xs
xsm
sm
md
lg

“แตงโม” แซะ “เอิร์ก” ซึ่งหน้า หากินกับคนตาย ไม่แสดงออกซึ่งความเสียใจ เข้าข่ายโรคมโน อวดรวย!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“แตงโม นิดา” ขอแซะ “เอิร์ก เลเดอเรอร์” ซึ่งหน้า ถามสิ่งที่คาใจ หากินกับคนตาย ไม่แสดงออกซึ่งความเสียใจ เข้าข่ายโรคมโน อวดรวย เอิร์กลั่นจะไม่โชว์สูติบัตร อัดเกินไป ทั้งตัวทำแค่จมูก

จากกรณีที่เกิดมวยถูกคู่ ระหว่าง “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ที่เข้าไปแซะ “เอิร์ก เลเดอเรอร์” ตลอดเวลาในอินสตาแกรม ทั้งรกสื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ จนอีกฝ่ายโต้กลับดังอยู่แล้วไม่ต้องช่วยดัน ไม่รู้จักกันอย่าทำร้ายกัน ล่าสุดโหนกระแสวันที่ 28 ก.ย. โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์- เวลา 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดอกคุยกับ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ดารานักแสดง ซึ่งให้สัมภาษณ์กลางรายการเผชิญหน้า “เอิร์ก เลเดอเรอร์” เป็นครั้งแรก

สองคนนี้รู้จักมาก่อนมั้ย?
แตงโม : “ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว แต่โมเคยรู้จักเก๋ ผ่านผู้จัดการส่วนตัวเพราะเขาเคยทำงานด้วยกัน แต่กับน้องเอิร์กไม่รู้จักกัน”

เอิร์กเคยได้ยินฉายาคุณแตงโมมั้ย?
เอิร์ก : “จริงๆ รู้จักคุณแตงโมในฐานะนักแสดง เมื่อก่อนก็ชื่นชอบครับ”

ประเด็นที่เกิดขึ้น มีข่าวหลายๆ ข่าวเกิดขึ้น เช่นคุณแตงโม มีการลงบอกว่ารกสื่อ นี่หมายถึงใคร?
แตงโม : “โมก็จะอธิบายตามข้อเท็จจริงและความรู้สึก โมรู้สึกว่าพอมีการตอบโต้กันไปตอบโต้กันมา เหมือนเราตีปิงปองกันไม่หยุด และมีคนใช้ตรงนี้ไปอยู่บนสื่อ โมเลยมีความรู้สึกว่างั้นรวบรัดตัดตอนเลยดีกว่า ถ้าเห็นว่าเป็นการตลาดหรือการโปรโมตอะไร เราช่วยไปเลยดีกว่า ไม่ต้องเสียเวลาเป็นข่าวสองสามรอบ ตอบกันไปตอบกันมา”

คุณกำลังจะบอกว่าคุณเอิร์กกำลังพรีเซ็นต์ตัวเองหน้าสื่อ เพราะโปรโมตคลินิกตัวเองหรือตัวเอง ลักษณะอย่างนั้นมั้ย?
แตงโม : “ใช่ค่ะ เราก็ต้องยอมรับว่าในส่วนหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของน้องเขา คือน้องเขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก แล้วโมคิดว่าน้องเอิร์กมีความฉลาดในการทำการตลาด ซึ่งตรงนี้ก็เป็นผลประโยชน์ของเขา ซึ่งเขาต้องทำมาหากิน เราก็รวบรัดตัดตอนให้เขาไม่ดีกว่าเหรอ ถูกมั้ยคะ ยังไงเรารู้อยู่แล้วว่าเถียงไปเถียงมาก็เป็นข่าวอยู่แล้ว งั้นไม่ต้องมาเป็นข่าววันที่หนึ่งที่สอง ว่าทางนั้นตอบยังไง ก็ทางลัดไปเลย”

คุณไม่สบายใจกับเรื่องอะไรที่คุณเอิร์กกระทำ ถึงต้องแซะ?
แตงโม : “เอาอย่างนี้ดีกว่า เรื่องต่างๆ ที่โมเข้าไปพิมพ์ ถ้าทำให้น้องเอิร์กหรือใครหลายๆ คนเข้าใจผิดว่าโมยุ่งเรื่องชาวบ้าน ถ้าสร้างความรู้สึกแบบนั้น โมขอโทษไว้ก่อนเลยตรงนี้ แต่ว่าสิ่งที่โมทำทุกอย่างมีเหตุผล ตัวโมเองเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ก็จะเข้าใจหลายๆ คนที่ประสบเหตุ ดังนั้นก็พูดตามตรงว่าคนตายพูดไม่ได้ แต่เราพอจะพูดได้ว่าคนก่อนจะตายเขารู้สึกยังไง เขามีความสูญเสียอะไรบ้าง เขาถึงได้ตัดสินใจทำแบบนั้น ซึ่งน้องเก๋ก็เป็นเพื่อนกระติกและติดตามข่าวตลอด ก็รู้สึกว่าสังคมให้การดูแลเอาใจใส่กับคนเป็นโรคซึมเศร้าน้อยเกินไป บวกกับคนที่อยู่รอบข้างคนเป็นโรคซึมเศร้า เขาก็หาข้อมูลน้อยเกินไปที่จะดูแลคนที่เรารักที่เป็นโรคซึมเศร้าได้ จนทำให้เกิดการเสียชีวิตขึ้นทุกวันๆ ปีนึง 4 พันคน อัตราการตายค่อนข้างสูง ทำไมไม่ช่วยกันที่จะรักษาพวกเขา แล้วสิ่งที่โมรู้สึกกับน้องเอิร์กคือเมื่อน้องเก๋ตายไปแล้ว โมมีความรู้สึกว่าหลายคนยังคาใจในส่วนของการแสดงออกซึ่งความเสียใจของน้องเอิร์ก จนทำให้หลายคนคาใจว่าน้องเอิร์กเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า เป็นอย่างนี้หรือเปล่า”

