“ตี๋ แมทชิ่ง” โยนให้ “พอลล่า” ตอบ กรณีเปลี่ยนมือผู้จัด ไม่สน “ธนวัฒน์” แฉออกสื่อ ชี้ไม่ได้ระบุชื่อ แต่ยืนยันจะไม่ทำให้ประเทศไทยขายขี้หน้า ด้าน “พอลล่า” ยอมรับเสียใจความลับรั่วไหล แต่ไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เผยประทับใจ ตี๋ แมทชิ่ง ตั้งแต่ปี 2005 โชว์ศักยภาพ-ความสามารถซื้อใจ ฝ่ายตี๋ไม่ขอตอบยังขาดอีก 300 ล้าน อนาคตอาจระดมทุน
หลังจากมีกรณีดรามา “ธนวัฒน์ วันสม” บริษัท TW Investment Group ยื่นหนังสือถึงสื่อมวลชน เรื่องยกเลิกเป็นผู้จัดมิสยูนิเวิร์ส 2018 เปลี่ยนมือผู้จัดเป็น “ตี๋ แมทชิ่ง” สมชาย ชีวสุทธานนท์ พร้อมโยนระเบิดลูกโตถึงอดีตพาร์ตเนอร์ที่มีการซุ่มเจรจาลับหลังบริษัทมิสยูนิเวิร์ส ขอรับสิทธิ์จัดประกวดซะเอง
ล่าสุดทางบริษัท ทีพีเอ็น 2018 จำกัด (TPN 2018 Co., Ltd.) ผู้ถือลิขสิทธิ์ในการจัดการประกวด Miss Universe ปี 2018 อย่างเป็นทางการ นำโดย ตี๋ แมทชิ่ง ออแกไนซ์มือฉมังที่เคยฝากฝีมือไว้จากการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส ปี 2005 พร้อมพาร์ตเนอร์ ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก, ณะ ณรงค์ เลิศกิตศิริ และ พอลล่า เอ็ม ชูการ์ต ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์ส ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ และไขข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับการจัดงานประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทยครั้งนี้ ณ ห้องนภาลัย บอลรูม โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ โดยงานนี้ กรณีเปลี่ยนมือผู้จัด ตี๋ แมทชิ่งไม่ขอตอบ ก่อนโบ้ยให้ “พอลล่า” ตอบแทน
ตี๋ : “ที่มาไม่รู้ แต่ที่ไปรู้ ก็คือผมเป็นผู้จัดครับ ตอนนี้เป็นผู้จัด คำถามนี้ผมว่าถามคุณพอลล่าดีกว่ามั้ยครับ”
พอลล่า : “เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีเลย ที่ประเทศหนึ่งประเทศ เกือบจะต้องถูกถอนชื่อออกจากการเป็นเจ้าภาพ แล้วเราก็ไม่อยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น เลยมีโอกาสได้คุยกับ 3 ผู้บริหารของทีพีเอ็น 2018 ในเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราก็สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้ นั่นก็คือการจัดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทย จริงๆ แล้วรู้สึกเสียใจมากที่ข่าวที่ควรจะเป็นความลับภายในที่ไม่น่าจะรั่วไหล สื่อไม่ควรจะทราบเรื่องการเปลี่ยนมือนี้ แต่มันก็รั่วไหลออกไป ตรงนี้ทำให้รู้สึกเสียใจมาก”
เผยเอาความจริงไปพรีเซนต์จน “พอลล่า” ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์สเชื่อมั่น ยอมให้ลิขสิทธิ์เป็นคนจัดประกวด ด้านพอลล่าชมตี๋ได้ใจตนมาตั้งแต่ปี 2005 แล้ว
