"แอมมี่" ตอบสไตล์นักรักอินดี้ อยู่ก่อนแต่งแต่ไม่เรียกเมีย!

"แอมมี่" รับเดือนส.ค.ที่ผ่านมามีงานฉลองแต่ไม่เรียกว่างานวิวาห์ ลองใช้ชีวิตกับแฟนสาว เป็นสหายกัน ปากหนักไม่เรียกเมีย อ้างเรื่องวัฒนธรรม ลั่นไม่อยากพูดเยอะ ขอพิสูจน์ความสัมพันธ์ซะก่อนว่ารักจะรอดหรือไม่รอด บอกเธอคือแรงบันดาลใจ

ปล่อยภาพสวีตหวาน "ไทร ปนัสยา เศวตาภรณ์" บิวตี้บล็อกเกอร์รัวๆ ในอินสตาแกรม แถมประกาศจะแต่งงานแบบด่วนจี๋เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาที่โคลลอมเบียไปอีก ล่าสุดเจอตัวหนุ่ม "แอมมี่ The Bottom Blues" ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ เจ้าตัวก็ตอบด้วยประโยคสุดมึน ระหว่างมาร่วมงาน The Mall Group X AEG Partnership Announcement สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์ เธียเตอร์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน บอกเดือนสิงหาคมเป็นการฉลอง ไม่เรียกแต่ง และตอนนี้เขยิบงานแต่งออกไป แต่จะจัดให้เร็วที่สุด และลองใช้ชีวิตด้วยกันก่อนแล้ว

"จริงๆ ตอนนี้เป็นแฟนกันครับ แต่ยังไม่ได้ฤกษ์ที่แน่นอน (หัวเราะ) ไม่หรอกครับ ก็ลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันดูครับ เรื่องพิธีการก็ขอเป็นเรื่องส่วนตัวแล้วกันครับ ถามว่าจะมีงานแต่งงานเกิดขึ้นจริงๆ มั้ย เรียกว่าเป็นปาร์ตี้แล้วกันครับ ปาร์ตี้เพื่อนๆ มาสนุกกันครับ ถือว่าเป็นการเฉลิมฉลองแล้วกัน (หัวเราะ) จริงๆ ปีนี้ผมก็อายุเยอะแล้วนะ มีความรักครั้งนึงผมก็อยากทำให้มันดีขึ้นกว่าทุกๆ ครั้งครับ"

"ส่วนเรื่องแต่ง ถ้าหมายถึงแต่งเป็นเรื่องสาธารณะเลยก็คงต้องคิดกันอีกทีครับ คบกันก็สักระยะแล้วครับ ไม่ได้นับว่านานเท่าไหร่ แต่เขาก็จะจำวันครบรอบได้ครับ"

อยู่ก่อนแต่ง เป็นสหาย ไม่เรียกเมีย อ้างเรื่องวัฒนธรรม
"ก็ใช้ชีวิตด้วยกันไปก่อนครับ เป็นสหายเลยครับ อยู่ด้วยกัน ผมทำเพลงด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ค่อนข้างจะอยู่ด้วยกันบ่อยเลยครับ ก็อยู่ด้วยกันเลย เป็นแฟนน่ะครับ (หัวเราะ) ถามว่ายังไม่ถึงขั้นภรรยาใช่มั้ย คือผมต้องขอโทษที่ไม่อยากพูดอะไรเยอะ จริงๆ ผมก็เป็นคนตรงนะ แต่หลังจากที่ให้สัมภาษณ์อะไรไปหลายๆ อย่างผมรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องของผมคนเดียวแล้ว มันกลายเป็นเรื่องของพ่อแม่เขาด้วย ผมเลยอยากจะข้ามเรื่องนี้ไป มันเป็นเรื่องของวัฒนธรรม มันเป็นเรื่องของความเคารพกันด้วยครับ ผมเลยอยากขอข้ามเรื่องนี้ไป ก็ผมรักเขา ผมพยายามจะทำให้รักครั้งนี้มันดี และผมก็โตขึ้นแล้ว ทั้งงานเพลง ทั้งงานดนตรีที่ผมทำ ผมก็ตั้งใจสร้างเนื้อสร้างตัวครับ"

ฟุ้งเป็นแรงบันดาลใจ เหมือนเขียนเพลง รู้สึกว่าใช่รีบคว้าโอกาสทันที
"เขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากจะเริ่มทำอะไรเพื่อตัวเอง เพื่อคนอื่น เพื่อครอบครัว ถ้าถามว่าทำไมถูกเขามั้ย มันเหมือนเพลงครับ ผมเขียนเพลงได้ทุกวัน แต่เราจะรู้ว่าวันไหนที่เนื้อเพลงมันใช่ไม่ใช่ เพราะในชีวิตเราน่าจะ 90% เลยนะเราเจอกับความไม่ใช่ ผมก็คิดว่าผมต้องรีบคว้าโอกาสนั้นไว้ คว้าความรู้สึกนั้นไว้ มันกำลังอยู่ในช่วงที่ผีเสื้อมันบิน มันเลยอาจจะฮิปปี้ไปนิดนึง (หัวเราะ)"