เหมือนคุณเอิร์กเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เก๋ฆ่าตัวตาย คุณเอิร์กบอกว่าไม่ใช่ มีเหตุผลก็เลยรู้สึกว่าไม่ชัดเจนหรือยังไง?
แตงโม : “ก็ในส่วนที่น้องเอิร์กอธิบายมาเป็นเรื่องข้อมูลเชิงลึกที่เขาสองคนรู้กัน ซึ่งโมไม่สามารถไปก้าวก่าย จริงหรือไม่จริง คนตายมาพูดไม่ได้ แต่ยกประโยชน์ให้น้องเอิร์ก เพราะน้องเอิร์กเป็นคนที่อยู่และเป็นคนที่รักกับคุณเก๋มานาน เพียงแต่ว่าโมอาจจะรู้สึกว่าน้องเอิร์กไม่มีความเข้าใจไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า”

ตอนคุณเก๋อยู่เขาต้องดูแลให้มากกว่านี้ หรือยังไง?
แตงโม : “ใช่ อีกอย่างหนึ่งที่หลายคนอยากรู้ก็คือในเรื่องธุรกิจหรือหลักฐาน ยกประโยชน์ให้เพราะมีหลักฐานมาแสดงยืนยัน โมได้ฟังทั้งหมด รู้สึกว่าโอเคมันต้องมีความจริงอยู่แล้วล่ะ ไม่งั้นเอิร์กคงไม่มายืนยันความจริงได้”

คุณคิดว่าสิ่งที่คุณเอิร์กทำคือปลอม?
แตงโม อันนั้นเป็นสิทธิส่วนบุคคลของเขา เพียงแต่ว่าปัญหาที่กระทบกับคนอื่นไม่ว่าปลอมหรือไม่ปลอมไม่ได้เดือดร้อนกับใครเพียงแต่ว่าอาจต้องระวังน้องเองว่าน้องอาจเข้าข่ายในโรคบางโรคก็ได้”

จะบอกว่าเขาเป็นโรคอะไร?
แตงโม : “โมมีข้อมูลที่ศึกษามา เอาเรื่องน้องเก๋ก่อนนะคะ (หัวเราะ) คือถ้าเรื่องธุรกรรมต่างๆ เขามีหลักฐาน เพยงแต่ว่าเรื่องจิตใจวัดด้วยค่าอะไรไม่ได้ ถ้าน้องเก๋เสียชีวิตด้วยการผิดหวังหรือการสูญเสียหรือความรู้สึกไร้ค่า อันนี้บางทีน้องเอิร์กก็ต้องยอมรับว่ามาจากตัวเองด้วย”

เอิร์กมองยังไงเขาบอกว่าเก๋ฆ่าตัวตายคุณมีส่วน?
เอิร์ก : “จริงๆ แล้วไม่รู้ว่าเก๋ทำไปเพราะอะไร เอิร์กก็งงอยู่ แต่ว่าในส่วนการดูแล เอิร์กดูแลในส่วนที่เรารักกันเหมือนครอบครัว เอิร์กทำเต็มที่แล้ว แต่เอิร์กไม่สามารถเข้าไปทำอะไรได้มากกว่านี้ เพราะเก๋เขามีครอบครัวแล้ว ซึ่งประชาชนถ้าได้ดูพร้อมกันตอนเก๋เสีย เอิร์กรู้มาตลอดเกือบ 4 ปี เอิร์กไปงานหมั้นเป็นญาติผู้ใหญ่ให้เก๋ แต่เอิร์กต้องปิด เพราะเป็นเหตุผลของคนที่อยู่ในวงการ เรื่องกระแสที่อาจจะตกอะไรก็ตาม เอิร์กก็พูดยาก แต่เอิร์กไม่สามารถก้าวก่ายเขาได้มากกว่านี้ เพราะเก๋เขามีครอบครัวแล้ว”

แตงโม : “แต่ว่าพี่โมมีความรู้สึกว่ามันน่าจะทำได้ รับฟังหรือพิมพ์ความเป็นห่วงเป็นใย”

เอิร์ก : “เราทำกันมาตลอดอยู่แล้วครับ จนวินาทีสุดท้ายที่เก๋ตาย เรายังคุยกันอยู่เลย เราคุยกันตลอดเวลา ในข่าวที่ถูกปล่อยออกมาไม่ว่าจากใครก็แล้วแต่ ที่บอกวาเก๋เลิกคบเอิร์กตั้งแต่เดือนเม.ย. ปีที่แล้ว แต่พ.ค. เก๋ยังไปเที่ยวยุโรปกับเอิร์กอยู่เลย พ.ค.-มิ.ย. แล้วจะเลิกคบกันได้ยังไง อันนี้เอิร์กอยากให้คุณแตงโมคิดในมุมเอิร์ก เรื่องนี้มันซ้อนซ้อนยิ่งกว่าละครมาก”

แตงโม : “โมเข้าใจว่าซับซ้อน ฉะนั้นโมคิดว่าคนที่ใกล้ชิดเขามากที่สุดนอกจากครอบครัวของเขา จากเท่าที่ฟังเก๋เขาสัมภาษณ์ นอกจากครอบครัว โลกทั้งใบเขาคือคุณเอิร์ก เขาก็หวังว่าคุณเอิร์กจะเป็นที่พึ่งพิงให้เขาได้ เขาทุ่มเททั้งกายและใจให้จริงๆ ในเมื่อรักกันขนาดนี้ น้องเอิร์กรู้ว่าเก๋พยายามฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้ง ฉะนั้นเอิร์กต้องรู้ว่าเก๋เป็นโรคซึมเศร้า”

เอิร์ก : “จริงๆ ต้องบอกว่าเก๋บอกกับเอิร์กตลอดว่าเก๋ตายได้ตลอดเวลา ตั้งแต่คบกันมา ก็พูดยากนะ เพราะเขาก็เสียไปแล้วไม่อยากพาดพิง เก๋เขาเหมือนพยายามให้เราแยกกันอยู่ตลอดเวลา ด้วยความที่เขามีครอบครัว ทำให้เอิร์กรู้สึกว่าเอิร์กทำดีที่สุดแล้วในฐานะนี้ แล้วที่บอกว่าโลกทั้งใบ เก๋เขาลงในไอจีก่อนเสียชีวิตแป๊บเดียว นั่นคือแฟนเขาไม่ใช่เอิร์ก ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว ณ ตอนนี้ มันจะเป็นเอิร์กหรือเปล่าที่เป็นโลกทั้งใบของเขา”

