"บูม จิรัสพิสิษฐ์" ยืนกรานไม่รู้เรื่องคดีบิตคอยน์ 800 ล้าน ช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้น พ่อแม่ก็ช็อกด้วย บอกได้แต่ให้กำลังใจกันและกัน เคยร้องไห้แต่ไม่ถึงขั้นฆ่าตัวตาย ขอร้องอย่าเพิ่งตัดสิน ปล่อยผ่านคนพูดไม่ดีใส่ ทำใจมีผลกับงานในวงการ
ถือว่าเป็นข่าวที่น่าตกใจเหมือนกัน สำหรับนักแสดงวัยรุ่นน้องใหม่ “บูม จิรัสพิสิษฐ์ จารวิจิต” ที่อยู่ๆ ก็ถูกตำรวจกองปราบเรียกตัวมาสอบสวนในกรณีที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับพี่ชายคนโตที่กำลังโดนข้อหาฉ้อโกงเงินชาวฟินแลนด์ให้ร่วมลงทุนธุรกิจเงินบิตคอยน์ จนสูญเงินไปกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดเจอหนุ่มบูมในงานเปิดตัว My Dream The Series นายในฝัน ณ คอร์ด 6 ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด เจ้าตัวก็เผยว่าสภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว เพราะมีหลายคนที่คอยให้กำลังใจและคอยอยู่รอบข้างตลอดเวลา
"ดีขึ้นแล้วครับ จากที่ตอนแรกก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ผมโชคดีด้วยแหละครับที่ตอนที่ผมโดนเรื่องนี้มีคนเข้ามาอยู่ใกล้ๆ และเป็นกำลังใจให้ผม คือเราไม่ได้อยู่คนเดียวเลยครับ ก็มีพี่ที่ทำงาน มีพี่ๆ ในกองที่คอยเป็นกำลังใจและอยู่กับผมตลอดเวลา"
"แต่ตอนนั้นยอมรับว่าช็อกมากเลยครับ ผมไม่คาดคิดเลย เพราะผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด ตอนโดนก็ยังถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา พยายามติดต่อคนในบ้าน แต่ก็ติดต่อไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็มีพี่ทีมงานเข้ามาปลอบ"
"ถามว่ารู้สึกยังไงคือมันไม่มีใครที่เขาอยากมีคดีหรอกครับ ซึ่งตัวผมเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน แต่มันเป็นประสบการณ์มากกว่า เพราะผมมองในแง่ดีว่าอย่างน้อยๆ เราก็รู้ว่ามีใครอยู่ข้างเราบ้าง และตอนเราไม่ดีใครคอยช่วยเรา ให้กำลังใจเรา คือผมโดนกระแสหนักมาก ซึ่งตัวผมก็ค่อนข้างเสียใจ เราไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเราก็ไม่รู้เรื่อง"
"ช่วงที่ผ่านมาผมก็ยังใช้ชีวิตปกติ ไปกินข้าวปกติ แล้วก็มีคนที่เขาพอจะจำเราได้ แล้วก็พูดขึ้นมาว่าไปขอถ่ายรูปเขาสิ แล้วก็พูดจาไม่ค่อยดี เราก็ไม่คาดคิด แต่ก็ช่างมัน เพราะเรารู้ตัวอยู่ว่าเราทำอะไร เราเป็นคนแบบไหน เราห้ามเขาไม่ได้ แต่เราห้ามตัวเองได้"
บอกเคยเครียดจนร้องไห้ แต่ไม่คิดสั้นฆ่าตัวตาย ยืนยันพ่อแม่ก็ไม่รู้เรื่องด้วยมาก่อน
"ถามว่าเคยร้องไห้กับเรื่องนี้มั้ย เคยครับ มันเครียดครับ และมองว่ามันไม่ใช่เรื่องของเราน่ะครับ และไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับเราเลยในชีวิตนี้ แต่ตอนนี้ก็ไม่ร้องแล้วครับ แต่ผมก็ยังรู้สึกดีที่ตอนผมแย่ๆ มีคนอยู่ข้างๆ ผม คอยให้กำลังใจ ทุกคนคอยผลักดันเราขึ้นมาให้รู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนะ แต่ไม่เคยถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายนะครับ ต่อให้แย่แค่ไหนผมยังคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ผมอยู่ตลอดเวลา"
