“อารีธา แฟรงคลิน” ที่สร้างความสุขให้กับแฟนเพลงด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ในตลอด 6 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 76 ปี หลังล้มป่วยหนักมาหลายวัน
ศิลปินที่ว่ากันว่าส่งอิทธิพลต่อนักร้องรุ่นหลังมากมายได้เสียชีวิตลงที่บ้านในดีทรอยต์ หลังล้มป่วยลงเพราะโรคมะเร็งตับอ่อนในเวลา 9:50 น. ของวันที่ 16 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีสมาชิกในครอบครัว และเพื่อนสนิทมาดูใจก่อนวินาทีสุดท้ายของชีวิต
อารีธา แฟรงคลิน คว้ารางวัลแกรมมีมาถึง 18 ครั้ง มากที่สุดคนหนึ่งในบรรดาศิลปินระดับตำนาน เธอโด่งดังด้วยเสียงร้องที่มีพลัง ใสเหมือนเสียงระฆัง และเต็มไปด้วยความรู้สึก จนสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ รุ่นแล้วรุ่นเล่า ด้วยผลงานหลากหลายแนวทั้งป็อป โซล และกอสเปล
“เป็นความเศร้าอย่างลึกซึ้ง และถึงที่สุดที่เราต้องมาประกาศว่า อารีธา หลุยส์ แฟรงคลิน ราชินีเพลงโซล ได้เสียชีวิตลงแล้ว” แถลงการณ์จากตัวแทนของครอบครัวกล่าว “นี่คือหนึ่งในวันที่มืดมิดที่สุดในชีวิตของพวกเรา จนไม่สามารถหาคำใดมาบรรยายความรู้สึกนี้ได้เลย เราสูญเสียปูชนียบุคคล ซึ่งกระทบต่อครอบครัวของเราอย่างจัง ความรักของท่านต่อลูกๆ หลาน ๆ และเหล่าญาติ ไม่เคยมีขีดจำกัดเลย”
โดยจะมีการประกาศถึงกำหนดวันจัดพิธีไว้อาลัย และพิธีศพในอีกไม่กี่วันข้างหน้าต่อไป ทางครอบครัวของอารีธา แฟรงคลิน ยังฝากข้อความถึงแฟนๆ ของเธอด้วยว่า ทุกคนในครอบครัวขอบคุณสำหรับ “ความรักอย่างล้นหลามจากทั่วโลก นับตั้งแต่วันที่มีข่าวว่า ท่านป่วยหนักเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้รับรู้ถึงความรักที่มีต่ออารีธา จนทำให้สบายใจว่า ตำนานของท่านจะยังคงอยู่ต่อไป”
ก่อนหน้านี้ สถาบันบันทึกเสียง เคยยกย่อง อารีธา แฟรงคลิน ว่าเป็นศิลปินที่ “ไม่มีใครเปรียบเทียบได้” และเป็น “เสียงที่ลึกซึ้งที่สุดในวงการดนตรี” เสียงร้องของเธอ “มีเอกลักษณ์ ผลงานยังน่าจดจำ และมอบจิตวิญญาณไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง”
ในปี 1987 อารีธา แฟรงคลิน ยังกลายเป็นศิลปินสตรีคนแรกที่ได้รับการบรรจุชื่อให้เข้าสู่หอเกียรติยศแห่งร็อกแอนด์โรลล์ ส่วน Rolling Stone ก็เคยจัดให้เธออยู่อันดับ 1 ใน 100 นักร้องที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล เหนือศิลปินชายและหญิงทุกคน
ตลอด 6 ทศวรรษของการร้องเพลง อารีธา แฟรงคลิน ได้มีส่วนร่วมในงานสำคัญต่างๆ มากมาย และเคยไปร้องเพลงในวันรับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของสหรัฐฯ ในสมัยของประธานาธิบดี บิล คลินตัน และ บารัค โอบามา ส่วนประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ก็กล่าวยกย่องอารีธา แฟรงคลิน ว่า “เป็นสตรีที่ยอดเยี่ยมที่สุด เสียงของเธอคือของขวัญที่ได้รับมาจากพระผู้เป็นเจ้า เราจะคิดถึงเธอแน่นอน”