คุณเอิร์กพิมพ์ว่าดาราคือต้นแบบที่ดี ดังแล้วครับไม่ต้องดัน ไม่รู้จักกัน อย่าทำร้ายกันเลย ฝากถึงดาราคนหนึ่งที่เคยชื่นชม?
เอิร์ก : “ก็พูดตรงๆ แบบนี้เลย”

แตงโม : “เราต่างคนต่างพิมพ์หาซึ่งกันและกัน”

เอิร์ก : “เอิร์กตรงไปตรงมา คุณแตงโมก็ตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ก็ยอมรับว่าเคยชื่นชอบคุณแตงโมมาก”

ครั้งหนึ่งใช่มั้ย?
เอิร์ก : “(หัวเราะ) ที่ผ่านมาเราชื่นชอบมาตลอด ตั้งแต่เรายังวัยรุ่นอยู่เลย เราเป็นห่วงภาพลักษณ์เขาด้วย เหมือนเราชื่นชมเขามาก่อน พอเราเห็นเขาพิมพ์อาจรุนแรงนิดนึง แต่ตัวเอิร์กไม่ได้รู้สึกอะไรนะ เอิร์กเข้าใจว่าต้องมีอารมณ์บ้างแหละเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ อาจสงสารเก๋ ก็ยิ่งรู้สึกดี เพราะเขารักเก๋ เข้าใจเก๋ แต่เอิร์กเห็นคนวิจารณ์คุณแตงโมเยอะ อยากบอกว่าเป็นคนของประชาชน ก็ไม่ได้ต่อว่า เป็นการกระตุกกันนิดหนึ่ง”

คุณไปแจ้งความที่ปอท.?
เอิร์ก : “ครับ มีไอจีหนึ่ง ไอจีอื่นไม่แจ้งความเลย แต่แจ้งความไอจีนี้เพราะเขาไม่ได้ขุดเรื่องเก๋ ไม่ได้มีความเป็นกลาง ว่าเก๋ตายอะไรยังไง หาหลักฐานช่วยเอิร์ก โทรศัพท์อยู่ไหน โน้ตบุ๊กอยู่ไหน”

เพราะเขาเอาความจริงมาพูดหรือเปล่า?
เอิร์ก : “ถึงจะเป็นความจริง มันก็เรื่องของเรา มันคือเรื่องของเอิร์ก ไม่เกี่ยวกับเก๋ เพราะฉะนั้นคุณกำลังล้ำเส้นเรา ไม่ให้เกียรติเรา ทั้งที่เราไม่รู้จักกัน คุณเอาเรามาด่าเสียๆ หายๆ เอาต้นตระกูลเรามา ทุกอย่าง นามสกุล บ้าน ทุกอย่าง มันไม่ได้เกี่ยวตรงนั้น แต่ถ้าเพจอื่นเขาเอาทั้งเอิร์ก คู่หมั้นเก๋ ทั้งดาราคนอื่น ที่เข้ามาสัมภาษณ์ เอิร์กโอเค จะด่าเอิร์กยังไงเอิร์กไม่แคร์”

แตงโม : “ต้องมีคนอื่นร่วมถูกด่าอยู่ด้วย”

เอิร์ก : “อันนี้พูดถึงเอิร์กคนเดียวและเอาให้เอิร์กตายคนเดียว ต้องขุดเรื่องทั้งหมด ไม่ใช่มาโจมตีเรา”

เหมือนเรื่องมันชี้มาที่คุณ?
เอิร์ก : “ข้อความบางข้อความมันล้ำเส้นมากเกินไป”

กรณีข้อความที่คุณคุยกับคุณเก๋ก่อนเสียชีวิต เขาบอกคุณเอามาไม่หมดแล้วมาอ้างว่าคุยกับคุณเก๋?
เอิร์ก : “เอาจริงๆ นะที่เอามาไม่หมดเป็นเรื่องของเงิน เราแค่รู้สึกว่ามันไม่ดีถ้าเราเอาออกมา แต่ ณ วันนี้ ถ้าจะเปิดโทรศัพท์เอิร์ก เลื่อนไลน์เก๋ขึ้นไปเลยก็ได้นะ เพราะว่าเอิร์กมีทุกอย่าง บริสุทธิ์ใจหมด แต่บางครั้งเป็นเรื่องของกฎหมาย เราเอาออกมาไม่ได้ แต่มันก็เนื้อหาแค่นั้นแหละ ให้เห็นว่าเรายังคุยกัน ยังรักกันก็พอ แต่เอิร์กก็ตกใจเหมือนกันนะ และเอิร์กก็โปรเทคเก๋ด้วย นี่ไม่ได้มาพูดสร้างภาพ ใครจะคิดว่าเอิร์กสร้างภาพเอิร์กไม่แคร์ เพราะเอิร์กไม่สนอยู่แล้ว แต่สนแค่ว่าในไอจีขุดมาประมาณว่าเก๋ด่าเอิร์ก มันดีเหรอเอาคนตายมาประจาน”

คุณเป็นแอดมินไอจีนั้นหรือเปล่า?
แตงโม : “ไม่ใช่ค่ะ เป็นแค่ฟอลโลเวอร์ของเขาเฉยๆ ก็ติดตามและเขาหายไปเลย(หัวเราะ)”

เอิร์ก : “เก๋ไปคุยกับเพื่อนๆ แล้วด่าเอิร์กไม่ดี คำหยาบหมดเลย คุณคิดว่ามันดีเหรอ เอาคนตายมาประจาน ทั้งที่คุณบอกว่าคุณรักเก๋ คุณรักจริง”

แตงโม : “มุมมองคนที่ได้อ่านรู้สึกว่าเขาไม่ได้พยายามเอาคนตายมาแฉ เขาพยายามบอกว่าคุณมีปัญหากันจริงๆ”

เอิร์ก : “พูดแบบนั้นก็ยิ่งดี แต่ทำไมไลน์เอิร์ก เก๋คุยกับเอิร์กดีล่ะ ทำไมคุยกันจนวินาทีสุดท้าย แต่ทำไมคุยกับคนอื่นไม่ดีล่ะ”

