“นิ้ง โศภิดา” ทุ่มสุดตัว ฝึกพูด-เดิน ออกกำลังกาย กินคลีน ปรับลุคให้ผิวสีแทน หาความรู้ประดับสมองอยากรู้ให้เท่าทันทุกเหตุการณ์บนโลก ภูมิใจฟีดแบ็กหลังกองประกวดฯ ปล่อยของในชุดว่ายน้ำ คุ้มค่ากับสิ่งที่ทำ แย็ปถามเคล็ดลับจากมิสยูนิเวิร์ส 2017 ด้านนางงามโลกชื่นชมนิ้งสวยและพร้อมมาก 2 รุ่นพี่นางงามเชื่อมั่นในศักยภาพ
แม้จะมีประเด็นดรามาก่อนหน้านี้ แต่ล่าสุด ก็ได้มีการจัดงานแถลงข่าวความคืบหน้าในการจัดงาน Miss Universe 2018 ซึ่งเมืองไทยเป็นเจ้าภาพ โดย 3 นางงาม น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016, มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 และ นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ปีล่าสุด มาร่วมแถลงข่าวด้วย ณ ห้องนภาลัย บอลรูม โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โดยทั้งสามเผยว่ายิ่งใกล้วันประกวดก็ยิ่งตื่นเต้น วอนคนไทยช่วยเชียร์นิ้ง
นิ้ง : “ใกล้วันประกวดเข้ามาแล้ว นิ้งก็รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่จัดที่บ้านเราด้วย เห็นบรรยากาศบนเวทีแล้วน้ำตาคลอเลยค่ะ และตื่นเต้นด้วย ความพร้อมตอนนี้ก็ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ ที่ผ่านมานิ้งฝึกเดินและฝึกพูด ไปเรียนการแสดง ไปเรียนทุกอย่างที่จะทำได้ค่ะ”
มารีญา : “วันนี้เห็นบรรยากาศแล้วตื่นเต้นแทนนิ้งค่ะ เห็นการจัดที่อลังการ รู้เลยว่าการจัดครั้งนี้คงเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก และแฟนนางงามที่เมืองไทยมีเยอะมาก เป็นอะไรที่ดีมากที่จะได้มาสัมผัสมิสยูนิเวิร์สจริงๆ ถามว่าได้แนะนำอะไรมั้ย เพิ่งได้เจอนิ้งวันนี้เองค่ะ แต่ว่ามารีญาเชื่อมั่นในน้องนิ้งค่ะ นิ้งเป็นผู้ที่แข็งแรง มีความรู้เยอะ ให้เป็นตัวของตัวเอง ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่หลายๆ คนจะพูดในหลายๆ ด้านมาก มารีญาก็แค่อยากแนะนำว่าเราแค่ฟังมัน แต่อย่าเก็บมาเป็นทุกข์ มารีญาว่าทุกคนต้องสร้างกำลังใจให้กับน้องนิ้ง เพราะน้องนิ้งเป็นตัวแทนของคนไทยทุกคนค่ะ”
น้ำตาล : “ให้นิ้งทำทุกอย่างให้เต็มที่ที่สุดค่ะ เราได้ตัวแทนประเทศไทยมาแล้ว ตาลก็อยากให้ทุกคนให้กำลังใจ และอยากให้เชื่อมั่นในตัวนิ้งว่าจะทำออกมาได้ดีและเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบค่ะ อย่างที่พี่มารีญาบอกค่ะต้องเป็นตัวของตัวเอง และทำทุกอย่างทุกโมเมนต์ให้สนุกกับมันค่ะ”
แฮปปี้ฟีดแบ็กชุดว่ายน้ำ ที่กองประกวด Miss Universe Thailand ปล่อยภาพออกมาและได้รับกระแสที่ดี ออกกำลังกายทุกวันช่างคุ้มค่า
