จากกรณีเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยาย หนุ่มมุ่งมั่นเป็นตำรวจเพื่อตามล่าตัวคนร้ายที่ฆ่าปาดคอพ่อ ทั้งที่ตอนนั้นยังอยู่ในท้องแม่ จนทำให้มีกระแสชื่นชมฮือฮาในโลกโซเชียลฯ ล่าสุดรายการโหนกระแส วันที่ 7 พ.ย. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ มากประดิษฐ์” หรือ “อาร์ม” พร้อมสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ “คุณแม่รัชนี มากประดิษฐ์” แม่น้องอาร์ม
หมู่อาร์ม เรื่องที่พูดน่าเป็นเรื่องในนิยาย ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “เรื่องจริงครับ ยืนยันว่าที่เข้ามาเป็นตำรวจ ไม่ได้เพื่อแก้แค้นครับ แต่เป็นความใฝ่ฝันของตัวเอง พ่อก็อยากให้เป็นตำรวจด้วยครับ”
เจอตัวคนร้ายฆ่าพ่อเป็นเรื่องบังเอิญ
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “เขามีชื่ออยู่ในบัญชีหมายจับครั้งเก่า ซึ่งเป็นหน้างานของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้วครับ ผมตามทุกหมาย สืบหาข้อมูลอย่างเดียวไม่ได้ลงพื้นที่ แต่หมายนี้ตั้งใจลงพื้นที่เอง เพราะรู้ว่าเป็นคนที่ฆ่าพ่อ”
ย้อนกลับในวัยเด็ก มีข่าวว่าตอนคุณพ่อเสียชีวิต อาร์มอยู่ในท้อง
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “จริงๆ ไม่ใช่ครับ คลอดแล้วครับ อายุ 1 ขวบ แม่เล่าให้ฟังว่าวันที่ 4 เดือน ธ.ค. ปี 41 พ่อผมไปส่งของ รถสิบล้อไปกับพี่เขย ไปถึงสุราษฎร์ธานี แม่บอกว่าโดนฆ่าปาดคอ แต่แม่ไม่รู้ว่าหายไปไหน เห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ถึงรู้ ตอนนั้นหายไป 2 อาทิตย์ เมื่อทราบเรื่องก็ติดต่อไปพุนพิน ปรากฏว่าโดนฝังไปแล้ว”
ตอนนั้นถูกปาดคอ เอามือไพล่หลัง มีถุงคลุมหัวด้วย เสียชีวิตพร้อมพี่เขย
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “ครับ แม่อ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ เจอข่าวพ่อ แม่ก็ตกใจ แม่ก็ไปติดต่อขุดศพขึ้นมาทำพิธี”
คนร้ายล่ะ?
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “โดนจับไปแล้วสอง ตอนนั้นมีคนร้าย 3 คนครับ อีกหนึ่งคนก็คือผู้ต้องหาที่ผมไปดำเนินการ นายบุญฤทธิ์”
หลังจากนั้นคุณแม่เล่าให้ฟังเมื่อไหร่
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “ตอน ม.3 ประมาณอายุ 15”
พ่ออยากให้เป็นตำรวจ ใครบอก
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “แม่บอกครับ ตำรวจ ทหาร พ่อชอบ ระหว่างรอก็เรียนมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี ยังไม่ได้ครึ่งของปี 1 พอตำรวจเปิดก็มาเรียนตำรวจ ก็ทั้งพ่อสั่งไว้ กับตัวเองชอบด้วยครับ”
คุณแม่เล่าให้ฟังตอนอยู่ ม.3 ตอนนั้นฝังใจคุณพ่อถูกคนร้ายฆ่ามั้ย
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “ฝังใจครับ แต่ไม่คิดว่าจะได้มาสืบเพราะไม่มีความรู้ด้านการสืบสวน ตอนเรียนตำรวจก็ไม่ได้ไปค้นประวัติคนร้าย มาเริ่มค้นตอนที่เป็นตำรวจ เพราะแม่บอกว่าคนที่ฆ่าพ่อแล้วหนีไปได้ชื่อบุญฤทธิ์ ตอนนั้นยังไม่ได้มาทำเรื่องนี้พอได้มาทำ ก็เริ่มค้นหาชื่อว่ามีในหน้างานที่รับผิดชอบมั้ย เราค้นหาชื่อ ก็เจอหมายจับครับ มีบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว มีฆ่าผู้อื่นกับปล้นทรัพย์”
อยู่ในสายกับคุณแม่รัชนี ข่าวดังเกรียวกราว เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ลูกชายตามจับคนร้ายฆ่าพ่อ รู้สึกยังไงบ้าง
รัชนี : “ก็ดีใจที่เขาจับได้ และเขาก็โดนจับ ได้รับกรรมที่เขาก่อไว้ ตอนนั้นน้องอาร์มแค่ขวบเดียว”
ตอนแรกแม่ไม่ทราบเรื่องคุณพ่อหายไป