ทำไมไปพูดในรายการคุณโก้แบบนั้นล่ะ ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ?
เอิร์ก : “ใช่ นั่นคือสิ่งที่เอิร์กงง บอกตั้งแต่วันแรกว่างงว่าเกิดอะไรกับชีวิตเอิร์ก”

วันนี้มีการตั้งประเด็นว่าคุณให้เก๋เป็นหนังหน้าไฟ ให้เก๋เป็นคนโอนเงินเข้ามาหาเก๋ แต่คุณเอาเงินไปใช้ วันนึงเก๋โดนกลต.เล่น เสร็จปุ๊บคนอื่นมาทวงเงินกับเก๋ เก๋ไม่มีเงินใช้ ก็บอกว่าเอิร์กเอาเงินคืนมาจะได้คืนใช้เขา แต่คุณไม่ให้เขา คุณเลยต้องไปเซ็นสัญญาคืนกับแฟนคนเก๋ เขาวาอย่างนั้น เก๋เลยเครียดและเกลียดคุณ?
เอิร์ก : “ฟังชัดๆ นะครับผม เรื่องหนังหน้าไฟ ผมได้ยิน ต้องบอกว่าไปรื้อคำสัมภาษณ์เก่าๆ เก๋ดูแล้วกัน เก๋อยากออกหน้าเองทุกอย่างเพราะเก๋อยู่วงการบันเทิงและเอิร์กคือเบื้องหลังที่ดันเขา”

เรื่องนามสกุลยังไง?
เอิร์ก : “เลเดอเรอร์เป็นนามกสุลเอิร์กจริงที่ไม่ได้แต่งขึ้นมา และหลายคอมเมนต์ที่เมนต์ว่า เลเดอเรอร์ถูกแต่งเพื่อให้เป็นฉายาเอิร์กและเก๋ เหมือนนามสกุลในวงการมั่วๆ ซึ่งไม่ใช่ครับ เอิร์กกับแม่ได้โชว์บัตรเรียบร้อยแล้ว และนามสกุลนี้เป็นนามสกุลผู้ใหญ่ เก่าแก่จริงมั้ย จริงครับ แต่ตัวเอิร์กไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเก่าแก่ ยิ่งใหญ่ หรือความสูงศักดิ์ตรงนั้นเลย เพราะเราคือหางแถว เราคือคนธรรมดา ไม่หมกเม็ด”

คุณใช้สองนามสกุล?
เอิร์ก : “มีนามสกุลยายครับ ณ วันนี้เรื่องนามสกุลขอให้จบแค่นั้นเลย ไม่ใช่สาระสำคัญตรงนี้”

เรื่องเอิร์กเซิ้นเจิ้นที่ถูกขุด?
เอิร์ก : “ไม่ต้องมาขุดเอิร์ก ไม่ต้องมาคิดว่าเอิร์กจะใช้หรือไม่ใช้อะไร เอิร์กเป็นคนธรรมดา คุณควรจะมองหรือเปล่าว่าเอิร์กต้องพยายามแค่ไหนกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ให้ไปมองบ้าน มองรถ มองธุรกิจใหญ่ๆ ดีกว่ามั้ย มามองอันเล็กๆ เราจะซื้ออะไรก็ได้ป่ะ คนคิดว่าเอิร์กไม่มีปัญญาซื้อของเล็กๆ แล้วเอิร์กจะมีปัญญาสร้างธุรกิจใหญ่ๆ ของเอิร์กได้ยังไง มองแค่นั้น เรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ไปดูตึกที่เรามีมั้ย ธุรกิจที่เรามีมั้ย เขาจะโจมตีให้เราดูแย่ ดูดร็อป แต่ไม่อยากให้โจมตีเพราะเป็นแค่เด็กธรรมดาจริงๆ ให้มองย้อนกลับไปเป็นคนธรรมดา ไม่ต้องมาคาดหวัง”

แตงโม : “แต่ภาพที่น้องพรีเซ็นต์ออกไปไม่ธรรมดานะคะ”

เอิร์ก : “งั้นคนก็ควรมองว่าเอิร์กเก่งสิ เพราะเอิร์กมาจากเด็กธรรมดานะ เอิร์กพยายามขนาดนี้ ทำไมมาโจมตีเอิร์กสารพัด”

แตงโม : “เพราะสังคมไทยให้ค่ากับคนที่เป็นคนรวย เหมือนเป็นสังคมจับจ้องคนรวย คนทำธุรกิจประสบความสำเร็จเยอะๆ แต่เคยได้ยินคำนี้มั้ยคะ ทำดีได้แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย เมื่อไหร่โดดเด่นปุ๊บถูกจับตามองทั้งนั้น เราอาจต้องแชร์สตอรี่ความลำบาก ภาพเก่าๆ ความลำบาก ไลฟ์สไตล์ อย่างโมบอกว่าอยากเห็นบ้าน ทุกคนอยากเห็นว่าเบื้องหน้าและเบื้องหลังมันต่างกันมั้ย”

เอิร์ก : “หมายถึงไลฟ์สไตล์ปกติน่ะเหรอ มันเป็นนิสัยของเอิร์กอยู่แล้ว ทุกคนบนโลกใบนี้กลัวความจน เอิร์กก็เป็นเด็กธรรมดา บ้านเอิร์กเป็นบ้านธรรมดาไม่สามารถซื้ออะไรแบบนี้ได แต่วันนี้เราสามารถซื้อได้ เราทำได้ด้วยตัวเอง”

คุณแตงโมเขาคิดว่าหมกเม็ดหรือเปล่า?
เอิร์ก : “ไม่ได้หมกเม็ด เพราะเอิร์กลงหนังสือมาตลอด”

แตงโม : “แต่ภาพรวมๆ ที่แมกกาซีนไปถ่าย ถูกเซ็ตขึ้นมาทุกอย่าง แต่ชีวิตที่ไม่ถูกเซ็ตล่ะคะ”