นิ้ง : “รู้สึกว่าการออกกำลังกายทุกวันมันคุ้มค่าเหลือเกินค่ะ นิ้งออกกำลังกายวันละ 2 ชั่วโมงค่ะ แต่ที่โหดที่สุดก็คือจะต้องกินคลีนค่ะ (เหมือนปรับลุคตัวเองให้ผิวสีแทน?) ช่วงนี้นิ้งไปทะเลบ่อยมาก เหมือนไปอาบแดดให้ผิวเข้มขึ้นนิดนึง แล้วผิวสีนี้ก็จะเห็นซิกแพ็กนิดนึง(หัวเราะ) ส่วนสิ่งที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติมตอนนี้ก็คือ เหลืออีก 29 วันก่อนประกวด นิ้งก็ฝึกฝนเรื่อยๆ ค่ะ ทั้งเรื่องการเดินและความรู้ เพราะความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด มีข่าวใหม่มาทุกวันนิ้งก็ต้องรู้เท่าทันเหตุการณ์ค่ะ วันนี้ก็มีโอกาสเจอเดมี ลีห์เนล ปีเตอร์ส (มิสยูนิเวิร์ส 2017) ก็ได้ทักทายและถามเคล็ดลับ แต่เคล็ดลับขอเก็บเอาไว้นะคะเพราะเดี๋ยวต่างชาติรู้ค่ะ(หัวเราะ)”
ฝากทุกคนเชียร์นิ้ง
มารีญา : “ใกล้เข้ามาแล้วนะคะ ตัดสินวันที่ 17 ธันวาคม นี้ ช่วยส่งกำลังใจและแรงเชียร์ให้กับน้องนิ้ง เปิดทีวีเชียร์น้องนิ้งด้วยค่ะ”
น้ำตาล : “ตาลก็อยากให้ทุกคนตื่นเช้ามาพร้อมเพรียงกันนะคะ(หัวเราะ) เพื่อที่จะมาเป็นกำลังใจให้กับตัวแทนประเทศไทยของเรา ให้คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2018 ให้ได้ค่ะ”
เชื่อสายสะพายไทยแลนด์ แข็งแรงและสตรอง
นิ้ง : “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่ๆ (มารีญา-น้ำตาล) ก่อนเลย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับไม้ต่อจากพี่ๆ นิ้งขอกำลังจากแฟนๆ นะคะ ปีนี้เราเป็นเจ้าภาพ สายสะพายไทยแลนด์แข็งแรงและสตรองมาก อยากให้เชียร์และเป็นกำลังใจให้นิ้งเยอะๆ นะคะ และมาเป็นเจ้าภาพที่ดี เทคแคร์ 90 กว่าประเทศ บ้านเราบริการดีและน่ารักกันทุกคนด้วยค่ะ”
ด้าน “เดมี ลีห์เนล ปีเตอร์ส” มิสยูนิเวิร์ส 2017 ได้เปิดใจในฐานะที่คว้ามงกุฎมาครอง พร้อมแนะนำผู้เข้าประกวดว่า “ไม่ง่ายเลยที่มาสู้ประเทศที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ทั้งภาษา อาหาร และวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนมันไม่ง่ายเลย แต่ถ้าจะต้องมาแข่งขันจริงๆ มีวิธีง่ายๆ เลยและเป็นวิธีที่ฉันใช้เองด้วย นั่นก็คือการรู้จักตัวเอง ไม่ต้องปล่อยให้คนอื่นตัดสิน รู้ว่าตัวเองชอบอะไร วางเป้าหมายชีวิตตัวเองว่าต้องการไปอย่างไร เพราะถ้าเขาเลือกเรานั่นหมายถึงคุณจะเป็นหน้าตาและเป็นตัวแทนของประเทศนั้น แล้วประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นในชีวิตของสาวๆ ทั้ง 95 ชีวิตอีกเลย เพราะฉะนั้นตักตวงความสุขและความทรงจำให้มากที่สุด”
“กับมารีญาเธอเป็นมากกว่าเพื่อน ตอนนี้เธอเป็นเหมือนพี่น้องฉัน ส่วนมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 มีโอกาสได้เจอหลังเวที เธอดูพร้อม เธอสวยงามมาก และยังเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มากเพราะเป็นเจ้าภาพด้วยต้องดูแลเพื่อนๆ อีก 90 กว่าชีวิต ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาฉันได้ประสบการณ์ใหม่ที่ในชีวิตไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสแบบนี้ แต่ก็ถึงเวลาแล้ว ทุกอย่างมีวันจบ และถึงเวลาที่จะเริ่มเขียนชีวิตบทใหม่ในอนาคตของตัวเอง”