เป็นคนในวงการบันเทิงถ้าชื่อเสียงไม่ค่อยมีคนรู้จักหรือถูกจดจำ แน่นอนว่ายอมไม่เป็นผลดี
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ดาราหลายคนที่ไม่มีผลงานให้พูดถึงจึงมักพยายามทำตัวเองให้เป็นข่าว โดยไม่สนว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวไม่ดี และโดยไม่สนว่าจะเป็นข่าวจริงหรือข่าวสร้าง!
ยกตัวอย่างไม่กี่เดือนก่อน หากใครยังจำกันได้ถึงเรื่องราวของนักร้อง-นักแสดงหญิงทายาทของคนในวงการบันเทิงที่มีข่าวภาพหลุดยืนกอดจูบกับหนุ่มในลานจอดรถกลางห้างก็ให้รู้ว่านั่นคือตัวอย่างหนึ่งของข่าวที่ถูกสร้างขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม มาถึงในยุค 4.0 นี้ต้องยอมรับว่าการเต้าข่าวแบบรู้กันระหว่างดารากับพีอาร์หรือดารากับนักข่าวนั้นดูเหมือนคนเสพข่าวส่วนใหญ่จะรู้ทันเสียแล้ว
ว่าแล้ว "คุณแม่ไฮโซลูกยังเล็ก" นางหนึ่งก็เลยเลือกวิธีที่แยบยลกว่าด้วยการทำทีเป็นโทรศัพท์ไประบายความอึดอัดกับคนรู้จักที่มีความสนิทสนมกับนักข่าวว่าตนเองมีปัญหากับสามีนักร้อง-นักแสดงดังหนักมาก พร้อมด่าอีกฝ่ายด้วยคำหยาบคาย ก่อนลั่นว่าเลิกแน่แม้จะต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ตาม
โดยจุดประสงค์ของเธอก็คือความหวังที่จะให้คนรู้จักนำเรื่องที่ว่าไปเล่าให้กับนักข่าวฟังอีกที ซึ่งแน่นอนหากนักข่าวได้ยินเรื่องนี้แถมสำทับด้วยคำยืนยันทำนองว่าก็เจ้าตัวเป็นคนโทรมาระบายด้วยตนเอง น้ำหนักแห่งความน่าเชื่อถือก็จะยิ่งทวีคูณ และในฐานะนักข่าวใครก็คงไม่ปล่อยให้ข่าวชิ้นนี้หลุดไป
แต่ทำไปทำมา สุดท้ายเรื่องมันดันมาโป๊ะแตก (ด้วยความบังเอิญที่ไม่สามารถบอกได้) ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องที่เจ้าตัวมโนขึ้นมาเองด้วยหวังจะให้คำระบายกลายเป็นกระแสข่าวขึ้นมา เพื่อที่ตนเองจะได้ถือโอกาสโฆษณาธุรกิจอาหารเสริมสุขภาพที่เกี่ยวกับบรรดาคุณแม่ๆ ทั้งหลายนั่นเอง
เอาเป็นว่าถ้าไม่โรคจิต เอ๊ย! ถ้าไม่อัจฉริยะจริงๆ คงคิดแบบนี้ไม่ได้แน่นอน