เอิร์ก : “ถามว่าชีวิตที่ไม่เคยถูกเซ็ตเป็นยังไง ก็เหมือนภาพที่ออกมา เอิร์กกินข้าวข้างถนนได้นะ แต่ไม่รู้จะถ่ายมาทำไม เพราะวิวมันไม่สวย ล่าสุดวันก่อนไปไปห้วยขวางอยู่เลย แม่อยากกินซูเปอร์ตีนไก่ เอิร์กก็ไป”

ประเด็นแซะ?
แตงโม : “มีสองเรื่อง อย่างแรกคนไทยมักจะขุดคุ้ยคนที่ถูกจับตามอง ณ ตรงนั้นโมมีข้อสงสัยหลายๆ เรื่อง อีกประเด็นที่เราไปเขียน เราอยากเห็นความเสียใจของน้องเอิร์กที่มีต่อเก๋ให้มากกว่านี้”

ที่ผ่านมาเขาไม่เสียใจเหรอ?
แตงโม : “ไม่นะคะ ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเห็นน้ำตาเอิร์ก นอกจากเอิร์กนอนร้องไห้อยู่ที่บ้าน ก็อยากรู้ว่าเอิร์กร้องไห้บ้างมั้ย”

เอิร์ก : “ร้องครับผม แต่ไม่ให้ใครเห็น”

แตงโม : “แล้วอยากรู้ว่าทุกครั้งที่เอิร์กกำลังลงรูปในไอจี เหตุผลลึกๆ แล้วเพื่อเก๋หรือพื่อเอิร์ก”

เอิร์ก : “เอิร์กรักเก๋ อย่างที่บอกเอิร์กดูแลพ่อแม่และน้องชายแทนเก๋ ถ้าเอิร์กหยุดทำคลินิก แล้วเอิร์กจะเอาเงินที่ไหนไปให้เขา เศร้าก็เศร้า แต่เราก็ต้องเก็บเอาไว้”

แตงโม : “แต่มันกลายเป็นประเด็นว่าพอคุณเอิร์กมีความเสียใจน้อยหน่อย น้ำหนักที่ว่าคุณเอิร์กมีเรื่องกับคุณเก๋ เหมือนที่หลายคนบอกว่าคุณเอิร์กยังหากินกับคนตาย”

เอิร์ก : “ไม่ใช่เลยครับ เหมืนกับเอิร์กหากินกับคนตายไม่ได้อยู่แล้ว แฟนคลับเก๋ฟังแล้วอาจไม่ชอบ จริงๆ เก๋หาเงินไม่ได้มาสองปีแล้ว เอิร์กหาเงินได้อยู่คนเดียวเพราะเก๋โดนเรื่องกลต. แต่ก่อนหน้านั้นเราหาด้วยกัน แต่พอผ่านมา หลังสองปีหลังที่ผ่านมา เก๋หาเงินไม่ได้ นี่ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เก๋เสียใจด้วยก็ได้ เพราะเก๋พูดกับเอิร์กหลายครั้งในไลน์ เอิร์กสามารถโชว์ได้ว่าเขาช่วยเอิร์กหาเงินไม่ได้เลย เขาขอโทษตลอดเวลา”

แตงโม : “มันไปโยงถึงว่าพอไปลงรูปในไอจี คุณเอิร์กเป็นโรคมโนหรือเปล่า ข้อมูลคนที่มีอาการมโน ไม่ได้ว่าโดยตรงนะ ลองเช็กดูว่าตรงหรือเปล่า เป็นคนขี้โม้ ชี้อวดบนโซเชียล เป็นคนโกหกตลอดเวลาแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยและจะต่อต้านทันที แม้จะถูกตั้งคำถามว่าโกหกหรือเปล่า โกหกเพื่อให้ได้รับความสนใจเพราะรู้สึกดี ตรงมั้ยคะ”

เอิร์ก : “ไม่ตรงเลยครับ มาถึงวันนี้ เราใช้ชีวิตอย่างนี้ เหมือนเรามีชีวิตที่จะมีรถคันนี้ได้ อยู่ดีๆ จะไป่ถายมอเตอร์ไซค์ข้างถนนก็ไม่ใช่”

แตงโม : “จากไอจีที่เคยเห็น คุณเอิร์กมักพาดหัวข่าวว่าเป็นโรคขี้อวดและยอมรับด้วยและโพสต์ตรงนั้น”

เอิร์ก : “ในเรื่องอวด เอิร์กไม่ได้สนใจว่าใครจะมองว่ายังไง อาจมองว่าเอิร์กอวดก็ได้ไม่เป็นไร เพราะเราไม่ต้องแคร์ใครขนาดนั้นเอิร์กเลยไม่ได้สนใจใครว่าจะมองว่าเราอวดหรือไม่อวด”

แตงโม : “ถ้าเอิร์กไม่แคร์แต่ไปแจ้งความ”

เอิร์ก : “อันนั้นมันเป็นเรื่องขุดตัวเราไงครับผมไม่ใช่เรื่องอวด มีการพาดพิงเรื่องชาติตระกูล ซึ่งแม่เอิร์กเสียใจ เอิร์กไม่อยากพูด มันผิดไงครับ”

เรื่องบ้าน เป็นไปได้มั้ยต่อไปจะถ่ายเป็นไลฟ์สไตล์?
เอิร์ก : “จริงๆ ก็ถ่ายนะแต่ไม่ได้ลงว่าบ้านฉัน”

แตงโม : “เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับคำว่าคนธรรมดา”

เอิร์ก : “เอาอย่างนี้ดีมั้ย เดี๋ยวอัดเสร็จจะลงที่พักเลย ลงที่อยู่เลย”

แตงโม : “เขาบอกน้องเอิร์กเช่าห้องอยู่หลังเซ็นทรัลพระรามเก้าจริงมั้ย”

เอิร์ก : “พูดตรงๆ นะครับ เอิร์กจะไม่ตอบอะไรพวกนี้ เพราะไม่อยากตอบ เหมือนที่บอกว่าไหนเอารูปบ้านมาลงสิ เอิร์กไม่อยากลงเพราะไม่อยากทำตามที่คนบอกให้ทำ”

แตงโม : “ถ้าเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจล่ะ”