รัชนี : “ค่ะ หายไปประมาณ 2 อาทิตย์ ก็ตามนะ ว่าเขาไปไหน ก็ไม่เจอ สุดท้ายรออยู่ที่บ้าน รอว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับบ้าน แล้วก็มาเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์”
หลังจากนั้น คุณแม่ถูกคุกคามจากคนร้าย
รัชนี : “ไม่นานนักค่ะ ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เขาเข้ามาในพื้นที่ มีเพื่อนๆ บอกว่าเขาเข้ามาในพื้นที่ ถามหาว่าบ้านอยู่ตรงไหน ถามว่าบ้านๆ อาร์มอยู่ไหน ถามอยู่เรื่อยมา คนร้ายน่าจะรู้ว่าน้องอาร์มลูกคนที่เขาเคยฆ่าเป็นตำรวจ”
คุณแม่เลยคิดว่าการที่เขาเข้ามาในหมู่บ้าน 2 เดือนก่อนถูกจับ เข้ามาเพื่ออะไร
รัชนี : “ไม่ทราบค่ะ แม่ไม่เคยเจอเขาค่ะ เขาก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่มาเรียก ต้องการคุยด้วย แต่ไม่กล้าออกมา เพราะเป็นเวลาที่ดึกแล้ เราแค่ฟังเสียงเขาและมองผ่านกระจกหน้าต่างออกไป เขาเรียกเราไม่ออก เขาก็หันหลังกลับ บอกว่าชื่อน้อง เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาใหม่”
เล่าให้อาร์มฟัง
รัชนี : “บอกค่ะ”
นี่เริ่มทำให้อาร์มไม่สบายใจ อาจมีการคุกคามถึงคุณแม่
รัชนี : “ค่ะ”
มีอะไรอยากบอกน้องอาร์ม
รัชนี : “อาร์ม แม่รักลูกนะ สู้ๆ นะลูกนะ”
อาร์มน้ำตาคลอเลย
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “ครับ”
ไม่รู้เป็นจุดที่อาร์มต้องทำอะไรสักอย่าง เหมือนมีการคุกคามเกิดขึ้น คนร้ายน่าจะเป็นบุญฤทธิ์ ไปเรียกถึงหน้าบ้าน
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “ใช่ครับ ก็เริ่มเช็กว่ารถคันนี้ไปไหนมาบ้างเพราะแม่จำทะเบียนได้ แต่เป็นรถของใครไม่ขอเปิดเผย ก็สืบว่าอยู่บ้านหลังไหน หาอยู่ประมาณ 2 เดือน”
มีการปรึกษาผู้ใหญ่มั้ย
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “มีครับ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 1 ท่านก็ให้แนวทางการปฏิบัติครับ อาร์มก็เล่าทุกอย่างให้ท่านฟังครับ”
คิดว่าเขารู้ได้ไงว่าเราเป็นตำรวจ
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “เขามีญาติแถวบ้านผม น่าจะมีการส่งข่าวตลอด”
2 เดือนตามหายังไง
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “ก็เริ่มตามหาบ้าน ทั้งแนวราบ และตามเทคโนโลยีของตำรวจ ทราบแน่ว่าวันที่จับกุมอยู่ที่บ้าน”
ตอนจับกุมอยู่ละแวกบ้านแม่
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “ห่าง 30 กิโลครับ อยู่หมู่บ้านใกล้เคียงกัน ก็ประสานกับชุดสืบสวนจ.ชุมพร กองปราบ สนธิกำลังกัน และวางแผนไปจับกุม ตอนจับกุมก็เจอ แต่เขาไม่รับสารภาพ ผมยังไม่แสดงตัว ตอนนั้นเขากำลังขับรถไถอยู่ ผมก็เดินลงมาจากรถ แต่ไม่แสดงตัวว่าเป็นลูกชายคนเสียชีวิต เขาก็มองมา ก็สงสัยว่าน่าจะเป็นผม หลังจากนั้นไม่ยอมรับ บอกว่าเขาไม่ใช่คนตามหมายจับ ใช้บัตรประชาชนของผู้อื่น ใช้บัตรประชาชนเป็นของพี่ชาย แต่เขาตอบคำถามผิดเรื่องพี่ชาย ก็ยังไม่ยอมรับ ก็พาไปที่โรงพักในพื้นที่”
ข่าวดังออกมาได้ยังไง
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “ไปตั้งว่าผมทำเพื่อแก้แค้น ก็เลยดังขึ้นมา แต่ไม่ใช่ ห่วงความปลอดภัยของคุณแม่”
ทางผู้บังคับบัญชาว่ายังไง
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “ก็ชื่นชมในส่วนที่จับไป แต่เป็นห่วงว่าจะทำให้เสียภาพลักษณ์ขององค์กร เพราะบางคนมองว่าผมทำไปเพราะแก้แค้น บางข่าวลงว่าตำรวจไม่ตามเรื่องนี้ แต่จริงๆ ตำรวจก็ตามอยู่”
อยากบอกอะไรมั้ย
ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ : “ไม่มีครับ อยากขอบคุณชุดจับกุมที่ช่วยประสานไป”