แฉครั้งสุดท้าย “เก๋ กันยกร” ลั่นลบรอยสักไม่อยากให้ “เลเดอเรอร์” พ่วงท้ายชีวิตอีก แตกหักไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์-โกงเงิน แต่อยู่กับชีวิตที่สมมติมาโดยตลอด ไม่รู้อีกฝ่ายแท้จริงเป็นใคร วันนี้ดีใจที่ได้แยกออกมาอยู่ในโลกความเป็นจริง ขอเริ่มต้นกับลาพรีมและจะจบกับมันที่นี่ เสียใจยึดมั่นกับสิ่งสมมติจนตาบอด สูญเสียทุกอย่างแม้กระทั่งคำว่าบ้านและครอบครัว บอกพูดกับใครไม่ได้ นอกจากคนที่โดนเหมือนกัน ย้ำถ้าอีกฝ่ายขุด จะมีคนขุดกลับ
จากกรณีการตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตายของนางแบบเซ็กซี่ “เก๋ กันยกร ศุภการค้าเจริญ” หรือที่รู้จักกันในนาม “เก๋ เลเดอเรอร์” ที่ดูมีเงื่อนงำ มีประเด็นการทำธุรกิจและโกงเงิน 14 ล้าน รวมทั้งมีบางเพจอ้างว่ามีจดหมายลาตายของเก๋ ที่เขียนแฉถึง “เอิร์ก เลเดอเรอร์” น้องสนิทเป็นครั้งสุดท้าย ทำให้เอิร์กถูกกระแสสังคมโจมตีว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในสาเหตุการตายครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ให้ความสำคัญกับการที่เก๋เปิดใจให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย ในรายการ “ปากปลาร้าหน้าเป๊ะ” ดำเนินรายการโดย “โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา” ซึ่งออกอากาศในวันที่ 15 ก.ย. ทางช่องมายาแชนแนล ซึ่งมีการพูดถึงอดีตคนสนิทเอาไว้ เป็นเทปสุดท้ายที่เก๋เปิดใจ ก่อนอีกวันเก๋จะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย โดยเมื่อเวลา 09.30 น. เทปดังกล่าวได้ออกอากาศเป็นการไว้อาลัยต่อการจากไปของเก๋
“เรื่องการตอบคำถามแรง เอ็กซ์เซ็กซ์เสียว เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้วค่ะ ตอนนี้คือตัวตนที่แท้จริง ส่วนการสักคำว่าเลเดอเรอร์ เพราะเซ็กซี่นุ่งน้อยห่มน้อย เวลาถ่ายรูปแบรนด์จะได้ติดไปด้วย ก็ประสบความสำเร็จมาก เราเต็มที่”
ยันอีกฝ่ายไม่ใช่น้องชาย แต่ทำธุรกิจจนสนิทสนม กินนอนอยู่บ้านเดียวกัน ย้ำตัวตนไม่ได้เซ็กซี่
“ไม่ได้เป็นน้องชาย เราทำธุรกิจด้วยกัน เลยทำให้สนิทสนม เราอยู่ด้วยกัน กินนอนด้วยกันในบ้านหลังเดียวกัน เลยสนิทสนมกัน ถามว่าทำไมวงแตก เลเดอเรอร์ไม่ใช่วง เลเดอเรอร์คือผลิตภัณฑ์ ตอนนี้เก๋แยกตัวแล้วออกมาอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ตัวเก๋ทำลาพรีมคลินิก คลินิกศัลยกรรมครบวงจร อยู่เลียบทางด่วนรามอินทรา ถ้าคนที่ติดตาม ตอนแรกจะทำเป็นเลเดอเรอร์คลินิก แต่ไหนๆ ไม่ได้ข้องเกี่ยวกันแล้ว เลยแยกตัวและตั้งชื่อใหม่ (ต้องมีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่า เดิมที่เคยทำกับพาร์ตเนอร์ก็โด่งดังนะ?) โด่งดังนี่อะไรโด่งดัง ต้องช่วยวิเคราะห์หน่อยค่ะ ตัวเก๋โด่งดัง ตามด้วยแบรนด์ นั่นเท่ากับเก๋ทำงานหนักมาก ทำให้แบรนด์โด่งดัง”
“วันนึงที่เราเริ่มเหนื่อย เรารู้สึกว่าถึงจุดอิ่มตัว ความจริงจะมานั่งพูดวันนี้ว่าตัวตนไม่ใช่เซ็กซี่ก็ไม่ใช่ ผู้หญิงทุกคนมีความเซ็กซี่แต่ไม่ได้ขนาดนั้น แต่ตอนนั้นขายผิวก็มากขนาดนั้น วันนี้มากมั้ยก็มากระดับหนึ่ง แต่พอมาทำลาพรีมคลินิกก็เป็นความงามเหมือนกัน ทำเสริมหน้าอก เลยต้องนิดนึง ทุกอย่างเป็นงาน แต่ถ้าชีวิตส่วนตัวเก๋ ถ้าใครติดตามและรู้จักจริงๆ จะรูว่าเก๋เป็นยังไง บางทีคนดูที่สื่อมากกว่ารู้จักตัวตนที่แท้จริง บางคนอยู่หน้ากล้องตลกมาก แต่ตัวจริงไม่ตลกก็มี”
“ตัวตนของเก๋ คือลูกของทหารคนหนึ่งกับแม่บ้านทหารคนนึง ไม่ได้มีความร่ำรวย เป็นคนพะเยา มาเรียนที่กรุงเทพฯ ต้องการเข้าวงการบันเทิงเพราะบ้านเราไม่ได้รวย ก็ได้เปรียบเรื่องสรีระด้วยสูงสูงและอยู่ต่างจังหวัด เป็นนางงามเดินสายมาตลอด ทำให้เก๋ได้เข้ามาเวทีใหญ่ระดับประเทศ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส เข้ารอบ 44 คนสุดท้าย ปีฟ้า ชัญษร สาครจันทร์ แต่ไม่ได้เข้ารอบลึกๆ หลังจากนั้นก็เก็บตัวเองใหม่ ไปประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2012 แต่เราพูดว่าเราเป็นนางงามเดินสายก็เลยตุ๊บ แต่เราได้รางวัลพิเศษ นางงามช่วยเหลือสังคม เป็นสามคนที่ได้รับคัดเลือกว่าเป็นบุคคลที่มีการช่วยเหลือสังคมดีที่สุดในบรรดาผู้เข้าประกวด และชนะเลิศนางงามผิวสวย พอได้นางงามผิวสวยก็บวกกับการขายครีม เก๋ไปประกวดมิสเวิลด์ ที่เลบานอน ก็เอาตรงนั้นมาต่อยอด”
อยู่กับชีวิตที่สมมติมาโดยตลอด ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายเป็นใคร วันนี้แฮปปี้ที่ได้แยกออกมา
“อย่าไปพูดถึงเดี๋ยวเขาฟ้องเอา คำว่าพี่น้องสมมติเก๋ชอบมาก บางทีย้อนกลับไป ที่ผ่านมาก็ชีวิตสมมติเหมือนกัน ไม่ได้เรียลจริงๆ ถามว่าแยกกันตรงไหน เพราะคำว่าสมมติ คือเก๋ไม่รู้ว่าเก๋ถูกสมมติอะไรบ้าง และไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคนที่เก๋อยู่ด้วยคือใครกันแน่ (ของที่ให้กันสมมติด้วยหรือเปล่า?) ก็เพราะคำวาสมมติค่ะ ไม่ใช่ว่าวันนี้เก๋แยกออกมาแล้วจะออกมาพูดนะคะ รายการนี้จะเป็นรายการแรก รายการเดียว รายการสุดท้ายที่เก๋จะออกมาพูด หรือหลายคนจะได้เห็นเก๋จากที่ตรงนี้เป็นที่สุดท้าย (เสียงสั่น) วันนี้รู้สึกแฮปปี้กับการได้แยกออกมา แต่ดีเทลหลายๆ อย่างถ้าพูดคนเดียวไปกระทบ เขาฟ้องร้องอีกก็ไม่ดี”
ฝากบอกสังคมอย่าสมมติกับชีวิต
“อย่าสมมติกับชีวิต ไม่ได้ทำแล้ว แยกขาดโดยถาวร ถามว่าจบสวยหรือไม่สวย มันยังนับศพไม่ได้ค่ะ ตอนนี้มีบางคนบางท่านก็ไม่รู้ว่าเราแยกกันแล้วเพราะเก๋ไม่ได้ออกมาพูดตรงไหน แต่ถ้าคนสังเกตดีๆ จะรู้ เลเดอเรอร์ไม่ใช่นามสกุลค่ะ เลเดอเรอร์มาจากฉายา ไม่ใช่นามสกุลนั้นค่ะ พอเรามาทำธุรกิจเราเปลี่ยนนามสกุลให้เป็นมงคล ว่าศุภการค้าเจริญ ไม่เคยใช้นามสกุลอื่นใด”
สักลูกศรทับเลเดอเรอร์ ไม่อยากมีคำนี้พ่วงท้ายกับชีวิตอีก
“เราไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องพรีเซ็นต์ตรงนั้นแล้ว เราดีไซน์เป็นลูกศรเพราะมันเป็นตัวหนังสือมันทับยาก เก๋แค่อยากปิดทับๆ ให้เสร็จไป ลูกศรไม่ได้มีความหมาย (ไม่อยากพูดถึงอีก?) ไม่อยากมีคำว่าเลเดอเรอร์พ่วงท้ายกับชีวิตอีก”
อีกฝ่ายต้องออกสื่อเพราะไม่มีตนทำให้เหมือนเดิม
“เก๋เบาลงเพราะเน้นธุรกิจเก๋ซะส่วนใหญ่ แต่อีกฝ่ายนึงก็ปกติ ดันตัวเก๋ออกมา เขาก็ไม่ต้องทำอะไร แต่พอไม่มีตัวเก๋เขาก็ออกมาทำเอง ทุกวันนี้ไม่คุยกันค่ะ นอกจากมีเหตุจำเป็นจริงๆ อย่างเช่น ตามเอาค่าทนาย อะไรอย่างนี้(หัวเราะ)”
เงาไม่เหยียบ ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ เสียงสั่นทุกวันนี้ครอบครัวแทบไม่เชื่อในตัวตน เพราะเทให้ทางโน้นทั้งหมด ยึดมั่นในสิ่งที่สมมติ รักจนตาบอด
“เงาไม่เหยียบค่ะ แต่ผีไม่เผา เป็นเรื่องอนาคต ไม่รู้ใครตายก่อนตายหลัง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ทางธุรกิจเลย ตัวเก๋ขายครีม กำไรเก๋ก็ได้ของเก๋ ไม่ได้เกิดจากการโกงเงินค่ะ แค่รู้สึกมันเป็นการทำธุรกิจที่เอาแต่เรารับหน้า พอมันเกิดข้อผิดพลาด เวลาได้ดีสองฝ่ายแฮปปี้ แต่พอผิดพลาด ตัวเก๋ ครอบครัวเก๋โดนเต็มๆ หลายๆ อย่าง จนทุกวันนี้ ตอนนี้ครอบครัวก็แทบไม่เชื่อในตัวเก๋เลย เพราะเหมือนเก๋เทไปทางโน้นและทำทุกอย่างที่มันไม่ค่อยโอเค เขาก็เตือนอะไรต่างๆ นานา”
“ไม่ฟังเพราะยึดมั่น ถือมั่นเชื่อในสิ่งสมมติทั้งหลายว่าจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ ถามว่าเราโง่อินโนเซ้นส์เหรอ เหมือนที่เขาว่ารักจนตาบอด เชื่อใจจนหลงทาง มันมีจริงๆ พอเก๋ถอยออกมาก็มองภาพกว้างขึ้นไม่ใช่แค่เก๋ที่โดน ก่อนหน้านั้นมีคนที่โดนแล้วแต่เขาไม่พูดกับเรา เพราะคิดว่าเพื่อนอย่างเขาคงไม่มีน้ำหนักที่จะพูดและให้เราเชื่อได้ เพราะเราปิดหูปิดตา ฟังแต่สิ่งสมมติทั้งหมดที่เกิดขึ้น”
ได้ความเป็นตัวตนกลับมา แต่สูญเสียทุกอย่าง แม้กระทั่งคำว่าบ้าน และครอบครัว ลั่นพลาดเชื่อในสิ่งสมมติ ไม่สนใจว่าจริงหรือปลอม
“บทเรียนครั้งนี้เป็นครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเก๋ก็ว่าได้ค่ะ เพราะทำให้เก๋สูญเสียทุกสิ่งทุกย่าง รวมไปถึง ตอนนี้เก๋ได้ความเป็นตัวเก๋กลับมาก็ใช่ แต่นอกจากสิ่งที่ได้กลับมาในเรื่องความเป็นตัวเก๋ เก๋ก็ไม่ได้อะไรเลย เก๋สูญเสียทุกอย่าง แม้กระทั่งคำว่าบ้านกับครอบครัว(เสียงสันเครือ) ตอนนี้จากนี้ไม่รู้ว่า (นิ่งคิดก่อนถาม) อันนี้จะออนแอร์เมื่อไหร่คะ เก๋กดดันค่ะ เก๋บอกเลยว่าเก๋กดดัน เหมือน ณ วันนี้เก๋พูดกับคนที่เขาเข้าใจได้เพียงไม่กี่คน ที่เขาเข้าใจเพราะเขาถูกกระทำแบบเก๋ แต่คนที่ไม่ได้ถูกกระทำแบบเก๋ ไม่ได้มาคลุกคลีกับเก๋ ก็มองเป็นอย่างอื่น อย่างถ้าผู้ชมนั่งดูแล้วไปรื้อฟื้น ก็จะคิดว่าเป็นการทำร่วมด้วยช่วยกัน เราไม่ปฏิเสธ แต่เราดันพลาดเชื่อในสิ่งสมมติ โดยไม่ได้สนใจว่ามันจริง แท้ หรือปลอม เรามองข้ามทุกอย่างไป เราให้แต่ความเชื่อมั่นและความทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง”
โต้เสี่ยเลี้ยงเลยทิ้งอดีตพาร์ตเนอร์ แค่อยู่ในโลกความจริง เริ่มนับจากศูนย์
“เก๋ไม่ได้ทิ้งพาร์ตเนอร์เก่าค่ะ แต่เก๋เลือกที่จะเดินกลับมาหาจุดที่เก๋เรียกว่าครอบครัวมากกว่าค่ะอีกอย่างนึง ตรงนั้นเป็นที่ดินของที่บ้านของผู้มีประคุณที่เก๋เรียกว่าครอบครัว เป็นตัวตึกของที่บ้าน ไม่ใช่ของเก๋ เป็นบ้านของผู้มีประคุณที่บ้านของครอบครัวเก๋ แล้วมีพาร์ตเนอร์ที่ร่วมลงทุนกันมาด้วยความเชื่อใจ ณ ตอนที่เราประกาศหาหุ้นส่วน มันก็ยังอยู่ในช่วงสิ่งสมมิอยู่ บางท่านอาจมองเห็นสิ่งสมมตินั้นเป็นสิ่งล่อ แต่ตอนนี้บางท่านอยู่ในความจริงแล้ว เก๋บอกความจริงว่าเราเริ่มนับศูนย์ไปด้วยกัน”
“ไม่มีเสี่ยออกให้ ไม่มีใครออกให้ทั้งสิ้น ของที่บ้านทางเราก็มีการเสียค่าเช่าให้ เพราะคลินิกเพิ่งเปิด ไม่ได้เกิดผลกำไรอะไรมากนัก เพราะต้องมีเงินหมุนเวียน เรื่องพาร์ตเนอร์ที่มาร่วมลงทุนกัน เขาต่างคนต่างเอาเงินเอาแรงมาช่วยกัน ทำให้คลินิกเกิดขึ้น ไมใช่เป็นของเก๋คนเดียว มันรวมหลายชีวิตที่นั่น”
เริ่มต้นชีวิตใหม่และจะจบกับมันที่นี่
“เป็นการเริ่มต้นค่ะ และเก๋จะจบกับมันที่นี่ด้วย เก๋ไปเรียนและบางเคสก็เข้าช่วยแพทย์ หน้าร้านดูแลทั้งหมดทุกอย่างทุกขั้นตอน รวมถึงการโปรโมตต่างๆ นานา ก็ทางถนัดเก๋อยู่แล้ว เก๋ก็เต็มที่ เก๋ไปเรียนผู้ช่วยพยาบาลที่บางกอกอินเตอร์แคร์ นอกจากเรียนจบเราก็ฝึกภาคปฎิบัติต่ออีก เราก็ช่วยแพทย์ได้ ตัวเก๋มีลูกน้อง ก็ช่วยวิ่งจับอะไรขาดเหลือ คลินิกอยู่เยื้องกับเซ็นทรัลอีสวิลต์”
ขอพูดครั้งสุดท้าย เชื่ออีกฝ่ายไม่ขุดคุ้ย เพราะถ้าขุดจะมีอีกหลายชีวิตขุดกลับด้วย
“ถ้าใครไม่จบก็แล้วแต่ แต่เก๋จะพูดที่นี่เป็นที่สุดท้ายและจะจบที่นี่ ใครจะขุดคุ้ยอะไรก็แล้วแต่ ตามสบาย หรืออีกฝ่ายฟังแล้วไม่โอเค ขุดต่อ แต่เก๋คิดว่าเขาไม่ขุดต่อ เพราะในใจลึกๆ เขารู้ว่าถ้าเขาขุด หลายๆ ชีวิตก็พร้อมจะขุดเขาเช่นกัน”
ไม่อยากให้ทำแบบนี้กับใครอีกทั้งที่รักจนหมดหัวใจ
“อยากขอบคุณที่เคยร่วมด้วยช่วยกันมา เก๋ไม่อยากให้ทำแบบเก๋กับใครอีก หรือกับเพื่อนๆ ที่เขารักคุณหมดหัวใจ แต่คุณพูดแต่เรื่องสมมติที่คุณคิดเอาเอง ฟุ้งเอาเอง ไม่มีอยู่จริง ให้กับทุกคน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของคุณให้ดูดี และเก๋ก็เคยเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้ภาพลักษณ์ดูดี แต่ ณ วันนี้เก๋ถอยออกมาและยอมรับความจริง และพร้อมอยู่กับความจริง เพราะความจริงคือสิ่งที่มีความสุขที่สุด”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)