"คุณพ่อคุณแม่ท่านก็ช็อกนะครับ เพราะตัวท่านเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน เหมือนผมเลย ซึ่งท่านก็ไม่คาดคิดและท่านก็พยายามบอกว่าเราสู้ไปด้วยกันนะ เหมือนเป็นกำลังใจให้กันน่ะครับ แล้วผมก็บอกแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ เราก็พยายามทำของเราเต็มที่ในส่วนที่เราสามารถทำได้ครับ"
"ถ้าเป็นงาน เราก็ต้องรับผิดชอบในงานครับ ผมรู้สึกว่าผมต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่ผมทำ คือพี่ๆ ที่ออฟฟิศก็เป็นห่วงเรา เราก็พยายามทำให้ทุกอย่างมันดีที่สุดในทุกๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะทางบ้าน ทางสังคม ทางครอบครัว เราพยายามทำให้ทุกอย่างดีที่สุด"
"ถามว่ามีผลกับงานมั้ย แรกๆ ผมก็เครียดเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่โชคดีที่ทางบริษัทหรือพี่ทุกๆ คนเข้าใจว่าเราไม่ได้ทำอะไร เพราะผมก็คุยกับเขาและทุกคนก็เข้าใจครับ"
วอนอย่าเพิ่งตัดสินใจตนในตอนนี้ เพราะทุกอย่างยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการตัดสินผิดถูกใดๆ ทั้งสิ้น
"สำหรับแฟนคลับผมก็ต้องขอบคุณทุกๆ คนเลยนะครับ ที่ผ่านมาก็มีทั้งที่ดีและไม่ดี ผมขอบคุณทุกๆ คนเพราะมีทั้งส่งกำลังใจมาให้ และมีทั้งไดเร็กไอจี ก็ขอบคุณมากสำหรับคนที่เป็นห่วงและส่งกำลังใจมาให้ผม ก็ขอบคุณจริงๆ ครับ สำหรับคนที่เข้ามาคอมเมนต์ต่อว่า ผมมองว่ามันก็ดี ทำให้เรารู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้น เราไม่ได้ทำอะไรเลย แต่มันก็ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันตรงนี้มากขึ้น ผมก็ยอมรับว่าผมเองก็ใหม่ ก็ปรึกษาพี่ๆ เขาเยอะเหมือนกันว่าจะทำยังไงดี พี่เขาก็ให้คำปรึกษาว่าเราห้ามเขาไม่ได้ เราห้ามคนไม่ได้ เราห้ามได้แค่ตัวเราเอง"
"คือตัวเราอยากให้มองว่าเหรียญมันมีสองด้าน เรื่องมันยังไม่ทันถึงไหนเลย เพราะยังไม่ได้ไปถึงขั้นไหน แต่คนตัดสินไปแล้ว ซึ่งทางผมเองก็เป็นทางทนายจัดการ ตัวผมไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ไม่ได้มาโกหกอะไร แต่ผมไม่รู้จริงๆ ตอนนี้เรื่องก็ให้ทางทนายติดตามอยู่ครับ ล่าสุดก็มีไปที่ศาล แต่เขาก็กำลังพิจารณาว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ซึ่งเรื่องมันยังไม่ได้ประทับฟ้องเลย ยังอยู่ในขั้นสืบสวนอยู่เลย"
"ถามว่าข่าวนี้จะทำให้มีผลต่ออนาคตในวงการของผมมั้ย ผมคิดว่าก็คงมีครับ เพราะตัวเราเองเราก็รู้สึก แต่ผมทำในส่วนที่ผมทำได้ ทำในสิ่งที่ผมรัก ผมก็เลยทำ ผมก็ได้แค่บอกตัวเองว่าเราทำดีที่สุดนะ สุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไงเราตัดสินเองไม่ได้ครับ"
"ผมก็อยากจะขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ พี่น้องทุกๆ คนและคนที่อยู่รอบข้างผม คนที่คอยเป็นกำลังใจให้ผมทั้งที่ดีและไม่ดีนะ ขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้ผมโตขึ้นครับ แต่ก็อยากจะขอร้องว่าอย่าเพิ่งตัดสินผม คือผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร แต่ผมขอร้อง เพราะเรื่องมันไม่มีอะไรจริงๆ ครับ"
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)