ตี๋ : “ผมพรีเซนต์ความจริง ความถูกต้อง ความจริงใจ ผมทำสิ่งที่เป็นจริงให้มันเป็นจริง เพราะว่าการที่เราทำอะไรก็ตามที่มันอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ผมว่าทางมิสยูนิเวิร์สเขาเห็น และที่สำคัญที่สุดผมพรีเซนต์ไป เพราะผมไม่อยากให้งานนี้หลุดจากประเทศไทย ก็เลยทำความจริงให้เขาเห็น ว่าเราตั้งใจจริง แค่นั้นครับ”
พอลล่า : “เรื่องของการซื้อใจ มันเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2005 แล้ว ตอนนั้นที่ทุกท่านทราบดี ว่าก่อนที่จะประกวดมิสยูนิเวิร์ส ประเทศไทยโดนสึนามิซัด ตอนนั้นก็ทำลายทั้งความรู้สึกและจิตใจของคนไทยเป็นอย่างมาก แต่ในปี 2005 นั้น คุณตี๋ก็ได้โชว์ศักยภาพ โชว์ความสามารถของคนไทย และร่วมมือกับทางเรา จนทำให้ทุกอย่างสำเร็จได้ และนี่คือหนึ่งในวิธีที่คุณตี๋สามารถซื้อใจดิฉันได้”
ความพร้อมในการเตรียมงานตอนนี้คืบไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทีมงานทุกคนทุ่มเท อดหลับอดนอนทำงานตลอดเวลา
ตี๋ : “จริงๆ ความพร้อมตอนนี้ พร้อมประมาณ 70 -80 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ จริงๆ ต้องเรียนตรงๆ ว่าในอดีตเทคโนโลยีในบ้านเรามันก็ยังสู้ปัจจุบันนี้ไม่ได้ ฉะนั้นการเตรียมความพร้อมระหว่างทีมงานเรา กับทีมงานของทางมิสยูนิเวิร์ส โดยเฉพาะทีมงานที่เราเคยทำงานร่วมกันมาก่อน มันก็ค่อนข้างจะเข้าขากัน ที่สำคัญที่สุดคือผมมีทีมงานที่เก่ง แล้วก็เป็นทีมงานระดับมืออาชีพ ที่ยอมที่จะมาร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับเรา ไม่ว่าจะเป็นหลายๆ ท่านที่นั่งอยู่ในส่วนซีกขวามือของผม เราไม่ได้หลับได้นอนกันมาตลอด 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เรามีทั้งทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน เพราะเราต้องการในสิ่งที่ดีที่สุด”
“ไม่อยากจะบอกว่าตัวผมคนเดียว มันเป็นทีมเวิร์ก ผมทำคนเดียวไม่ได้ครับ แต่ผมกล้าที่จะลุกขึ้นมาทำ เพื่อให้คนอื่นเห็นว่าพวกเราทำได้ ฉะนั้นผมว่าอันนี้คือการเตรียมความพร้อม เราทุ่มเทแบบอดหลับอดนอน ถ้าเรานอนตามปกติ เวลาเราหายไปเยอะ ผมบอกกับทีมงานอยู่เสมอว่าเราจะภูมิใจกับมัน ในวันเวลาที่งานเสร็จ เหมือนกับที่ผมเคยรู้สึกเมื่อปี 2005 แล้วมันก็จะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ทีมงานผมทุกคนเข้าใจตรงนั้น พาร์ตเนอร์ผมไม่ว่าจะเป็นคุณปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ตัว P ส่วนตัว N คุณณะ ณรงค์ เลิศกิตศิริ ทุกคนทุ่มเทไม่ได้หลับได้นอนกัน ก็เลยเชื่อว่า 70 - 80 เปอร์เซ็นต์ที่เราทำได้ตอนนี้ครับ”
