ผู้กำกับรุ่นเก๋า "ฉลองภักดีวิจิตร" ขึ้นศาลจังหวัดนนทบุรี คดีพิพาทกับพี่สะใภ้ภรรยา เรื่องค่าใช้จ่ายลงทุนทำหนัง"ทิวลิปทอง"มูลค่าความเสียหาย 30 ล้านบาท
เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 4 ก.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเช้านี้ได้มีผู้กำกับหนังภาพยนต์ชื่อดัง "อาฉลอง" ฉลอง ภักดีวิจิตร หรือ นายบุญฉลอง ภักดีวิจิตร อายุ 87 ปี พร้อมทนายความ เดินทางมาขึ้นศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี หลังตกเป็นจำเลยมีคดีพิพาทกับน.ส.ระวิสรา อินทรีย์ ซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์ผู้เสียหายและยังเป็นพี่สาวของ “เล็ก พิมพ์สุภัค” ภรรยาอาฉลองด้วย
ทั้งนี้ น.ส.ระวิสรา อินทรีย์ หรือ "ตู่" พร้อมด้วยนายสุเมธ อินทร์ทอง ทนายความยื่นฟ้อง “ฉลอง ภักดีวิจิตร” และ ภรรยา "เล็ก พิมพ์สุภัค" หลังน้องสาวชักชวนให้ร่วมลงทุนในการสร้างละคร “ทิวลิปทอง” แต่ก็ไม่วายเกิดปมขัดแย้งเรื่องการลงทุน ขึ้นหลังน.ส.ระวิสรา ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ บริษัท อินทรีย์ ออดิโอ วิชั่น จำกัด ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการแก้ไขบัญชีผู้ถือหุ้น โดยที่ นางสาว “ระวิสรา” ไม่ได้จำหน่ายจ่ายโอน
โดย น.ส.ระวิสราได้อ้างว่าเป็นคนลงทุนออกค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมดให้กับ ละครทิวลิปทอง และเป็นเจ้าของโดยแท้จริง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าตัว รู้สึกเสียใจมาก ส่วนที่ช่วยเพราะความที่อยากให้น้องได้ดี อยากให้มีอาชีพเป็นของตัวเอง ก็เลยลองมาลงทุนให้ และ ก็มีคำพูด คำหนึ่งที่ว่า ตนไม่ใช่เจ้าของบริษัทไม่มีส่วนร่วมเลย ตนค่อนข้างเสียใจที่จริงนามสกุลของพ่อก็คือ บริษัทอินทรีย์ อยู่แล้ว ตนก็อยากให้ บริษัทอินทรีย์ มาผงาดในวงการบันเทิง แต่ทำไปได้แค่เรื่องเดียว ก็เกิดปัญหาขึ้น
ล่าสุด น.ส.ระวิสรา อินทรีย์ พี่สาวได้เปิดเผยเพิ่มเติมในวันนี้ว่าทางศาลจังหวัดนนทบุรี ได้นัดตนและทางฝ่ายคู่กรณี(อาฉลอง)มาตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องคดีที่ตนเองได้เรียกค่าเสียหายไปเป็นจำนวนเงิน 30ล้านบาท โดยหากว่าทางฝ่ายคู่กรณียินยอมตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้ พร้อมทั้งลงขอโทษผ่านสื่อหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 15 วัน ตนเองก็พร้อมให้อภัยเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ ครอบครัว "อินทรีย์" ได้รับความเสียหายและเสียชื่อเสียงมามากพอแล้ว