xs
xsm
sm
md
lg

เพราะความฮามันได้! ให้ 9 เต็ม 10 : ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก

เผยแพร่:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา


ขณะที่หนังตลกบ้านเราดูเหมือนจะร่วงโรยความนิยมลงไปพอสมควร เพราะต้องยอมรับว่า หลายต่อหลายเรื่อง นอกจากจะไม่ตลกแล้ว ยังก่อให้เกิดความเศร้าอยู่ลึกๆ จนนึกอยากจะเขกกบาลสั่งสอนตัวเองว่า เอาเวลาและเงินค่าตั๋วไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กับชีวิตกว่านี้ จะดีกว่าไหม

ในขณะที่กำลังสองจิตสองใจว่าจะดูดีไหม “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” แต่สุดท้าย ก็โอเค คิดว่า ยังไงก็ยังมีน้าค่อม ชวนชื่น มีคุณโอ๊ต ปราโมทย์ ไหนจะพี่โรเบิร์ต สายเขียว เอ๊ย! สายควัน อีกคน คงจะมีอะไรให้ขำๆ อยู่มั้ง?

และก็ไม่ผิดหวัง อีกทั้งเหนือกว่าความคาดหวังไปมากเลยครับ สำหรับหนังไทยเรื่องล่าสุดที่เข้าโรงฉายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่วนที่ฮา ก็ฮาได้สุด ส่วนที่เป็นเนื้อหาสาระ ก็พอสะกิดให้ได้คิด ถึงแม้หนังจะเล่าแบบไม่เครียด แต่ก็แอบมีมุมซีเรียสเล็กๆ อยู่เหมือนกัน กระนั้นก็ดี เมื่อหนังเดินมาในสายตลก ก็ควรต้องหยิบยกมุมนี้มาพิจารณาก่อน

เรื่องย่อๆ ก็มีอยู่ว่า “ศักรินทร์” (พีช พชร) เรียนจบการศึกษาชั้นปริญญาตรี ขณะที่ครอบครัวซึ่งมีแม่กับยาย อยากให้เป็นพนักงานแบงก์ แต่สมัครงานกี่ที กี่ที... ก็ยังไม่มีแบงก์ไหนเรียกตัว แต่เพราะคิดว่าไม่อยากให้ครอบครัวอับอายใครเขาที่มีลูกเรียนจบ ป.ตรี แต่หางานดีๆ ทำไม่ได้ เขาจึงแกล้งทำเป็นใส่ชุดพนักงานแบงก์ออกจากบ้านไปทุกเช้า โกหกว่าไปทำงาน แต่พอพ้นหูพ้นตา เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นคนขับวินมอเตอร์ไซค์ เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างนี้นานนับปี จนกระทั่งการมาถึงของ “ครูปรีชา” เอ๊ย! “ลุงปรีชา”

“ลุงปรีชา” เป็นเพื่อนเก่าของพ่อ และเป็นอดีตนายตำรวจที่เคยทำงานด้านสืบสวนสอบสวนมาอย่างโชกโชน เห็นพิรุธในตัวคน เป็นไม่ได้ จะต้องหาความจริงให้เจอ และแล้วปฏิบัติการจับผิดศักรินทร์ก็เริ่มขึ้น ความลับที่เก็บไว้เป็นแรมปี จะถึงจุดพังพินาศก็คราวนี้ซะกระมัง

แน่นอนครับ “ลุงปรีชา” นี่ตัวเด็ดของหนังเลย เพราะไม่ใช่แค่ตัวโจ๊กเกอร์ที่เข้ามาก่อกวนชีวิตของหนุ่มวินให้ป่วนไปหมด แต่ยังเป็นออร่าในด้านความฮาอย่างถึงที่สุด ไล่ตั้งแต่รูปลักษณ์ที่เรียกว่าถอดแบบมาจากครูคนดังที่คนไทยทั้งประเทศต้องรู้จัก ไปจนถึงมุกตลกที่เรียกว่า “ลุงปรีชา” ยิงเข้าเป้าทุกมุก แถมมีให้ฮาตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงต้องซูฮก “น้าค่อม ชวนชื่น” ที่เล่นบทนี้ได้ขำมากๆ ใครที่รักชอบการแสดงของน้าค่อมอยู่แล้ว รับรองว่าจะฮาคูณสิบไปเลยจากบทบาทและมุกตลกของน้าในหนังเรื่องนี้

