xs
xsm
sm
md
lg

“นาย” ภูมิใจคว้าปริญญาใบแรกของวงศ์ตระกูล ขอเปลี่ยนดอกไม้ เป็นเงินสมทบทุนเพื่อการศึกษา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“นาย ณภัทร” ใจสั่น ตื้นตันเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพฯ บอกแม่สุดปลื้มเป็นปริญญาใบแรกของตระกูล ยันไม่ทิ้งสิ่งที่เรียนมา จะนำความรู้ที่ได้จากการเรียนนำไปช่วยเหลือสังคมให้ได้มากที่สุด ไม่รับดอกไม้แต่ขอเปลี่ยนเป็นเงินสมทบทุนเพื่อการศึกษา

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตร และประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีการศึกษา 2560 ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน 2561

โดยในปีการศึกษานี้ “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” ลูกชายของคุณแม่ “หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ” ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่สำเร็จการศึกษา คณะศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขา Communication Design วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในช่วงเช้าวันที่ 20 กันยายนนี้ ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.2 โดยเจ้าตัวเผยว่าถือเป็นคนแรกของตระกูลที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตร

“วันนี้เป็นวันพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพฯ เพิ่งออกมาสดๆ ร้อนๆ เลย ตอนซ้อมเราก็คิดว่าเหมือนออกงานทั่วไป แต่พอวันจริง ตั้งแต่ได้ยินเพลงจากวงดนตรีของดุริยางคศิลป์ฯ ก็ขนลุกตลอดเลย มันเหมือนภาพที่เราเคยเห็นตั้งแต่เราเรียนอยู่ชั้นปี 1 เราฝึกฝน เรามีความทรงจำในมหาวิทยาลัยแห่งนี้

“ทุกอย่างมันกลับมาจนวันนี้ที่เราทำวิทยานิพนธ์ออกไปจนประสบความสำเร็จ ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพฯ รู้สึกว่าตัวเองทำตัวไม่ถูกเลย มันใจสั่นไปหมด เป็นภาพที่ประทับใจมากๆ ตอนรับปริญญาบัตรก็ไม่กล้ามองพระพักตร์เลย รีบก้มรีบออก ทำเวลาให้เร็วที่สุด วันนี้มีช็อตประทับใจอันนึงคือตอนที่กล่าวคำปฎิญาณต่อหน้าพระพักตร์ ท่านให้คำอวยพร คำยินดีกับนักศึกษาบัณฑิตใหม่ทุกท่าน เป็นภาพที่ประทับใจมากเลย ผมยืนอยู่ข้างหลังสุด เห็นบรรยากาศ โลโก้มหิดล เห็นทุกอย่าง มันเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตจริงๆ ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากวันนี้ภูมิใจที่วันนี้มาถึงเสียที”

แม่ผมนี่ปลาบปลื้มตั้งแต่วันซ้อมย่อยวันเล็กๆ เลย เขาก็ตื่นเต้น ปริญญาใบแรกของตระกูลผมเลยก็ว่าได้ เขาน่าจะตื่นเต้นกว่าผมเยอะเลย ที่ผ่านมาฝ่าฟันกันมาหนักสุดๆ กว่าจะได้ปริญญาใบนี้ สำหรับผม ผมสอบเทียบวุฒิ ผมเข้ามหิดลได้ตอนอายุ 16 ปี จะอ่อนกว่าคนอื่น 2 ปี พอเข้ามาก็ต้องพยายามกว่าคนอื่นเยอะมากๆ เราโชคดีที่มีอาจารย์ดี ได้เพื่อนฝูงที่ดี ได้สังคมที่ดี เจอในสิ่งที่เราชอบ”

“เรารักที่จะเรียนก็คือในสาขาคอมมูนิเคชั่นดีไซน์ เกี่ยวกับงานออกแบบ งานดีไซน์ ตอนปี 2 เราก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ช่วงนั้นเป็นอะไรที่เหนื่อยมากเพราะเราเพิ่งเริ่มทำ ทุกคนก็ให้กำลังใจเรา พอทำไปเรื่อยๆ ทุกอย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้น เกรดที่ออกมาเอหมดเลย เราก็ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อว่านักศึกษาหลายท่านก็คงเป็นเหมือนผมที่ว่าต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว”