ไม่ตอบยังขาดอีก 300 ล้าน คาดอาจต้องมีการระดมทุน ส่วนกรณีถ้าได้เป็นเจ้าภาพการจัดมิสยูนิเวิร์ส จะได้สิทธิ์ในการเป็นคนจัดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2 ปีโดยอัตโนมัตินั้น เจ้าตัวได้ให้คำตอบว่าขอโฟกัสแค่การงานมิสยูนิเวิร์ส 2018 ครั้งนี้ก่อน ด้าน “พอลล่า”บอกยังไม่เคาะว่าจะให้ลิขสิทธิ์ต่อมั้ย ต้องขอดูผลงานครั้งนี้ก่อนเช่นกัน
ตี๋ : “ตอนนี้ผมโฟกัสที่งานมิสยูนิเวิร์ส 2018 ครับ ผมยังไม่ได้สนใจอะไรที่มากกว่านี้เลยครับ”
พอลล่า : “ยังไม่บอกแล้วกันค่ะ ว่าคุณตี๋จะได้สิทธิ์นั้นต่อหรือเปล่า ขอดูผลงานในวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ แล้วค่อยเคาะอีกทีค่ะ”
ตี๋ : “ในแง่ของการจัดการไม่ว่าจะเป็นทางกองประกวด หรือทางมิสยูนิเวิร์สเอง ก็ช่วยเราดูนะครับ คำว่าช่วยเราดูหมายถึงว่า เราทำในลักษณะที่มันสมดุลกับคุณภาพที่เราทำให้เกิด ฉะนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นการระดมทุนในรูปแบบไหนก็ตามมันไม่ได้อยู่ที่ประเด็นนั้น ประเด็นมันอยู่ที่เป็นคนพูดถึง และงานมันต้องสำเร็จ มาถึงวันนี้ยังไงงานก็เกิด ผมเลยคิดว่าประเด็นตรงนั้นไม่ใช่ประเด็นที่เราจะมามอง ว่าใครจะเป็นคนมาจ่ายเงินเรา ใครจะเป็นคนมาช่วยเรา ผมว่าหลากหลายครับ หลายกลุ่ม จากวันนี้ไปน่าจะมีหลายกลุ่มที่กระโดดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความภูมิใจตรงนี้ครับ”
ไม่กล้าพูดว่าคนไทยจะได้อะไรจากการจัดงานครั้งนี้บ้าง แต่ที่แน่ๆ จะทำให้ทุกคนภูมิใจ และไม่มีทางทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียงแน่นอน
ตี๋ : “ผมไม่กล้าที่จะไปพูดแทนคนไทยทั้งประเทศ แต่ผมพูดแค่ว่าทีมเรา ไม่ว่ามิสยูนิเวิร์สออร์แกไนเซอร์หรือคนไทยกันเอง เราทำให้เราไม่เสียชื่อ ผมก็เลยไม่กล้าที่จะบอกว่าคนไทยจะได้อะไร ณ ตอนนี้ผมว่าท่านทั้งหลายที่อยู่ตรงนี้ ก็น่าจะภูมิใจเพราะว่าเราสามารถทำได้ ดีกว่าที่เราจะถูกถอด”
งบประมาณในการจัดงานครั้งนี้จะพยายามให้คุ้มค่ากับผลงานที่จะออกมามากที่สุด เผยทางรัฐบาลยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่
ตี๋ : “ตอนนี้เราพยายามควบคุม และสร้างสรรค์สิ่งที่มันสอดคล้องกับงบประมาณที่เราต้องจ่าย เพราะฉะนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่างบประมาณเท่าไหร่ ตอนนี้เดอะโชว์มัสโกออน แต่เราก็ไม่ได้ตั้งใจหมายความว่าเราจะทำโดยที่ปราศจากทิศทางนะครับ ตอนนี้ขอให้เชื่อใจนิดหนึ่ง แล้วเราพูดชัดเจนกับทางภาครัฐว่าสิ่งที่รัฐบาลอยากจะซัปพอร์ตเรา เรายินดี ทางรัฐบาลก็ยินดีที่เราให้ความร่วมมือ เพื่อให้ประเทศไทยของเรา งานนี้มันเป็นกระบอกเสียงนะครับ ทำใจเราค่อนข้างจะภูมิใจในสิ่งที่เราได้ทำครับ”
“เบื้องต้นทางรัฐมนตรีท่านเองก็ให้ความสนับสนุน เพื่อเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว สิ่งที่พวกเราจะต้องช่วยกันก็คือการร่วมมือกัน ในแง่ของการที่เราจะเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน สิ่งเหล่านี้มันก็จะทำให้เกิดความชัดเจนในหลายๆ ได้ ที่พูดไม่ได้หมายความว่าทางภาครัฐหรือทางภาคเอกชนไม่ชัดเจน ผมว่ารัฐบาลยังไงก็สนับสนุนครับ แต่มากเท่าไหร่ผมคงไม่สามารถตอบได้ว่ารัฐบาลต้องสนับสนุนอะไรบ้าง แต่ในเบื้องต้นก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ครับ”
ย้อนผู้จัดเก่าระบุชื่อตนหรือไม่ กรณีส่งจดหมายถึงสื่อมวลชน พาดพิงผู้จัดประกวดรายใหม่
ตี๋ : “ผมอยากจะถามคำถามนี้กลับครับ ว่าคนๆ นั้นคือใคร ที่บอกว่าคนนั้นจะเกิดความเสียหาย หรือคนที่อยู่ในจดหมายหรืออะไรก็ตาม ผมอยากรู้จักว่าคนนั้นคือใคร (ทาง TW เขาส่งจดหมายมาว่าทางเขาไม่สามารถจัดงานต่อไปได้ แล้วก็มีการพาดพิงถึงผู้จัดในครั้งนี้ด้วย?) ผมอยากรู้ว่าผู้จัดที่เขาพูดถึงในครั้งนี้คือใคร ในจดหมายไม่ได้ระบุไว้”
“พอลล่า” เปิดใจรู้สึกไม่ดี และไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้อยากจะเดินหน้าเพราะมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่รออยู่ ดีกว่ามาสนใจเรื่องเล็กน้อย
พอลล่า : “ไม่อยากจะกวาดเรื่องนี้ไปใต้พรมนะคะ แต่ครั้งแรกที่ได้เห็นจดหมายนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนที่มาถึงเมืองไทย บอกได้เลยว่ามีความรู้สึกที่ไม่ดีอย่างมาก และไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้เรามีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าก็คือมิสยูนิเวิร์ส 2018 เพราะฉะนั้นตอนนี้ทางทีมผู้บริหารไม่มีเวลาที่จะโฟกัสกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อีกต่อไป เราพร้อมที่จะเริ่มต้นและไปต่อในอนาคตอย่างดีที่สุด”
ย้ำนโนบายโปรโมตเมืองรอง ไม่ใช่ไอเดียใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ฉะนั้นตนจึงไม่ได้มาสานต่อ แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
ตี๋ : “วันนี้งานแถลงข่าวดูเหมือนเราไปเดินตามแผนเดิมหรือเปล่า เราเดินแผนใหม่หมดเลยครับ แต่ว่าคำว่าเมืองรอง เป็นนโยบายของทางภาครัฐที่อยากให้เราสนับสนุนเมืองรอง อันนี้ทุกสื่อมวลชนก็ทราบกันดีอยู่แล้วครับ คงไม่ได้เป็นไอเดียของคนใดคนหนึ่ง เป็นนโยบายของทางภาครัฐที่เราอยากจะเอางานของเราเข้ามาร่วมในการส่งเสริมเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้ ทำให้เศรษฐกิจของเมืองรองเป็นที่รู้จักและเติบโตครับ”
พอลล่า : “ตอนนี้ MU อยู่ภายใต้ ING แล้ว เป็นบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องการ อยู่ในมือเราหมดแล้ว เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าถ้าปี 2005 คุณประทับใจกับฝีมือของคุณตี๋และดิฉันแล้ว ปี 2018 นี้ ก็จะเป็นที่น่าอลังการและประทับใจมากกว่า จะยังไม่บอกตอนนี้ แต่หลังจากงานจบเรามาคุยกันดีกว่า ว่าคุณคิดว่ามันอลังการกว่าขนาดไหน”
