ลูกสาว “สมรักษ์” ยอมรับช็อก พ่อถูกเพื่อนหักหลังจนเป็นบุคคลล้มละลาย ยันพ่อหนูแมนมาก รับทุกอย่างไว้คนเดียว ครอบครัวช็อตเงิน แต่ไม่ฟุ้งเฟ้อ และยังสบายดี พร้อมหาเงินเป็นเสาหลักครอบครัว ก่อนยันพ่อยังไม่ถูกปลดออกจากราชการ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว
จากกรณีที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่องคําสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด โดยระบุว่า ศาลมีคำสั่งให้ “สมรักษ์ คำสิงห์” และภรรยากลายเป็นบุคคลล้มละลาย จนมีกระแสข่าวว่าเจ้าตัวอาจต้องถูกออกจากราชการ อย่างไรก็ตาม สมรักษ์ได้เผยว่ากรณีดังกล่าวเป็นคดีเก่าที่ค้างคามานานหลายสิบปี สมัยยังชกมวยรับใช้ชาติ สาเหตุเกิดจากความไม่เชี่ยวชาญในเรื่องเอกสาร ประกอบกับการทำธุรกิจ มีหนี้กว่า 4 ล้าน ทำให้กลายเป็นคดีที่ยืดเยื้อมาถึงปัจจุบัน
ล่าสุด “เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์” ลูกสาวสมรักษ์ ได้ออกงาน Cathy Doll Present Magic Moment with Peck Palitchock ตอน CathyDollรวมพลังนุชให้รู้ว่าสุดแค่ไหน ลานหน้า Central World โซน Square A ลั่นพ่อหนูแมนมากที่รับทุกอย่างเอาไว้คนเดียว ทั้งที่ถูกเพื่อนหักหลัง
“ทราบแล้วค่ะ ในฐานะลูกก็ยอมรับว่าตกใจ ตอนนี้คุณพ่อก็เริ่มไปเคลียร์ตัวเองแล้ว อย่างวันนี้ก็ออกจากบ้านไปกรมทหาร ซึ่งเรื่องนี้เราเองก็ทราบเรื่องมานานแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะถึงขั้นที่เป็นข่าวอยู่ เรื่องออกจากราชการไม่ได้ออก ทางกรมทหารเรือบอกว่าการที่จะออกจากราชการคือต้องทำให้ทางกรมเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ในกรณีนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณพ่อไม่ได้กระทบกรมทหารเรือ”
“ตอนนี้คุณพ่อก็ยังทำงานปกติ ทุกอย่างยังเหมือนเดิมอยู่ ในส่วนของเรื่องของคำสั่งศาลก็มีการคุยกับทางคู่กรณี ซึ่งเป็นผู้ปล่อยข่าวว่าคุณพ่อล้มละลาย เราเองก็ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะล้มละลายหรือไม่อย่างไร เพราะทางคู่กรณีหลังจากที่ปล่อยข่าวออกมาแล้วก็มีการโทร.มาขอโทษ เรื่องนี้ทางคุณพ่อเป็นคนพูดว่าคู่กรณีได้โทร.มาเจรจา คุณพ่อก็บอกไปว่าปล่อยข่าวออกไปโดยไม่ได้ถามเขาเลย”
“จากที่ทางกรมทหารเรือบอก การจะออกจากราชการจะต้องเป็นการทำให้กรมเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่เรื่องนี้เราเองก็ไม่แน่ใจ โดยวันนี้คุณพ่อได้เข้าไปคุยกับทางกรมเรียบร้อยแล้ว แต่รายละเอียดเป็นยังไง เราเองยังไม่ได้คุยกับคุณพ่อ เพราะคุณพ่อพูดให้ฟังประมาณว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ก็จะไปอธิบายให้ทางกรมเข้าใจ”
ช็อกรู้ข่าวพ่อล้มละลาย แต่ให้กำลังใจกัน ลั่นที่ผ่านมารายได้ครอบครัวมีช็อต
“ตอนที่ทราบข่าวก็ตกใจนะ ทั้งที่เราเองก็ไม่เข้าใจว่าล้มละลายคืออะไร ก็ได้ไลน์ถามเพื่อน เพื่อนก็อธิบายให้ฟังแล้วถึงจะมาถามคุณพ่อ คุณพ่อบอกว่าเราเองยังหารายได้ช่วยครอบครัวได้ ถามว่าได้ถามคุณพ่อมั้ยว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เรื่องนี้เราเองไม่ทราบในรายละเอียดมากนัก รู้แค่ว่าเป็นเรื่องธุรกิจที่ทำตั้งแต่ที่เราเป็นเด็ก เป็นเรื่องที่เกิดมาตั้งแต่เราเป็นเด็กแล้ว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องปั้มน้ำมันของคุณตาคุณยาย เรื่องนี้คุณพ่อได้ไปคุยกับทนายว่าสรุปแล้วเรื่องราวเป็นยังไง ก็สรุปแล้วว่าไม่ใช่เรื่องนั้นแต่เป็นอีกเรื่องนึง”
