"ป๊าไปแล้วนะ"
ประโยคสุดท้ายที่นักแสดง-ผู้กำกับชื่อดัง "อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง" เอ่ยกับลูกสาวคนโต (บีบี เอกนรี วชิรบรรจง) ก่อนที่เจ้าตัวจะหมดสติคากองละครและถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 สิงหาคมท่ามกลางความตกใจของครอบครัวและคนใกล้ชิด
หลังเข้ารับการรักษามาอย่างต่อเนื่อง ถึงตอนนี้สภาพร่างกายจากอาการเส้นเลือตีบของนักแสดง-ผู้กำกับชื่อดังเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งสุดท้ายแม้จะต้องเข้ารับการทำกายภาพบำบัด แต่ทั้งคนในครอบครัว เพื่อนๆ รวมไปถึงคนที่มีโอกาสได้ติดตามผลงานต่างก็เชื่อว่าเจ้าตัวจะกลับมามีร่างกายที่แข็งแรงอีกครั้ง
"อ๊อฟ พงษ์พัฒน์" เกิดในครอบครัวที่มีทั้งบิดาและมารดารับราชการครู โดยหลังจากที่จบปริญญาตรี พลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒเจ้าตัวได้เข้าไปเป็นพนักงานที่บริษัทผลิตรองเท้ากีฬาแห่งหนึ่ง ดูแลงานในส่วนของฝ่ายผลิตภัณฑ์ทั้งงานผลิตและการตลาด
จากนั้นเส้นทางบันเทิงของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อได้สมัครไปร่วมแข่งขันรายการเกมโชว์ชื่อดังสมัยนั้นอย่าง "มาตามนัด" และ "พลิกล็อก" ก่อนคาแรกเตอร์จะไปเข้าตาทีมงานบริษัทเจเอสแอลกระทั่งถูกเรียกไปทดสอบการแสดงและมีโอกาสแสดงละครเรื่องแรกคือ "เมฆินทร์พิฆาต" ในปี พ.ศ. 2528
นับจากนั้นประตูวงการบันเทิงก็ได้เปิดรับผู้ชายคนนี้ โดยมีผลงานทั้งละครและภาพยนตร์ตามออกมาอีกมากมายกระทั่งถึงปัจจุบัน
แม้บทบาทที่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ได้รับนั้นจะเป็น "พระรอง" เป็นส่วนใหญ่ อาทิ เทวดาตกสวรรค์ (ธเนศ วรากุลนุเคราะห์), อวสานเซลส์แมน (ศรัณยู วงศ์กระจ่าง), โสมส่องแสง (ฉัตรชัย เปล่งพานิช), "ดีแตก" "ต้องปล้น" (อำพล ลำพูน) ฯลฯ แต่กระนั้นด้วยความสามารถและคาแรกเตอร์ที่มีเอกลักษณ์ก็ส่งผลให้เจ้าตัวโดดเด่ดไม่ได้น้อยไปกว่าตัวพระเอกแต่อย่างใด
เผลอๆ ในบางเรื่องอาจจะโดดเด่น โด่งดัง และถูกพูดถึงกว่าตัวพระเอก-นางเอกของเรื่องเสียด้วยซ้ำไป ซึ่งไม่ใช่แค่งานแสดงเท่านั้นที่ทำได้ดี หากแต่ผลงานในฐานะผู้กำกับของเขาก็มีรางวัลการันตีมากมายหลายเวทีเช่นกัน
ในช่วงที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ "อ๊อฟ พงษ์พัฒน์" ก็เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ถูกค่ายเพลงดังสมัยนั้นอย่าง "คีตา เอนเตอร์เทนเมนท์" ดึงไปเป็นศิลปินในสังกัด มีอัลบั้มแรกออกมาในปี 2531 โดยเพลงที่สร้างชื่อให้กับเจ้าตัวก็คือ "ตัวสำรอง"
ในระยะแรกๆ ของการเป็นนักร้อง อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ต้องถูกวิจารณ์ไม่น้อยในเรื่องของเสียงร้อง ซึ่งไม่ต่างอะไรจากนักร้องในยุคนั้นหลายคนที่ไม่ได้มาจากสายนักร้องโดยตรง หากแต่มาจากงานแสดงบ้าง รวมถึงนักกีฬาก็ยังมี
แต่ถึงแม้จะมีเสียงร้องที่ไม่ดีนัก ทว่ามันกลับลงตัวเป็นอย่างดีกับแนวทางของดนตรี เนื้อหาของบทเพลง รวมถึงบุคลิกการเป็นผู้ชายห่ามๆ พูดจาภาษานักเลงของเจ้าตัว ยืนยันได้จากงานเพลงของเขาที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องมากถึง 7 อัลบั้ม รวมไปถึงบทเพลงที่ได้รับความนิยมหลายต่อหลายเพลง
อันที่จริง เรื่องเสียงร้องนั้นเจ้าตัวก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร?
มีเรื่องเล่าเผากันในหมู่พรรคพวกเพื่อนๆ ที่สนิทกันอย่างสนุกสนานว่า ครั้งหนึ่งในงานแสดงดนตรีที่ลาน สวป. หน้าม.รามคำแหง (หนึ่งในสถานที่ยอดฮิตสมัยก่อนของนักดนตรี) หลังจากที่อ๊อฟขึ้นร้องเพลงเสร็จแล้วก็ได้เดินมาถามเพื่อนๆ หลังเวทีว่าตนร้องเพลงเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเพื่อนๆ ก็พร้อมใจกันตอบว่า "เพี้ยนทุกเพลงพี่"
เรื่องดังกล่าวทำเอาเจ้าตัวถึงกับฉุนและออกไปร้องเพลงชุดเดิมอีกรอบ ก่อนกลับมาหลังเวทีด้วยรอยยิ้มพร้อมคำถามเดิม "รอบนี้พี่ร้องเป็นไงวะ" ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือ "ยังเพี้ยนเหมือนเดิมพี่"
และนี่คือเศษเสี้ยวเรื่องราวของผู้ชายที่ชื่อ "อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง" ชายที่เชื่อว่าหลายคนคงอยากเห็นเจ้าตัวกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง
(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่https://mgronline.com/entertainment)