ชีวิตอยู่ยาก “มีน พีรวิชญ์” เผยเป็นโรคภูมิแพ้สารเคมีกว่า 40 ชนิด ทั้งน้ำหอม สกินแคร์ เครื่องสำอาง เครื่องหนัง รองเท้าหนัง ถุงมือยาง เนื้อวัว สารภาพเกือบตายเพราะแพ้อาหารทะเล แอดมิทด่วน ไม่รู้ผลพวงจากกรณีที่ตนเป็นเด็กหลอดแก้วหรือเปล่า โอดหวั่นสเตียรอยด์ตกค้าง - ฉีดยับยั้งทุกครั้งที่อาการกำเริบ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตระวัง
แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่เพราะด้วยหน้าใสๆ ที่อวดความหล่อในซีรีส์วายชื่อดัง “บังเอิญรัก” ในบทบาทของ “ติณณ์” รวมไปถึงล่าสุดกำลังเป็นหนึ่งนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง BLOOD VALENTINE ของค่ายโมโนฟิล์ม แต่ใครจะรู้ว่าหน้าใสๆ อย่าง “มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร” ต้องใช้ชีวิตลำบากแค่ไหน กับการเป็นโรคภูมิแพ้ที่แพ้สารเคมีต่างๆ รอบตัวกว่า 40 ชนิดบวกกับเจ้าตัวเกิดมาจากเทคโนโลยีการทำเด็กหลอดแก้ว จึงทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันหนุ่มคนนี้ต้องระมัดระวังตัวมากแค่ไหน แถมถ้าอาการกำเริบขึ้นเมื่อไร ก็ต้องใช้สเตียรอยด์ในการระงับอาการที่เกิดขึ้นทันที
“เป็นโรคภูมิแพ้หลายชนิดมาก คือตอนเด็กๆ ก็ไม่แน่ใจว่าเราเป็นอะไรกันแน่ แต่พอเราโตขึ้น อาการมันเริ่มแสดงออก ด้วยการที่พักผ่อนไม่พอ นอนน้อย หรือบางสิ่งที่มากระตุ้นที่เรา เลยทำให้เกิดมีเอฟเฟกต์มาถึงตัวเรา อย่างตอนเด็กๆ ผมก็ไม่ได้สงสัยว่ามันเกิดจากอะไร อาจจะเกิดจากการแพ้อากาศมาก่อนก็ได้นะ และก็แพ้มด แต่พอโตขึ้นมาก็เพิ่งรู้ว่าแพ้หลายอย่างเช่นกัน ล่าสุดเพิ่งไปตรวจภูมิแพ้มา แพ้ไปกว่า 30-40 สารเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่ที่แพ้ แพ้เลยก็พวกสารกันเสีย น้ำหอม แทบจะอยู่ในส่วนของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ และเครื่องสำอางทุกอย่างเลยทีเดียว และที่แพ้แปลกๆ ก็แพ้เครื่องหนัง รองเท้าหนัง ถุงมือยาง คืองงว่ามันแพ้ด้วยเหรอ แต่ก็พยายามเลี่ยงๆ”
“และทุกวันนี้สิ่งที่แพ้ใกล้ตัวเรามากที่สุดคงเป็นพวกสกินแคร์ เพราะเราต้องแต่งหน้า ทำผมทุกวัน อย่างเวลาเราไปซื้อของจำพวกนี้ก็ต้องอ่านว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง และก็เปิดในคู่มือว่ามีส่วนผสมอันไหน ที่เราแพ้บ้าง ถามว่าใช้ชีวิตยากขึ้นมั้ย ก็ยากขึ้นนะ แต่ก็ต้องลองดู เผื่อสุขภาพจะดีขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ลำบากมากนะ มันจะลำบากแค่ตอนที่เราต้องเลือกสรรว่าอะไรจะเหมาะกับเรา ใช้อะไรแล้วไม่แพ้ อย่างอื่นถ้าเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง อย่างรองเท้าหนังถ้าจะใส่ก็ต้องใส่ถุงเท้าก่อน แต่เราก็ไม่เคยใส่เปล่าๆ โดยไม่ใส่รองเท้าอยู่แล้ว ก็เลยไม่แน่ใจว่าอาการแพ้มันจะเป็นยังไง หรืออย่างถุงมือยางเราก็ไม่ค่อยได้ใส่อยู่แล้ว”
เพิ่งรู้แพ้เนื้อวัวด้วย