“ถามว่าสถานการณ์ในครอบครัวเป็นยังไง สถานการณ์ในครอบครัวปกติ ถามว่าที่มีข่าวมันรุนแรงมั้ยก็รุนแรง มันก็ทำให้ช็อกไปนิดนึง แต่ตอนนี้กลับมาปกติ ตอนนี้ก็ให้กำลังใจกันมากกว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมารายได้ในครอบครัวก็มีช็อตบ้าง แต่ก็อย่างที่คุณพ่อได้ให้สัมภาษณ์ไปว่าเราสามารถหารายได้ได้”
“ขั้นตอนต่อไปถามว่าจะไปประนีประนอมกับเจ้าหนี้มั้ย เรื่องนี้เราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ในฐานะที่เราเป็นลูกในตอนนี้คงช่วยได้ด้วยการทำงาน มารับงาน ก่อนหน้านี้ตอนเด็กๆ ก็รับงานอยู่แล้ว มีรีวิวสินค้า เดินแบบ ถ้าช่วยได้ก็อยากจะช่วยพ่อ อยากจะเป็นกำลังหลักให้กับครอบครัวอีกแรงนึง”
“เราเองก็มีแอบถามพ่อว่าต่อจากนี้เราจะต้องมาเป็นกำลังหลักให้ครอบครัวแล้วใช่มั้ย เราเองก็พร้อมที่จะมาเป็นกำลังหลักในครอบครัวเพราะเราเองก็อายุ 18 ปีแล้ว ถ้าได้มาเป็นเสาหลักมันก็ดีในอนาคต”
“สถานะเงินครอบครัวเราก็เป็นสถานะปานกลาง หรือว่าคุณพ่ออาจจะไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นปัญหา ที่ผ่านมาเศรษฐกิจในบ้านไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเงิน อย่างเวลาเราไปไหนมาไหน คุณพ่อคุณแม่ก็ซัปพอร์ตตลอด ไม่เคยมีปัญหาอะไร”
โอดพ่อไม่อยากรบกวนเงินลูก ยันพ่อแมนมาก ขอรับไว้คนเดียว แฉพ่อถูกเพื่อนหักหลัง
“คุณพ่อให้สัมภาษณ์ว่าไม่อยากรบกวนเรา ในตอนนี้ถ้าเทียบในเรื่องของจำนวนเงินเราสามารถหาเงินให้คุณพ่อคุณแม่เอาไปใช้ในตรงนั้นได้ ในเรื่องคดีตรงนี้ แต่คุณพ่อก็บอกว่ามันเป็นเงินที่เราเป็นคนหา เขาไม่อยากให้มากระทบกับเรา ถ้าเกิดมันเป็นปัญหาที่เกิดจากตัวเขา เขาก็จะจัดการด้วยตัวเขาเอง ซึ่งคุณพ่อก็แมนมากในเรื่องนี้ เขาก็บอกว่าถ้าเกิดจะต้องล้มละลายเขาก็จะยอม ถ้าเกิดจะต้องเป็นให้เป็นที่เขาคนเดียว”
“เรารู้ว่าพ่อเราเป็นยังไง พ่อเราเป็นคนจริงใจ พอเรามีความจริงใจกับใคร แต่เราเห็นเพื่อนพ่อบางคนก็หวังร้ายกับพ่อเรา อย่างเรื่องนี้เองพ่อให้สัมภาษณ์ไปว่ามันไม่ได้เกิดจากตัวเขา แต่เกิดจากคนที่มาหวังร้ายกับเขา”
“เรื่องคนไม่เข้าใจแล้วจะเป็นจุดด่างพร้อย เราเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ตัวเราเองไม่รู้อะไรลึกขนาดนั้นแต่สิ่งที่เรายืนยันได้คือคุณพ่อเป็นคนจริงใจและก็เป็นคนแมนจริงๆ แต่พอเราจริงใจไปแล้วเรากลับได้คนไม่จริงใจกลับมา คุณพ่อก็เป็นคนสู้ คือพ่อหนูแมนมาก ถามว่าถูกหลอกมั้ย เราเองก็ไม่รู้ว่าจะเรียกแบบนั้นได้มั้ย แต่ในมุมของเราก็เรียกแบบนั้นได้ ก็เหมือนโดนเพื่อนหักหลัง ไม่รู้ว่ามันแรงไปมั้ย”
ยันไม่ได้เกี่ยวกับความฟุ้งเฟ้อในครอบครัว แม่เคี่ยวเรื่องเงินมาก
“ไม่นะ เพราะคุณแม่เป็นคนที่เคี่ยวมาก เลยเป็นเรื่องยากที่จะใช้เงินฟุ่มเฟือย อย่างเราเข้ามหาวิทยาลัยคุณแม่ยังบอกเลยว่าต้องขอทุนให้ได้ ที่ได้เรียนม.รังสิตเพราะว่าได้ทุน คุณแม่ก็พยายามกระตุ้นให้เรามีความรับผิดชอบ ก็เลยเคี่ยวกับเรา ตอนนี้คุณแม่ดูเหมือนจะเครียดมากกว่าคุณพ่อ คุณพ่อยังยิ้มได้แต่คุณแม่มีความกังวลว่าจะเอายังไงต่อไป”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)