เอิร์ก : “เดี๋ยวอัดรายการเสร็จจะถ่ายที่อยู่ลงเลย อยากเห็นอะไร อยากเห็นเพนท์เฮ้าส์เดี๋ยวถ่าย อยากเห็นคอนโดจะถ่าย อันดับแรกจะถ่ายคลินิกด้วย จะเป็นการตั้งใจโปรโมตแล้ว เดี๋ยวจะลงให้เห็นเลยว่าห้องนอนบนคลินิกชั้น 4 เป็นยังไง ถ้าเราลงก็เหมือนอวด พอเราไม่ลงก็ว่าเราไม่จริง งั้นวันนี้เอิร์กจะลง”

คุณไปลงจะเป็นการปรุงแต่งมั้ย?
เอิร์ก : “ก็ให้นักข่าวไปดูเลยครับ วันนี้ ตามเอิร์กไปเลยตอนเย็นว่าที่พักชั้น 4 ที่คลินิกเป็นยังไง”

แตงโม : “ใช้ชีวิตนอนที่นั่น”

เอิร์ก : “ไม่ครับ นอนหลายที่ เอิร์กเป็นคนตื่นสาย ต้องมี่ที่นอนที่เป็นทำงาน ชีวิตไม่มีบ้าน ไม่มีคอนโดสักที่เลยก็ได้นะ แต่ทุกธุรกิจทุกตึกเป็นชื่อเอิร์ก เป็นบ้านเอิร์ก เอิร์กจะนอนที่ไหนก็ได้”

คุณโกรธแตงโมมั้ย?
เอิร์ก : “ไม่ไดสร้างภาพนะ แต่ขอบคุณคุณแตงโมที่ทำให้เอิร์กพูดเยอขึ้นไม่งั้นก็คงจบแค่นั้นแหละ”

แตงโม : “การที่น้องออกมาทั้งหมด และภาพที่สื่อให้คนอื่นเห็น รู้สึกน้องเอิร์กทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ไม่งั้นช่วยขุดอีกฝั่งนึ่งด้วย”

เอิร์ก : “ณ ตอนนี้มีคนพูดว่าเอิร์กออกรายการเพื่อตัวเองแต่ไม่ใช่ เพราะเอิร์กออกรายการแค่ช่อง 3 ช่อง 7 เพื่อเคลียร์ หลังจากนั้นไม่ออกอีกเลย”

แตงโม : “ไม่ได้กลัวว่าแต่ละรายการจะพูดไม่ซ้ำกัน”

เอิร์ก : “ไม่หรอก วันนี้ก็ยังพูดเหมือนเดิมอยู่ แต่เหมือนเป็นการออกเดินสายแก้ตัว เราคิดว่าเราแถลงข่าวช่อง 3 ช่อง 7 จบแล้วเราจะไม่ออกอีก”

แตงโม : “แล้วทำไมถึงมาเทปโม”

เอิร์ก : “ต้องมา อยากเจอ อยากคุย เรารู้ว่าเขาไม่ได้เกลียดเรา แต่อาจเป็นกระบอกเสียงใหญ่ๆ ที่มาถามเอิร์กแทนประชาชน เพราะคนทั่วไปถามเอิร์กก็ไม่ตอบไง”

แตงโม : “งั้นถามต่อเลย เอิร์กเป็นลูกครึ่งแล้วคุณพ่อคุณแม่ว่าไงบ้างเกี่ยวกับความเครียดและเพราะอะไร ถ้าคนที่มีบ้านอยู่เมืองนอก ญาติพี่น้องอยู่ทีโน่นถ้าเป็นโม เจอเรื่องขนาดนี้โมกลับประเทศแล้ว”

เอิร์ก : “เออชอบคำถามนี้ แล้วจะหนีเพื่ออะไร ในเมื่อไม่ได้ทำผิดอะไรเลย มีธุรกิจเยอะแยะ จะหนีทำไม”

แตงโม : “แต่คนที่รักจากไป ไม่เสียใจจนต้องไปทำใจเหรอคะ”

เอิร์ก : “ไม่ได้ครับ ถ้าย้อนกลับไป เรายังมีธุรกิจ”

แตงโม : “เฮือกสุดท้ายในการระดมทุนเพราะเราต้องใช้หนี้ก้อนสุดท้ายก้อนนั้น ถูกมั้ยคะ”

เอิร์ก : “ตอนนี้หนี้ไม่ต้องใช้ เพราะเอิร์กได้เป็นหนี้เขา ต้องมารื้อเอกสารใหม่หมด ว่าจำนวนเงินที่เอามาสร้างที่บางนาเท่าไหร่ จริงหรือเปล่า เอิร์กเซ็นยอมรับหนี้กับแฟนเก๋ ไม่ได้เซ็นกับบริษัท แล้วเขาเป็นกรรมการผู้จัดการ แต่ไมได้ลงว่ากรรมการผู้จัดการ เซ็นในนามบุคคล ซึ่งเป็นโมฆะ ไม่ได้หัวหมอนะ แต่โมฆะเพราะผิดพลาดที่เขาเอาความเป็นส่วนตัวเขามาเซ็นกับเรา”

ทำไมคุณต้องเซ็นกับเขา?
เอิร์ก : “งงเหมือนกัน”

แตงโม : “ถ้าไม่ได้เอาเงินจากเขา ก็ไม่ต้องไปเซ็นก็ได้”

เขาว่าคุณต้องเป็นหนี้กับเขาจริงๆ ถึงไปเซ็น ทางฝั่งโน้นต้องมีรับสภาพหนี้จากบุคคลอื่นที่มาทวงกับเขาและเขารับผิดชอบแทน หนังสือตัวนั้นมีมั้ยที่คุณไปรับสภาพหนี้ต่อจากนั้น?
แตงโม : “ตรงนี้สิ่งที่เอิร์กบอกว่าเอิร์กรักเก๋มากเลยต้องใช้หนี้แทนเก๋ เท่ากับศูนย์”

เอิร์ก : “ไม่ใช่ เรายังจะใช้หนี้เหมือนเดิม ถ้าเป็นหนี้จริงๆ ที่ถูกต้อง”

แตงโม : “แล้วตอนเซ็นล่ะคะ”