ส่วนประธานาธิบดีคลินตัน และภรรยา ฮิลารี คลินตัน ที่เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ก็กล่าวยกย่องว่า แฟรงคลิน คือ “หนึ่งในสมบัติอันล้ำค่าของสหรัฐอเมริกา”
และทันทีที่ข่าวการเสียชีวิตของแฟรงคลิน ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างเป็นทางการ ศิลปินทุกรุ่นยังได้กล่าวไว้อาลัยให้กับการจากไปของเธอ ไม่ว่าจะเป็น พอล แม็คคาร์นีย์ ที่บอกว่า “เธอคือจิตวิญญาณของพวกเรา เราจะคิดถึงเธอ แต่ความทรงจำถึงความยอดเยี่ยม ทั้งในฐานะนักดนตรี และคนคนหนึ่งจะอยู่กับพวกเราไปตลอดกาล” ส่วนไดอานา รอส บอกว่า “ฉันกำลังนั่งเพื่อสวดให้กับจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของอารีธา แฟรงคลิน”
อารีธา แฟรงคลิน เกิดเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 1942 ที่ เมมฟิส เทนเนสซี ในครอบครัวที่พ่อเป็นครูสอนศาสนา และแม่เป็นนักเปียโน แต่ด้วยปัญหาในชีวิตคู่ ทำให้พ่อกับแม่แยกทางกันตอนที่แฟรงคลิน อายุแค่ 6 ขวบเท่านั้น เธออาศัยอยู่กับพ่อ โดยมีย่าเป็นคนเลี้ยงดู ก่อนที่แม่จะเสียชีวิตไปตอนที่แฟรงคลิน อายุ 10 ขวบพอดี
หลังแม่เสียชีวิต อารีธา แฟรงคลิน จึงเริ่มร้องเพลง และแสดงความโดดเด่นออกมาทันที จนพ่อพาออกทัวร์ไปแสดงยังสถานที่ต่างๆ และได้อัดแผ่นเสียงอัลบั้มแรก Songs of Faith ในปี 1956 จนเมื่ออายุ 16 ปี จึงได้ออกทัวร์ไปไปกับ ดร.มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ซึ่งในปี 1968 ดร.คิง ได้เสียชีวิตจากการถูกลอบสังหาร ซึ่งอารีธา แฟรงคลิน ยังได้เป็นคนร้องเพลงในพิธีศพของเขาด้วย
ในยุค 1960s อารีธา แฟรงคลิน จึงประสบความสำเร็จ และโด่งดังสุดขีด จนสามารถคว้ารางวัลแกรมมีตัวแรกมาครองได้ในปี 1967 ก่อนจะคว้าเกียรติยศต่างๆ มามากมาย จนเมื่อเดือน ก.พ. 2017 อารีธา แฟรงคลิน จึงได้ประกาศว่า เธอจะขอเกษียณตัวเองจากการทัวร์คอนเสิร์ตซะที แต่ในเดือน พ.ย.ปีก่อน แฟรงคลิน ก็ยังไปร่วมร้องเพลงในงาน AIDS Foundation ของเอลตัน จอห์น แม้จะดูเริ่มมีปัญหาสุขภาพ และร่างกายผ่ายผอมไปมากก็ตาม
อารีธา แฟรงคลิน มีปัญหาสุขภาพมานาน เธอเคยมีน้ำหนักตัวมาก และพยายามลดน้ำหนักหลายครั้ง จนส่งผลต่อร่างกาย แฟรงคลินยังมีปัญหาดื่มหนัก และสืบบุหรี่จัดด้วย จนเธอยอมรับว่า การสูบบุหรี่นั้นสร้างปัญหาให้กับเสียง และการร้องเพลงบ้างเหมือนกัน จนในปี 2003 แฟรงคลิน จึงเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ แต่ในปี 2011 กลับเริ่มมีข่าวว่า เธอตรวจพบมะเร็งตับอ่อน แต่สุดท้ายข่าวก็ระบุว่า เธอได้เสียชีวิตลงเพราะเนื้อร้ายจริงๆ
อารีธา แฟรงคลิน ยังเสียชีวิตวันเดียวกับเอลวิส เพรสลีย์ ที่จากไปในวันที่ 16 ส.ค. เหมือนกันด้วย โดยราชาแห่งร็อกแอนด์โรลล์ได้จากไปในวันที่ 16 ส.ค. ของปี 1977 จนอีก 42 ปีต่อมา ชาวอเมริกันก็ต้องพบกับเรื่องเศร้าอีกครั้งกับการเสียชีวิตของราชินีแห่งโซล