว่าตัวเองเป็นอย่างไรอยู่ ถามว่าพักใจไปยาวๆ เลยไหม ตอนนี้ผมมีเรื่องต้องโฟกัส มีเรื่องต้องทำ ส่วนเรื่องใจก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของใจไปครับ"