“นนกุล” ตื่นเต้นเตรียมตัวจัดงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศฟิลิปปินส์ ลั่นเรียนจบแล้วมุ่งโฟกัสงานประเทศจีน ไม่เกี่ยวตนได้งานที่เมืองจีนจึงไม่ต่อสัญญาค่าย “นาดาว” บอกไม่สะดวกใจในเรื่องการดำเนินงานที่ล่าช้าของทางค่าย เพราะอีกฝ่ายมีศิลปินให้ดูแลเป็นจำนวนมาก เชื่อมั่นเป็นศิลปินอิสระจะมีงานมากขึ้น อยู่กับความสามารถของตนมากกว่า
โด่งดังไกลข้ามไปหลายประเทศจากภาพยนตร์เรื่อง “ฉลาดเกมส์โกง” เพียงเรื่องเดียว ในงานเก็บภาพบรรยากาศการอัดเสียงและถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ของ “กบ เสาวนิตย์ นวพันธ์” หนุ่ม “นน ชานน สันตินธรกุล” ก็ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนกำลังเตรียมตัวฝึกฝนการร้องเพลง เพื่อที่จะไปเอาใจแฟนๆ ในงานมีตติ้งที่ประเทศฟิลิปปินส์
“เร็วๆ นี้จะมีที่ฟิลิปปินส์ เป็นครั้งแรกครับ ผมไม่ได้เลือกว่าจะเป็นที่นี่แต่เขาเลือกเรา ก็คิดว่ามีฐานแฟนคลับที่นั่นอยู่ประมาณนึง ตอนนี้ก็เตรียมตัวอยู่ มีเตรียมเพลงไป ส่วนเรื่องเกมทางออแกไนซ์จะช่วยเราคิดเกม แล้วก็เตรียมของไปแจกของที่นั่น ส่วนตัวเราไม่คาดหวังอะไรเลย สุดท้ายแล้วจะจำนวนน้อยหรือมาก เขาก็เป็นคนที่รักเราเนอะ ขอแค่มีงานขึ้นมาเราก็ดีใจแล้วครับ ก็รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งครับ ด้วยความที่เราเป็นนักแสดง ยังไม่คุ้นชินกับการขึ้นไปอยู่บนเวที และก็การที่มีคนมากมายมองเราเหมือนเราต้องไปร้องเพลงกลางเวที และอีกอย่างก็เป็นต่างประเทศ เป็นประเทศที่เราไม่เคยไป”
เผยตอนนี้เรียนจบปริญญาตรีแล้วด้วยเกรดเฉลี่ย 3.00 หลังจากนี้มุ่งโฟกัสงานที่ประเทศจีน
“ตอนนี้ก็เรียนจบแล้ว เกรดเฉลี่ยก็โอเคครับ 3.00 พอดีเป๊ะ เราก็มีคุยอยู่เรื่อยๆ จัดสรรเวลาคิว พอเราต้องทำอะไรทุกอย่างด้วยตัวเองมากขึ้นก็ต้องรับผิดชอบมากขึ้น จริงๆ แล้วตอนแรกเราวางแพลนไว้ว่าถ้าเกิดสมมติไม่ได้รับโอกาสที่จีนหรือไม่มีมาเลย ก็วางแพลนจะไปเรียนที่อเมริกาให้ตรงสายไปเลย แต่สรุปว่าตอนนี้มีงานที่จีนเข้ามาบ้าง ก็เลยขอลุยตรงนี้ก่อน ตอนนี้ก็มีงานที่จีนเข้ามา เป็นงานทีวีซีรีส์ครับ ยังไม่ออนแอร์ น่าจะออนแอร์ช่วงพฤศจิกายนนี้ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็จะมีบินไปโปรโมตที่จีน”
“เป็นก้าวแรกครับ ยังไม่ได้เป็นตัวหลักอะไรมากมาย ถือว่าเป็นการเริ่มต้น นอกจากเรื่องนี้ก็มีเรื่องอื่นๆ ติดต่อเข้ามา แต่อยู่ในขั้นตอนคุยกันผ่านอีเมล ยังไม่ได้คอนเฟิร์มอะไรขนาดนั้น ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นแล้วกัน เราเพิ่งมีผลงานแรก ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจจะมีมากน้อยขนาดไหนในอนาคต เราก็คาดหวังกับที่นี่ไว้ประมาณนึง ก็ทำให้มันเต็มที่ทุกงาน เชื่อว่าถ้าเราทำเต็มที่ทุกงาน หวังว่าคนที่เขาทำงานร่วมกันกับเราเห็นเราแล้วอยากจะให้เรามีโอกาสมากขึ้น”