ตี๋ : “ช่องทางการจำหน่ายบัตร เรามีที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์อยู่แล้วครับ หลังจากนี้คงไม่เกินอาทิตย์หน้าเราคงลงตัว เพราะว่าตอนนี้เรามีการจัดการเรื่องเซ็ตติ้งนิดหน่อย เพื่อให้เหมาะสมที่สุด และอย่างที่คุณพอลล่าบอก มุมมองของความอลังการที่จะเกิดขึ้น เราก็พยายามจัดให้เข้าถึงกับทุกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นบนเวทีของเรา อาทิตย์หน้าน่าจะไฟนอลครับ ก็ติดตามทางไทยทิกเก็ตเมเจอร์ และสามารถไปลิ้งค์กับทางมิสยูนิเวิร์สด้วย ส่วนช่องทางออกอากาศสดที่ประเทศไทย จะเป็นช่องไหน ขอตอบอาทิตย์หน้านะครับ ให้ลุ้นกัน”
ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทยครั้งนี้ “พอลล่า” หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้สาวงามผู้เข้าประกวดทุกคนได้สัมผัสถึงความเป็นไทยที่แสนอบอุ่น อย่างที่ตัวเธอในวัย 12 ปีได้สัมผัส ตอนมาเที่ยวประเทศไทยครั้งแรก
พอลล่า : “อันดับหนึ่งไม่อยากจะตอบแบบนางงาม สองอยากให้สาวๆ ทุกคนได้มา มาสัมผัสไลฟ์สไตล์ และได้รู้จักพี่น้องชาวไทย ได้สัมผัสความรู้เดียวกับตอนที่ดิฉันมาที่นี่ตอนอายุ 12 ขวบ มันเป็นความรู้สึกแห่งความรัก ความอบอุ่น อยากให้สาวๆ ที่ได้มาใช้ชีวิตที่เมืองไทยทุกวันได้สัมผัสแบบนั้นค่ะ”
ส่วนในวีทีอาร์ที่เปิด จะเห็นได้ว่ามีเป็นรูปนกยูงอยู่ บอกก็จะเป็นส่วนหนึ่งของมงกุฎ จะเผยรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง แต่โลโก้ยังคงใช้ของเดิมของมิสยูนิเวิร์ส
ตี๋ : “โลโก้เป็นโลโก้ของมิสยูสิเวิร์สอยู่แล้วนะครับ แต่ถ้าสังเกตที่มีการครีเอตออกมาจะเห็นว่ามีเป็นรูปดอกไม้โอบอุ้ม ซึ่งแต่ละดีเทลที่ใส่อยู่ในนั้น มีความหมายมากมาย เป็นตัวแทนของคนไทย และเป็นส่วนหนึ่งของโลโก้มิสยูนิเวิร์ส แต่เขาก็จะมีโลโก้ของเขาอยู่แล้ว แต่เพื่อให้เป็นความสวยงามและจดจำมงกุฎให้อยู่ในใจพวกเรา เลยเป็นเจตจำนงที่อยากทำ ซึ่งก็ได้ถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างตรง เราฝึกกันหนักมาก มันไม่ใช่แค่มงกุฎ แต่มันมีความสวยงามแฝงอยู่ในนั้น มีอารยธรรม มีความอาร์ตอยู่ในนั้น มีดีไซน์ มีชีวิตและเรื่องราวอยู่ในนั้น เดี๋ยวจะมีการทำรายละเอียดที่เขียนบอกเลยว่าแต่ละสิ่งที่เกิดขึ้นในมิสยูนิเวิร์ส 2018 ในประเทศไทยมันมาอย่างไร เราทำงานกันละเอียด ไม่ใช่อยากทำก็ทำ เราคิดเยอะครับ”
ฝากถึงคนไทยในการจัดมิสยูนิเวิร์สครั้งนี้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ โดยใช้โซเชียลของตัวเองในการร่วมกระจายข่าว และในระยะเวลาที่เหลือนี้ ไม่มีความหนักใจเลย เชื่อว่าการจัดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ในประเทศไทย จะเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ของปีประเทศ