ส่วนคนที่ 2 ซึ่งพูดได้ว่าก็มีผลต่อชีวิตของศักรินทร์ไม่น้อยเลย นั่นก็คือ “พี่เอ” (โอ๊ต – ปราโมทย์ ปาทาน) รองผู้จัดการธนาคารที่เคยหล่อล่ำแฮนด์ซั่มแมนสมัยเรียนมหา’ลัย ถึงขนาดคว้าหัวใจของสาวสวยซึ่งเป็นเพื่อนเก่าวัยเรียนของศักรินทร์ อันที่จริง มีหลายมุกตลกมากจากบทของโอ๊ต ปราโมทย์ แต่ผมเชื่อว่า จะมีอยู่มุกหนึ่งแน่ๆ ที่จะทำให้คุณขำแทบตกเก้าอี้ (มุกนี้ คนดูรอบเดียวกับผม ขำพร้อมกันจนลั่นโรง ถือว่าตลกแบบมีมติเป็นเอกฉันท์) แม้พูดกันตามจริง อาจจะดูไม่ค่อยน่าเล่นเท่าไหร่ เพราะมันดูเหมือนล้อๆ ผู้ป่วยอยู่ในที แต่ด้วยจังหวะการจัดวางและการสื่อออกมาดี โดยเฉพาะคนที่อยู่ร่วมฉากตรงนั้นอย่างคุณเจนนิเฟอร์ คิ้ม (แม่ของศักรินทร์) ก็ไม่ได้มีท่าทีล้อเลียนอะไร ... ลองเปรียบเทียบง่ายๆ ถ้ามีพูดล้อเลียนเรื่องลิ้นหรือเรื่องการพูดที่ไม่ชัด อันนั้นก็จะดู “เป็นแบบอื่น” ไปทันที

และคนที่ 3 ที่หิ้วความตลกติดตัวมาด้วย ก็คือ โรเบิร์ต สายควัน เจ้าของสโลแกน “ชีวิตมีค่า อย่าคิดซ่ากับสายควัน” และ “ผมไม่ได้ขาย ผมเสพอย่างเดียว” ซึ่งกับหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวปูและตัวตบมุกได้ดีมากๆ ฉากไปกินข้าวที่บ้านแม่ของศักรินทร์แล้วจบลงด้วยยาขยัน เป็นอีกหนึ่งฉากจำที่เชื่อว่าทุกคนคงขำไปกับเขา

สรุปก็คือ ความตลกนี่ปังมากๆ ครับ สมกับที่หนังวางตัวเองในตำแหน่งของหนังตลกเต็มรูปแบบ ซึ่งก็ทำออกมาได้เต็มรูปแบบจริงๆ อย่างไรก็ดี ถ้าจะมองหนังเรื่องนี้ในเชิงซอกแซกหาเนื้อหาสาระ ก็อย่างที่บอกครับว่า มีอะไรให้คิดพอสมควร

หนังเล่นกับเรื่อง “ความลับ” หรือ “การไม่พูดความจริง” เพราะกลัวคนที่รักเสียใจ และตามเก็บประเด็นนี้ได้อยู่หมัด เป็นที่ซาบซึ้งใจกันไปตามสมควร ด้วยมวลสารความรักที่มีทั้งมุมของครอบครัว รวมไปจนถึงความรักในแบบหนุ่มสาวที่จะขาดไม่ได้ในหนังทรงนี้

พูดอย่างถึงที่สุด “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” เป็นหนังตลกที่ดูแล้วคุ้มค่าตั๋วครับ ไม่ใช่หนังที่ดูแล้วนึกอยากให้กำลังใจ แต่เพราะหนังมันให้อะไรแก่เราจริงๆ ในทางของมัน...



ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก
กำกับ : พฤกษ์ เอมะรุจิ
นำแสดง : พีช-พชร จิราธิวัฒน์, ฝน-ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล, เจนนิเฟอร์ คิ้ม, โอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน, ค่อม ชวนชื่น, โรเบิร์ต สายควัน






กำลังโหลดความคิดเห็น