ยันไม่เกี่ยวตนได้งานที่ประเทศจีนแล้วจึงไม่อยากต่อสัญญาค่าย “นาดาว” เผยไม่สะดวกใจในเรื่องการดำเนินงานที่ล่าช้าของทางค่ายซึ่งอาจจะเป็นด้วยทางค่ายมีศิลปินให้ดูแลเป็นจำนวนมาก
“จริงๆ ไม่เกี่ยวเลยครับ มันเป็นเรื่องหมดสัญญามากกว่าครับ เราก็แค่รู้สึกว่าการที่เราเซ็นอะไรก็ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอะไร คือเราก็อายุ 22 ปีแล้ว ไม่ใช่หมดสัญญาปุบปับแล้วเซ็นต่อเลย คุณพ่อเขาค่อนข้างซีเรียสเรื่องข้อตกลงหรือสัญญา แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่กลับเข้าไป (ทางนาดาวให้สัมภาษณ์ว่าเสียด้ายเราเขายอมรับว่าเขาอาจจะขาดตกบกพร่องเลยไม่สามารถทำให้เราอยู่นาดาวต่อได้?) จริงๆ ส่วนตัวแล้วเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันมากมาย สุดท้ายมันเป็นเรื่อง...เรายอมรับส่วนหนึ่งว่า… อย่างเช่นทางนาดาวมีศิลปินประมาณ 40 ราย อันนี้ผมเข้าใจจริงๆ ระบบการทำงาน คนที่ดูแลศิลปินมี 10 คนแค่นั้นเอง มันเลยเป็นเรื่องปกติมากๆ ที่มันจะมีปัญหาเกิดขึ้นมา”
“คือทางนาดาวเขาก็ดูแลทั่วถึงแหละ มันไม่มีที่ไหนเพอร์เฟกต์เต็มร้อยอยู่แล้ว ซึ่งเราก็แค่รู้สึกว่าไม่เป็นไร เลยอยากขอลองออกมาดูแลตัวเองก่อน มันอาจจะมีความล่าช้าในการดำเนินงานต่างๆ บ้าง แต่ความต่อเนื่องของงานก็มีมาเรื่อยๆ ครับ ก็ยังไม่ได้คุยกับทางผู้ใหญ่เพราะว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่อยู่จีน คุณแม่อยู่ที่จีนกับผม คุณพ่อเลยบอกว่ารอให้กลับมาทีเดียว แล้วค่อยมาจัดการให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเข้าไปคุย คุณพ่อเป็นคนจัดการส่งจดหมาย มันจะมีข้อๆ นึงว่าถ้าเราไม่ได้แจ้งไปเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเรามันจะต่อไปโดยอัตโนมัติ ก็เลยคิดว่าหยุดไว้ก่อนแล้วกัน เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันแน่นอนครับ สามารถร่วมงานกันได้แน่นอนครับ ถ้าเกิดอยากให้ผมร่วมงาน”
ลั่นไม่เสียดายโอกาสที่จะรับงานหลากหลายจากค่าย “นาดาว” เชื่อขึ้นอยู่ที่ความสามารถของตนมากว่า
“จริงๆ สุดท้ายแล้วความหลากหลายของงานไม่เกี่ยวเลยนะว่าจะอยู่ในสังกัดหรือไม่อยู่รึเปล่า สุดท้ายแล้วมันขึ้นอยู่ทักษะของผมมากกว่าจะยอมรับกับความหลากหลายนั้นได้มากน้อยแค่ไหน”
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)