เอิร์ก : “พูดตรงๆ นะ หุ้นส่วนคนนั้นมาขอแยกจากเรา เราไม่รู้ เราคิดว่าเขารู้กัน ว่าเขาไม่ต้องการเราแล้วที่นั่น เราคิดว่าหุ้นส่วนที่นั่นรู้กัน ให้เขามาเป็นตัวแทนเพื่อให้มาเอาเงินจากเราและเก๋ เราคิดแบบนี้ เราถึงเซ็น”

ตกลงวันนี้ สัญญาฉบับนั้นเป็นโมฆะ?
เอิร์ก : “เป็นโมฆะตอนนี้ เอกสารก็ส่งไปที่บ้านเขาแล้วว่าขอยกเลิก เงิน 3 ล้านต้องคืนเรามาก่อนด้วย”

อยากรู้ว่าทางผู้ร่วมลงทุนที่นำเงินมาลง ใครเป็นคนจ่าย?
เอิร์ก : “ยกเลิกเอกสารก่อน คุณคืนเงินเรามาก่อน แล้วเอามาดูว่าเก๋โอนเงินให้เอิร์ก 14 ล้านจริงมั้ยถ้าจริงปุ๊บ หุ้นส่วนมาเอาเงินที่เรา ไม่ได้หนีไปไหนเลย”

สมมติคุณแตงโมลงเงินไป 5 แสนกับคุณเก๋ วันนี้คุณเก๋ตายไปเงินก้อนนี้ใครจะรับผิดชอบ?
เอิร์ก : “จริงๆ มันซับซ้อน เพราะครอบครัวเก๋ต้องรับผิดชอบ แต่ดั๊นมาโอนเข้าบัญชีเราด้วย ก็รับผิดชอบร่วมกัน ขอแค่ทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อจากนี้ไปเอาเอกสารมาให้ตรวจสอบสิ ขึ้นศาลก็ขึ้น ทั้งสองสาขาเราสร้างไปแล้ว ไม่ได้เอาเงิน 5 แสนไปใช้จ่าย ไม่ใช่ เราเอาเงินทั้งหมดไปทำสองสาขา แล้วพอวันนึงคุณบอกว่าแยกกัน ทุกคนไม่โอเคให้เอิร์กบริหาร งั้นเธอก็ต้องเอาเงินที่สร้างบางนามาให้เรา แล้วเอิร์กผิดตรงไหนล่ะ แต่เอิร์กเซ็นเพราะเอิร์กสงสารเก๋ เพราะเก๋เป็นคนในครอบครัวนั้นแล้ว แล้วบ้านหลังนั้นมาเป็นซีอีโอที่นั่นแล้ว เอิร์กเซ็นเพราะคิดว่าเก๋ ที่บ้านนั้น หุ้นส่วนก็คงรู้กัน ก็คงเอาไปแบ่งกันแหละก็เลยเซ็น”

แตงโม : “ไม่ใช่เพราะคุณเอาเงินมาใช้ด้วยกัน”

เอิร์ก : “ไม่ใช่ เพราะเราสร้างเสร็จแล้วทั้งสองคลินิก เงินไปอยู่ในคลินิก ไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัว อันนี้ชัดเจน”

แตงโม : “แล้วเกิดหนี้มาได้ยังไง”

เอิร์ก : “เพราะเขาขอแยกครับ”

คุณแตงโมไปแซะเขา วันนี้เขาจะถ่ายรูปให้ดู?
แตงโม : “เอารูปแบบธรรมชาติ ที่คนดูดูแล้วไม่ใช่มีแค่ด้านรวยด้านเดียว แต่ด้านปกติไม่มีเลย พิสูจน์ให้เขาเห็นไป”

เอิร์ก : “อยากเห็นเอิร์กใส่บ๊อกเซอร์งี้เหรอ แต่เราจะทำให้นะ”

ถ้าเขาทำจะเลิกแซะมั้ย?
แตงโม : “ถ้าทำแบบธรรมชาติและจริงใจ คนทั้งประเทศเลิกแซะแน่นอน อีกเรื่องนึง ถ้าเขาไม่ได้เสียชีวิต และเขาขอแค่อยากฟังคำขอโทษ ถ้าวันนี้เขาฟังอยู่ โอเคคุณอาจไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ามีส่วนทำให้เขาคิดมาก ทำให้ครอบครัวสูญเสียลูกสาวคนโต ถ้าให้ขอโทษขอโทษได้มั้ย”

เอิร์ก : “ได้ครับ ถ้าเก๋เหมือนรับรู้ได้ เอิร์กอยากบอกว่า เอิร์กไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เราสองคนสิ่งที่แสดงออกมาคือเรารักกันมาก แต่กับคนอื่นเอิร์กไมรู้ เอิร์กรู้สึกว่าเอิร์กทำดีที่สุดแล้ว เอิร์กรักเก๋ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ที่บอกว่าเราเป็นพี่น้องปลอม ปลอมเพราะเราไม่ใช่สายเลือดแต่หัวใจเอิร็กไม่ได้ปลอมกับเขา ไม่งั้นจะอยู่กับเขามาจนขนาดนี้เหรอ”

แตงโม : “ยังไม่ได้ยินคำขอโทษนะ(หัวเราะ)”

เอิร์ก : “ก็ขอโทษ ขอโทษทุกอย่างที่เอิร์กไม่รู้เอิร์กทำอะไรผิดพลาด”

แตงโม : “ทุกคนอยากได้ยินจากความรู้สึกจริงๆ”

เอิร์ก : “ทุกสิ่งทุกอย่างที่เอิร์กผิดพลาด เพราะเอิร์กไม่รู้ เอิร์กใช้คำนี้เพราะเอิร์กไม่รู้จริงๆ เอิร์กขอโทษและอโหสิกรรมให้เอิร์กด้วยครับ”