ตี๋ : “ผมฝากนิดหนึ่งนะครับ ว่าคนไทยทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้หมด เราลองใช้ไลน์ เฟซบุ๊ก หรือไอจีของเรา ในการกระจายข่าว ว่าเราจะเป็นคนหนึ่งที่จะเพิ่มรอบยิ้มให้กับคนต่างชาติอีก 95 ประเทศที่เข้ามา ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าคนไทยมีแต่รอยยิ้ม ประเทศไทยน่าอยู่และมีเสน่ห์มาก มีทุกอย่างพร้อม ทีมงานของคุณพอลล่าบางท่านมาไทยเป็นครั้งแรก เขาก็รู้สึกดี เมื่อวานพาไปวัดพระแก้ว เขาบอกเลยว่าจะกลับไปศึกษาด้านพระพุทธศาสนา เริ่มจะนั่งสมาธิ ก็ฝากคนไทยนะครับ ว่าไม่ได้หนักใจอะไรเลย เราเชื่อนะครับว่าในเดือนธันวาคมมันจะเป็นของขวัญชิ้นใหญ่กับประเทศเราครับ”
ไม่สนเรื่องตัดสิทธิ์ผู้จัดคนเก่า แล้วเงินที่ผู้จัดเก่าจ่ายไป จะเป็นอย่างไร บอกให้ความสำคัญเรื่องเซฟการประกวดมากกว่า
พอลล่า : “มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ แต่ขอบอกตามตรง ที่ฉันให้ความสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือเราต้องเซฟการประกวดครั้งนี้เอาไว้ให้ได้ ซึ่งเราก็ได้ทำไปแล้ว หลังจากนี้ก็คงจะมีอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ เราคงต้องทำกันอย่างเป็นส่วนบุคคล แต่ตอนนี้เราคงจะให้ความสำคัญกับงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้ามากกว่า นั่นคือสิ่งที่ทีมของเรากำลังทำกันอยู่”
“เกี่ยวกับเรื่องความกดดันจากงานครั้งนี้ ก็มีความกดดันจากหลาย ๆ เรื่อง แต่ถ้าจะทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ ก็คงต้องเป็นที่นี่เท่านั้น ด้วยทีมของที่นี่ ฉันมั่นใจมาก ๆ และวิธีที่จะทำให้งานลุล่วงไปได้ ก็คือต้องโฟกัสกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเท่านั้น คงมีอีกหลาย ๆ เรื่องที่เราต้องพูดกัน ในโอกาสอื่น ๆ หลังจากนี้ แต่สิ่งที่ฉันต้องโฟกัสในขณะนี้ก็คือการจัดงานที่ต้องถ่ายทอดสดไปทั่วโลก และจะมีตัวแทน 95 คน จากประเทศต่าง ๆ มีเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องทำอีกมากมาย เพราะนี่คือโชว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรากำลังจะจัดงานนี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เรื่องอื่นๆ คงต้องเอาไว้พูดกันในภายหลัง ตอนนี้ฉันอยากจะบอกว่า ฉันรู้สึกซึ้งใจมาก ไม่ใช่จากหุ้นส่วนของเราเท่านั้น แต่รวมถึงรัฐบาลไทยที่ให้การสนับสนุน และคนไทยด้วย ที่ฉันทราบดีว่าตื่นเต้นกับงานที่กำลังจะเกิดขึ้น และจะให้ความช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี”