“อย่างแพ้ที่แปลกมากๆ คือแพ้เนื้อวัว ไม่รู้ว่ามันแปลกมั้ย แต่ก่อนหน้าที่จะไปตรวจมา เราก็ทานปกติ และเพิ่งว่ารู้ว่าแพ้เหรอ หรืออาหารทะเลผมก็แพ้เหมือนกัน บวกกับปกติแล้วเป็นคนไม่ทานผักผลไม้ด้วย เลยทำให้ตัวเลือกในการรับประทานอาหารเหลือน้อยลงไปอีก (หัวเราะ) ทุกวันนี้ก็พยายามทานผักเพิ่มมากขึ้น เผื่อเพิ่มตัวเลือกขึ้น ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าให้เราหยุดทานเนื้อสัก 6 เดือนเพื่อจะดูว่ามันจะมีอาการเป็นยังไงบ้าง แต่อาจจะกลับไปทานได้ แต่ก็ต้องระวังนิดนึง”
“เพราะเวลาที่เราแพ้มากๆ อย่างเราแพ้อาหารทะเล เราก็จะเหมือนคนทั่วๆ ไป แต่อาจจะบวมมากกว่าคนอื่น จนต้องเข้าแอดมิทที่โรงพยาบาลเลย หรือถ้าทานแล้วไปออกกำลังกาย ก็แพ้จากทางผิวหนัง ที่ออกมาเป็นเหงื่อ เพราะสารที่เราแพ้มันก็จะออกในรูปแบบของเหงื่อ ทำให้ผื่นขึ้น หรือมดที่ผมแพ้ก็จะเป็นรอยตามที่มดไต่เลยครับ รู้เลยว่ามดมันกำลังเดินทางไปจากตรงไหนถึงตรงไหน แต่ที่บ้านก็จะระวังมาก เพราะเราเป็นภูมิแพ้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ที่บ้านค่อนข้างที่จะสะอาดมาก หรืออย่างตอนนี้มาอยู่หอพักแถวมหาวิทยาลัย เราก็ต้องทำความสะอาดห้องบ่อยๆ หรือถ้าทำเองไม่สะอาดก็ต้องจ้างคนมาทำบ่อยๆ มีเครื่องกรองอากาศ แต่ไม่ถึงกับเป็นห้องปลอดเชื้อ อย่างเสื้อผ้ามีไรฝุ่นเกาะเยอะๆ เราก็พยายามเอาอะไรใสๆ มาคลุม ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อมาเช็ดมือ”
เซฟตัวเองให้มากที่สุด
“ถามว่าทุกวันนี้ใช้ชีวิตยากมั้ย ผมก็เคยคิดเหมือนกันว่าถ้าวันนึงต้องต้องไปใช้ชีวิต หรือไปทำงานที่ต่างจังหวัด เข้าป่า มันจะลำบากแค่ไหน ผมก็ต้องพยายามปกป้องตัวเองให้มากที่สุด หรืออย่างเวลาไปถ่ายทำที่โกดังก็ต้องเซฟตัวเอง ต้องปิดปากด้วยแมส หรืออย่างเวลาเรียน รด. ก็จะมีหนักช่วงเข้าค่าย ก็อาจจะมีฝุ่น กลับมาจากเข้าค่ายก็ป่วยไปเลย”
“ตอนที่แพ้สุดๆ ก็คงเป็นตอนเด็ก เพราะตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่าเราแพ้อะไรบ้าง เราไปทะเล เรากินอาหารทะเลเยอะมาก และก็ไปเล่นบอลที่ชายหาดกับญาติ เล่นไปสักก็ปวดๆ ตา ตอนแรกก็นึกว่าทรายเข้าตา ญาติก็ถามว่าเป็นอะไร ทำไมตาบวม บวมทั้งตัว มันก็เริ่มบวมทั้งหน้า สุดท้ายก็พาไปส่งโรงพยาบาล สุดท้ายก็แพ้อาหารทะเล”
ไม่แน่ใจเกี่ยวกับกรณีที่ตนเป็นเด็กหลอดแก้วด้วยหรือไม่
“อาการแพ้กว่า 40 ชนิดที่ผมเพิ่งไปตรวจ ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดจากการที่เราเป็นเด็กหลอดแก้วมั้ย อันนี้ไม่แน่ใจเลยครับ มันแล้วแต่กรณีด้วย แม้เราจะเป็นเด็กหลอดแก้วก็จริง แต่เราก็รับสารสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว หรืออย่างช่วงที่ผ่านมาก็จะมีแปะแผ่นเทส เพื่อจะได้ทดสอบว่าเราแพ้อะไรบ้าง แต่พอเรารู้เยอะ ยิ่งลำบากใจ ใช้ชีวิตยิ่งยากขึ้น (หัวเราะ) แต่พอเรารู้เยอะก็ดีแล้วครับ เราจะได้ใช้ชีวิตให้ถูก ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย”