มีข่าวว่าคุณสองคนเป็นแฟนกัน แล้ววันนึงทำให้ฝ่ายชายรู้เรื่อง เขาเลยรู้สึกว่าไม่แฮปปี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องแยกกัน ทำให้เก๋เครียด?
เอิร์ก : “เมื่อก่อนมีคอมเมนต์เยอะมากว่าเป็นผัวเมียกันแน่ แต่มีสำนักข่าวนึงบอกว่าเป็นพี่น้องกันเถอะ ให้ปัดภาพลักษณ์ชู้สาวไปเลย เอิร์กก็ได้เพราะเรารักกันจริงๆ แม่ก็รักเก๋จริงๆ เขาก็มาขอใช้นามสกุล แต่เปลี่ยนไม่ได้ เพราะอายุเกิน ประเด็นนั้นไม่จริง เอิร์กไม่เคยคบเก๋ร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่เคยคบพี่พอลร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าใครมีหลักฐานว่าเอิร์กเคยเจอกับเขาสองคน เอาออกมาวันนี้เลย”

ไปยืนกางร่มทำไมหน้าหลุมศพเลเดอเรอร์?
เอิร์ก : “ฝนมันตก เอิร์กถ่ายไว้นานแล้ว ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วกับเก๋”

แตงโม : “พ่อเป็นชาวเยอรมันเหรอคะ”

เอิร์ก : “พ่อเป็นชาวเยอรมัน เป็นวิศวกร แต่เขาเสียแล้ว”

คุณต้องเป็นลูกครึ่งจริงๆ?
เอิร์ก : “เอิร์กไม่ขอตอบแล้วเพราะแม่เอิร์กไม่อยากให้ตอบเรื่องนี้ ให้จบแค่ว่านามสกลุจริงๆ แม่คือแม่เอิร์ก เอิร์กใช้นามสกุลพ่อเอิร์ก คือจบ คือเคลียร์ เหมือนตอนนี้เอิร์กต้องตอบคำถามประชาชนมากเกินไปในมุมมองของแม่ แล้วเอิร์กไม่ใช่คนของประชาชนเต็มตัว เอิร์กทำธุรกิจ ซึ่งเอิร์กไม่จำเป็นต้องออกมาบอกให้คนอื่นรับรู้ทุกเรื่องในชีวิต”

แตงโม : “เราไม่มีทางได้เห็นสูติบัตรของเอิร์กแน่นอน ถูกมั้ย”

เอิร์ก : “ไม่ครับ เอิร์กไม่มีทางให้ดู เพราะเอิร์กรู้สึกว่ามันเกินไปแล้ว มันเหมือนเราเริ่มรำคาญแล้ว เหมือนฉันต้องทำตามเธอทุกอย่างเลยเหรอในชีวิตนี้”

แตงโม : “เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจไงน้องเอิร์ก”

เอิร์ก : “ไม่ต้องแสดงแล้วครับเพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเก๋แล้ว มันคือชีวิตของเอิร์ก ชีวิตเอิร์กโดยตรงแล้ว ไม่ใช่แค่สูติบัตร ต่อจากนี้ไปเรื่องของเอิร์กทั้งหมด จะไม่โชว์ทุกเรื่อง แต่ถ้าเรื่องเก๋ เรื่องคดี ขอให้ดู แต่ไม่อยากให้มาโฟกัสตรงนี้ ต่อให้เอิร์กเกิดจากลูกขอทานนี่ก็ตัวเอิร์ก”

แตงโม : “แต่คุณไปอ้างว่าคุณเป็นลูกครึ่งแล้วไงคะ”

เอิร์ก : “เอิร์กไม่เคยอ้างว่าเป็นลูกครึ่ง ทุกคนพูดเอง ไม่เคยออกมาจากปากว่าเป็นลูกครึ่งไทยเยอรมัน”

แตงโม : “ที่ถามเพราะหลายคนถามว่าเอิร์กเป็นลูกครึ่ง แต่ตอนที่เอิร์กเป็นศิลปินหน้าน้องเอิร์กไม่ใช่ลูกครึ่งเหมือนตอนนี้ไง”

เอิร์ก : “ชีวิตเอิร์กทั้งหน้าทั้งตัว ทำแค่จมูกอย่างเดียว เท่านั้น จริงๆ อยากบอกว่าทำทั้งหมด เพราะเป็นเจ้าของคลินิกจะได้ขายได้ แต่ไม่ได้ทำจริงๆ”

แตงโม : “แผนการตลาดของน้องเอิร์กไง คนจะได้ติดตามไปตลอดชีวิต”

เอิร์ก : “ก็อยากจะบอกว่าเลเดอเรอร์เป็นนามสกุลเอิร์กจริงๆ แม่เอิร์กโชว์แล้วเรียบร้อย ตาเอิร์กสองสี ผมเอิร์กถ้าไม่ได้ย้อมสีดำ จะมีกระจุกนึงเป็นสีบรอนด์ๆ เอิร์กต้องการให้ชวิตเอิร์กมีความลับบ้าง ขอเหอะ”

แตงโม : “โอเค เป็นการตลาดที่ดี(หัวเราะ)”

เอิร์ก : “แล้วมีเยอะมาก ญาติพี่น้องในเมืองไทย ไม่ต้องมาแฉเพราะเป็นเด็กธรรมดา”

แตงโม : “บ้านอยุ่อุดรฯ”

เอิร์ก : “กรุงเทพฯ มี สุพรรณก็เคยอยู่ อุดรก็เคยอยู่ เด็กธรรมดา เรียนโรงเรียนที่ดีที่สุด และโรงเรียนวัดก็เรียนมาแล้ว”

แตงโม : “คุณแม่อยู่เมืองไทยด้วยกันมั้ย”

เอิร์ก : “ ไม่ครับ เอิร์กอยู่เมืองไทยคนเดียว”

แตงโม : “บินมาเพื่อโชว์เลเดอเรอร์โดยเฉพาะ”

เอิร์ก : “ไม่ครับ ตอนแรกเขาเป็นห่วงก่อน เก๋เสียเขาเสียใจมาก ก็กลัวเรามีปัญหาด้านจิตใจ แม่กลับเดือนหน้า”

หลังจากนี้จะแซะอีกมั้ย?
แตงโม : “วันนี้แซะไปเยอะแล้วค่ะ”

หลังจากนี้เขาโพสต์อะไร?
แตงโม : “ก็จะชื่นชมอยู่ข้างๆ ค่ะ(หัวเราะ)”






กำลังโหลดความคิดเห็น