“ส่วนเรื่องการโปรโมตนั้น เราสื่อสารผ่านทาง Twitter, Facebook และ IG อยู่แล้ว, สตีฟ ฮาร์วีย์ พิธีกรของเราแทบจะเป็นอันดับ 1 ในด้านโซเชียลมีเดีย เขาคือพิธีกรคนเดียวที่มีรายการในสถานีโทรทัศน์หลักทุกช่อง งานของเราได้รับความสนใจอยู่แล้ว หลังจากนี้เราจะเผยแพร่ข่าว และเรื่องราวของผู้เข้าประกวดออกไปเรื่อย ๆ ปีนี้เรามีผู้ประกวดที่เป็นคนข้ามเพศเป็นครั้งแรกด้วย งานประกวดปีนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย จากผู้เข้าประกวดที่มาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก”
ด้านคุณ “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” กรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น 2018 จำกัด ได้เผยถึงที่มาในการมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ “ตี๋ แมทชิ่ง” และสร้างความเชื่อมั่นว่าจะไม่ทำให้ประเทศไทยต้องเสียชื่ออย่างแน่นอน
“จริงๆ แล้วกับพี่ตี๋เราเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในวันที่ เป็นสิ่งเดียวที่คิดว่าพี่ๆ และคนไทยทั้งประเทศ พวกเรามีเลือดไทยที่เข้มข้นและรุนแรงมาก อะไรที่เราจะเสียชื่อเสียหน้า เราจะไม่มีวันยอม เพราะฉะนั้นวันนี้อยากจะกราบขอความกรุณาทุกๆ คน มารวมพลังกัน ปุ้ยไม่มีความรู้เรื่องโปรดักชั่น แต่มีความรู้เรื่องการตลาด และมีความศรัทธาเชื่อถือ ในโปรดักชั่นของพี่ตี๋ คำว่า ตี๋ แมทชิ่ง มันยิ่งใหญ่ แล้ววันที่เดินเข้ามาหารือกันว่าประเทศไทยต้องไม่เสียชื่อ แล้วที่สำคัญพี่ตี๋อยากจะบอกว่าคนไทยเราทุกคน เราทำงานใหญ่ได้ เราจะต้องประกาศศักดาให้เพื่อนบ้านของเรา ให้ทุกคนได้รู้ว่านี่คือประเทศไทย จัดงานใหญ่ได้ขนาดนี้ ต้องติดตามชมค่ะ เรามารวมตัวกันและเกิดวันนี้ขึ้นมา ขอบคุณค่ะ”
ฟาด “ณะ ณรงค์ เลิศกิตศิริ” กรรมการบริหาร บริษัท ทีพีเอ็น 2018 จำกัด กล่าวเสริมว่า “เรารู้จักกับพี่ตี๋มาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะปี 2005 พาซาญ่าในเวลานั้น ก็ซัปพอร์ตเรื่องผ้าสำหรับใช้ในการประกวด แต่เราก็เป็นแค่ตัวเล็กๆ ในการผลิตผ้า แล้วโดยส่วนตัว ก็สนิทกับพี่ปุ้ยมากๆ เหมือนครอบครัวเดียวกัน วันหนึ่งที่เรามานั่งคุยกัน พี่ปุ้ยบอกมาช่วยหน่อย ช่วยประเทศชาติ ก็คุยกันและมีการคุยกับพี่ตี๋อีกครั้ง แล้วก็เป็นที่มาที่ไปในการรวมตัว ทีพีเอ็น 2018 เรามีเวลาคิดน้อยมาก แต่สิ่งที่เรามองเห็นแล้วเรามองซึ่งกันและกัน คือศักยภาพในตัวบุคคล”