“ผมว่าแต่ละคนก็มีประสบการณ์ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน มาถึงวันนี้แล้ววันที่เราประสบความสำเร็จในชีวิตขั้นนึงแล้ว รับปริญญาแล้ว มันหายเหนื่อยหมดเลย มองว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่คุ้มค่าที่เราเลือกที่จะไม่ปฏิเสธโอกาสอะไรทั้งนั้น ยอมทำ ยอมเฉือนเนื้อตัวเอง ยอมเสียน้ำตา ทุกอย่างเพื่อที่จะได้มาในวันนี้ ผมจะเป็นคนที่ทำอะไรผมจะคิดเสมอว่าผมไม่เก่ง ผมเชื่อว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จจะอยู่ที่นั่น”

เผยแพลนนำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา เอามาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วงเหลือสังคม
“งานดีไซน์ที่ผมเรียนมา ตั้งใจว่าจะไม่ทิ้งแน่นอน สัญญากับตัวเองว่าภายใน 1 ปี ผมต้องทำงานดีไซน์ซึ่งเป็นโปรเจกต์เพื่อสังคมอะไรสักอย่าง เพื่อไม่ให้เราขาดด้านนี้ไป มันเป็นสิ่งที่เรารักที่จะทำ น่าจะมีคนเห็นในอินสตาแกรมของคุณแม่แล้วว่าผมทำโปรเจกต์นึงที่เป็นงานดีไซน์มา 4 เดือนแล้ว เป็นปฏิทินปี 2019 เป็นปฏิทินของณภัทร ผมทำเองทุกขั้นตอน เอางานธีสิสของผมมาต่อยอด งานดีไซน์ผมก็ทำเองหมด รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะมอบให้กับน้องๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สำหรับการศึกษา”

ลั่นวันนี้งดรับดอกไม้ แต่ขอนำเงินที่จะใช้ซื้อดอกไม้เปลี่ยนเป็นรับบริจาคเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือสังคม ระดมทุนเพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษา
ผมเชื่อว่ามีหลายท่านมางานรับปริญญาก็อยากจะมาแสดงความยินดี แต่ทีนี้ผมรู้สึกว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่อยู่ได้ไม่นาน เราได้มามันสวย เราขอบคุณคนที่ให้มามากๆ เลย แต่มันอยู่ได้ 1 - 2 วันเท่านั้นเอง ผมเลยหาวิธีอยากเอาเงินแทนที่จะไปซื้อดอกไม้ เอามาต่อยอดเป็นอย่างอื่นดีมั้น ก็เลยคิดว่าไหนๆ เราจะทำงานดีไซน์เพื่อสังคมแล้ว งั้นก็เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยแล้วกัน ขออนุญาตเปลี่ยนจากดอกไม้เป็นเงินสมทบทุนสำหรับการศึกหาให้กับน้องๆ ที่ขาดโอกาสด้านการศึกษาแทน”

“ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนกัน น่ารักมากๆ เลย ตอนนี้อยู่ในระหว่างการคัดเลือกว่าจะนำเงินบริจาคไปให้ที่ไหน เราอยากให้น้องๆ ที่อยู่ไกลและขาดแคลนจริงๆ ช่วงต.ค - พ.ย. คงได้ทราบกันเพราะจะเริ่มเปิดขายช่วงนั้น ปีนี้ผมก็เริ่มฟิตหุ่นแล้วเดี๋ยวคงได้เห็นที่มีถ่ายแบบถอดเสื้อกันด้วยนิดนึงในปฏิทิน”

ยันตอนนี้หายป่วยจากอาการไข้เลือดออกสายพันธุ์ชิคุนกุนยาแล้ว
“เราทำงานหนัก ไปทำงานที่ต่างประเทศกลับมาสภาพพังมาก ตอนแรกผมขอไม่ให้แม่บอกใครเพราะว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แล้วตัวเราเองก็ต้องรีบพักฟื้นด้วย เพราะใกล้วันรับปริญญา เราไม่อยากให้ไปติดเพื่อน ก็รักษาตัวพักผ่อนให้เต็มที่ อยู่โรงพยาบาล 3 วันแต่เป็นมาแล้ว 7 วัน เราก็รักษาตัวเองเหมือนปกติ ปกติเป็นนักกีฬา ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลมา 6 - 7 ปีแล้ว นอกจากแพ้รุนแรง ครั้งนี้คือมันปวดหัว นอนหลับไม่ได้ ทรมานสุดๆ ก็เลยไปเช็กที่โรงพยาบาล ปรากฏว่าเลือดขาวหายไปวันต่อวันเยอะมากๆ จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล ตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ เกือบหายดีแล้ว”






กำลังโหลดความคิดเห็น