ไม่สนเรื่องเวลาที่คบ
"คบกัน 7 ปีก็เลิกกันได้ครับ ผมไม่ซีเรียสเรื่องเวลาเลย ผมคิดว่าจังหวะที่จะได้เจอคนที่ใช่มันเป็นเรื่องยากกว่าอีก แพลนข่าวดีก็จะให้เร็วที่สุดครับ เท่าที่ทำได้นะ ถามว่าทำไมเร่งด่วน มันหลายอย่างเลยครับ มันมีเรื่องผู้ใหญ่เข้ามาด้วย และเราก็ต้องเลิกปากกล้าได้แล้ว (หัวเราะ)"

เตรียมเสื้อเกราะไปสู่ขอ
"ก็อาจจะต้องมีการคุยกันเป็นกิจจะลักษณะมากกว่าครับ แต่อันนี้มันเป็นในแง่ของความสัมพันธ์ที่มันมากกว่าเราแล้วล่ะ มันก็ต้องใช้เวลาด้วย เราก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยครับ ก็ต้องเตรียมตัวไว้ดีๆ เตรียมเสื้อเกราะไป (หัวเราะ) ถามว่าพ่อแม่เขาหวงมั้ย อันนี้ต้องไปถามพ่อกับแม่เขาครับ เนี่ยให้ผมพูดถึงพ่อแม่เขา เดี๋ยวเขาก็มาว่าผมอีก (หัวเราะ) แต่ถามว่าหวงมั้ย ก็เป็นธรรมดาครับ ลูกสาว"

พร้อมเมื่อไหร่ก็แต่ง แต่ตอนนี้ขอพิสูจน์ความสัมพันธ์ไปก่อนจะรอดไม่รอด
"ปีหน้ามั้ยก็ไม่แน่ไม่นอนเลยครับ ผมไม่ได้ดูฤกษ์อะไรอยู่แล้ว พร้อมเมื่อไหร่ก็ได้ จังหวะชีวิตเมื่อไหร่มันได้มันก็ได้ แต่ก็พิสูจน์ตัวเองกันไปก่อน พิสูจน์ความสัมพันธ์กันไปก่อนว่าเราจะอยู่กันรอดมั้ย (หัวเราะ)"

บอกเดือนส.ค.ที่ผ่านมาเรียกว่างานฉลอง แต่ยังไม่แต่ง
"ก็เรียกว่างานฉลองดีกว่าครับ ยังไม่ได้แต่งครับ เพราะแต่งงานคืออะไรล่ะ แต่งงานคือต้องมีบาทหลวง ต้องมีประธาน แต่มันยังไม่ได้เรียกว่าอย่างนั้นครับ ไม่ใช่ปาร์ตี้สละโสด (หัวเราะ) ปาร์ตี้สละโสดมีไปก่อนแล้ว"

"ตอนแรกก็มีความเห็นว่าควรจะแต่งเลย แต่ตอนนี้ก็กลายเป็นกระเถิบออกไปก่อน พอหยุดคิดกันได้ก็เลยกระเถิบออกไปก่อนครับ ในทางของสาธารณะนะครับ ก็มาคิดว่าทำไมไม่ลองดูไปก่อนว่าไปกันรอดมั้ย เพราะอาร์ทติสท์ทั้งคู่ (หัวเราะ)"

รักครั้งเก่ารักษาไว้ไม่ได้ เอาจุดบกพร่องทั้งหมดกลับมาแก้ไข
"รักครั้งที่ผ่านมาก็เอามาปรับใช้ ผมคิดว่าผมเจอแบบนี้มาแล้วครั้งนึง และผมก็รักษามันไว้ไม่ได้ คือเขาบอกว่าไม่ต้องมาเริ่่มใหม่กับเขาแล้ว ไปเริ่มใหม่กับคนใหม่แล้วทำให้เห็นก่อน ทำให้ดูก่อน ผมก็เอาจุดที่ผมบกพร่องทั้งหมดเอากลับมาแก้ มีการคุยกันแบบผู้ใหญ่มากขึ้นว่าเราควรจะอยู่กันยังไง ปรับปรุงกันตรงไหน เราจะต้องทำอะไร ที่แน่ๆ ก็คือเรื่องลูกของผม เรื่องเรามีครอบครัว ถ้าตัวเขาเองก็ไม่ค่อยนะครับ เขาไปดูหมอมาเขาบอกว่าไปดูที่ไหนก็บอกว่าเขาจะได้พ่อหม้าย (หัวเราะ)"

รักครั้งก่อนทำให้เปลี่ยนไปแค่ไหน
"ปีนี้อยากให้ไปดูโชว์ของผมนะครับ นักข่าวหรือใครก็ตามขอให้ไปดูกัน ดูงานผม ความรักครั้งนี้เป็นเรื่องที่ยากที่สุดแล้วกัน แต่ผมก็ตั้งใจเต็มที่ ผมเอามาแก้อยู่แล้วครับ ปีนี่ผมจะ 30 แล้ว และอัลบั้มที่ 3 แล้ว เราผ่านช่วงขึ้นลงๆ มาเยอะแล้ว เราต้องมีประสบการณ์และเอามาแก้ได้แล้ว นี่ก็ช้าแล้วนะ (หัวเราะ)"

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)