“สิ่งที่ณะมองเห็น ที่รู้จัก ตี๋ แมทชิ่ง มาเป็นเวลานาน เราอยู่ในวงการแฟชั่น วงการสื่อ ทั้งหมดทั้งมวลวงการโปรดักชั่น แน่นอนต้องรู้จัก ตี๋ แมทชิ่ง สิ่งที่เรามีในวันนั้นคือความมั่นใจในการทำโปรดักชั่นของพี่ตี๋นะครับ ว่าต้องไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย และขายขี้หน้า ไม่ทราบว่าในอดีตคือใคร อะไรยังไง วันนั้นยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ แต่ตบปากรับคำว่าโกอะเฮด เนื่องจากว่าจะถูกถอนการประกวดจากประเทศไทยไม่ได้ ซึ่งมันก็ตรงกับความรู้สึกมาโดยตลอดว่า อะไรที่เป็นไปไม่ได้ ต้องทำให้ได้ นี่คือคติประจำใจมาตั้งแต่เด็ก”
“เหตุการณ์นี้ก็เช่นเดียวกัน ทุ่มพลังความสามารถ ความคิด ทุกสิ่งทุกอย่างลงไป เราเป็นคนที่ทุกท่านก็ทราบ เรื่องของพาซาญ่า เป็นอะไรที่ฟุ้งเฟ้อ เพ้อฝัน ก็เป็นคนแบบนั้น แต่คนที่ทำให้ความฝันทั้งหมดเป็นจริงและลงตัวในโปรดักชั่นระดับชาติ ระดับโลก คือตี๋ แมทชิ่ง นั้นคือสิ่งที่เรามั่นใจที่สุด รวมถึงคุณปุ้ยที่เป็นเพื่อนรักมาตลอด เก่งมากเรื่องมาร์เก็ตติ้ง เราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เพราะฉะนั้น 3 พาร์ตที่มันลงตัวกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างศักยภาพ และให้ชาวโลกรู้ว่าประเทศไทยทำได้ มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในหัวใจจริงๆ”
“เราก็กระโดดเข้ามาทำอย่างที่พี่ตี๋บอก ไม่เคยนอนตี 3 ตี 4 มาเป็นปี ปัจจุบันนี้ก็กลับมาทำแบบนั้นอีก ก็ทุ่มเททุกอย่างเพื่อพวกเรา และเพื่อชาวไทยทอย่างที่เห็นนี่แหละครับ ผมเชื่อว่าสื่อมวลชนที่อยู่ตรงนี้ เห็นแบบนี้แล้วความมั่นใจต้องเกิดครับ ว่าประเทศชาติได้อะไร เมื่อกี้มีน้องถามว่าประเทศจะได้อะไร นี่แหละครับ ถ้ามีความรู้สึกมีความสุข ก็นั่นแหละ ความสุขของคนไทยทั้งชาติ แล้ววันนี้ก็ต้องพึ่งน้องๆ ทุกท่านเหมือนกันว่าจะสื่อความหมายเชิงบวกแบบนี้จากพวกเรา ออกไปสู่สังคมไทย และสังคมชาวโลกอย่างไร เรามาเดินหน้าเพื่อประเทศไทย มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นี่คือการรวมตัวและลงตัวของเราสามคน ทีพีเอ็นครับ”
ขอบคุณพาร์ตเนอร์ทั้งสองคน ทีมงานที่ทุ่มเทเต็มที่
“ก็ปิดท้ายนะครับ ก่อนอื่นขอขอบคุณคุณปุ้ย คุณณะ ที่เห็นความสำคัญกับงานนี้ ขอบคุณทีมงาน ขอบคุณจากใจจริงๆ เราไม่ได้นอนกันจริงๆ วันหนึ่งเฉลี่ย 2 ชั่วโมงก็เก่งแล้ว เราทำงานกลางวัน เขากลางคืน เราก็ต้องส่ง เขาตื่นเราก็ยังต้องทำงาน เป็นอยู่อย่างนี้ เลทมาก ทุกคนเหนื่อยจริงๆ เราจะเหนื่อยกันอีกแค่อึดใจเดียวครับ อีกไม่ถึง 2 เดือน แล้วเรามาฉลองปีใหม่ร่วมกันครับ ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านด้วยใจจริงๆ ครับ ขอบคุณครับ”
สำหรับข้อมูลข่าวสารการประกวด Miss Universe 2018 สามารถอัปเดตได้ทาง 2018missuniverse.in.th พร้อมนับถอยหลังร่วมลุ้นว่าสาวงามจากประเทศใดจะได้สวมมงกุฎอันทรงเกียรติในรอบ การตัดสิน Final Round วันที่ 17 ธันวาคม 2561 เวลา 07.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)