“อย่างตอนนี้เราเข้าวงการมาแล้ว ถามว่าต้องระวังตัวแค่ไหน โอเคมันเป็นงานที่ต้องเจอคนมากมาย แต่อาจจะไม่ได้ต้องสัมผัสตัวอะไรมากมาย อย่างมากก็แค่จับมือหรือถ่ายรูปใกล้ชิดกัน แต่บางทีเรามีปัญหาคือบางงานเราได้ดอกไม้เยอะๆ และเราเอาดอกไม้พวกนี้ไว้ในรถเพื่อขนกลับบ้าน บางทีเราดอกไม้ไปเก็บแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังละอองเกสรค้างคาไว้ในรถ ช่วงนั้นก็ต้องรีบเอารถไปเข้าคาร์แคร์ ล้างทำสะอาดอย่างเต็มที่ เพื่อจะป้องกัน อย่างมีช่วงนึงไม่ได้เอาไปล้าง ใช้ชีวิตอยู่แบบนั้น 2 อาทิตย์โดยยังไม่เอาไปล้าง ก็ป่วยแบบยาวๆ ไป พอเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เราก็รู้แหละว่าเราแพ้อะไรเพิ่มขึ้นบ้าง”
บอกไม่ใช่คุณชายคลีนนิ่ง แค่พยายามดูแบตัวเองตามคำแนะนำของคุณหมอ
“ไม่ถึงกับเป็นคุณชายคลีนนิ่งตลอดเวลานะครับ เพียงแต่เราก็พยายามดูแลสุขภาพ คุณหมอก็บอกว่าเราทำตัวปกติเหมือนที่คุณหมอแนะนำ นอนให้ตรงเวลา กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาด ทำความสะอาดห้องบ่อยๆ ถ้าเราใช้ชีวิตเหมือนที่คุณหมอแนะนำ มันก็จะโอเค (แล้วถ้าเราแต่งงานไป แฟนเราจะต้องระมัดระวังแค่ไหน?) ก็คงต้องหาคู่ชีวิตที่สบายๆ (หัวเราะ) ใช้ชีวิตเหมือนเรา”
ไม่รับงานกินผักผลไม้ หวั่นใจเสียโอกาสเพราะภูมิแพ้
“ในส่วนของเรื่องงานผมก็ไม่ได้เลือกอะไรมากเพราะงานที่เข้ามาส่วนใหญ่ บางงานที่ไม่ตรงกับเรา เราก็จะไม่รับ อย่างงานกินผักผลไม้ ผมก็ไม่รับเพราะมันไม่ตรงกับเราด้วย หรือถ้าเรารับแล้วไปออกงานให้เขา ทั้งๆ ที่เราไม่ใช้จริง มันก็ดูไม่จริงใจ เราจึงเลือกรับงานที่เราสามารถทำได้จริงๆ สามารถเพิ่มเสริมภาพลักษณ์แบรนด์เขาได้จริงๆ ครับ เรื่องกลัวเสียโอกาสเพราะแพ้สกินแคร์ก็กลัวบ้างครับ แต่ก็มีสกินแคร์บางตัวที่เรารับและร่วมโปรโมตกับเขาอยู่ เราก็ใช้อยู่ ใช้ได้และใช้ดี”
หมอแนะให้นอนก่อน 4 ทุ่ม ลดสเตียรอยด์ 7 วัน เหลือแค่ 2 วัน
“คุณหมอก็ขอว่าให้เรานอนก่อน 4 ทุ่มได้มั้ย พักผ่อนให้ครบ 8 ชม. แต่บางวันเราออกกอง ถ่ายโฆษณายังไงมันก็นอนก่อน 4 ทุ่มไม่ได้หรอก แต่พยายามนอนให้เร็วสุด เพราะหลังจากที่เราไปทำการเทสมา อาการก็ดีขึ้นครับ เพราะก่อนหน้านั้นเราต้องสเตียรอยด์ 7 วันเพื่อยับยั้ง แต่พอหยุดสเตียรอยด์มันก็กลับมาเป็นอีก แต่พอเรารู้แล้วว่าเราแพ้อะไร เราก็พยายามหลีกเลี่ยง ลดสเตียรอยด์ลง จากเมื่อก่อนใช้ 7 วันติด ก็ลดลงเหลือ 2 วันและควบคู่กับยาตัวอื่นแทน เพราะเราก็กลัวว่าสเตียรอยด์มันจะตกค้างด้วย คุณหมอก็จะแนะนำวิธีใช้ว่าใช้ยังไงให้ตกค้างน้อยที่สุด อย่างอื่นเราก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสเตียรอยด์เลย อย่างเป็นสิวก็จะไม่ฉีดเลย รอให้มันยุบหรือไม่ก็ใช้วิธีการแต่งหน้ากลบเกลื่อนไปมากกว่า”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)