xs
xsm
sm
md
lg

60 ยังแจ๋ว! “จุ๋ม อุทุมพร” ปลูกต้นรักหนุ่มฝรั่งดีกรีนายแพทย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“จุ๋ม อุทุมพร” เผยแอบซุ่มคบหนุ่มฝรั่งดีกรีนายแพทย์ บอกกลัวคนมองอายุ 60 ปี แต่ยังอยากจะมีแฟน เผยครั้งหนึ่งเคยโดนคนใกล้ชิดทำเสียใจหนักถึงขั้นต้องพึ่งน้ำมนต์วัดล้างซวย

เรียกว่าหัวใจตอนนี้ไม่ว่างซะแล้ว สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ “จุ๋ม อุทุมพร” วัย 60 ปี ที่ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจถึงรักครั้งใหม่ผ่านรายการ คุยแซ่บ SHOW ทางช่อง ONE31 ว่าตอนนี้แอบซุ่มคบหนุ่มฝรั่งดีกรีนายแพทย์อยู่

“ตอนนี้ก็มีหนุ่มๆ ตามจีบ ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งทั้งนั้น ไทยคุยไม่รู้เรื่อง คือเขารู้จักเรามากเกินไป คนไทยซักเยอะจนไม่อยากจะตอบ เลยเป็นเพื่อนกันดีกว่า ส่วนคนที่เข้ามาจีบส่วนใหญ่จะจีบบนเครื่องบินทั้งนั้น ลงจากเครื่องไปก็มีแลกนามบัตร แลกอีเมลกันเพราะเป็นคนทำธุรกิจและเป็นเจ้าของกิจการเหมือนกัน”

“ใจเราอะมันลาออกจากวงการชีวิตคู่ไปแล้ว ไม่เหมาะกับการมีชีวิตคู่ เพราะเป็นตนตรงไม่ดัดจริต มีความจริงมากเกินไป ชีวิตคู่มันต้องอะลุ้มอล่วย แต่เราเป็นคนไม่ค่อยอะลุ้มอล่วยกับผู้ชาย ถามว่าเป็นเพราะเราทุ่มเทให้กับงานมากเกินไปหรือเปล่า จริงๆ ให้กับลูกด้วยนะ ลูกอันดับหนึ่ง บางครั้งเราคิดว่าเจอคนที่ใช่ พออยู่ๆ ไปมันไม่ใช่ แล้วมันไม่ใช่เพราะเขาด้วยนะ ไม่ใช่เพราะเราไปบอกว่าไม่ใช่ มันหมดความต้องการอยู่แบบคู่แล้ว มันทะนงตัวมากเกินไป อันนี้ไม่ดี”

เผยตอนนี้คบหนุ่มฝรั่งดีกรีนายแพทย์

“ก็มีคุยกับคุณหมอท่านหนึ่งอยู่ ตอนนี้เค้าอยู่อังกฤษ เป็นลูกครึ่งแขกกับฝรั่ง ชื่อ “โจ” ค่ะ เนื่องจากคุณหมอเขาเปลี่ยนประเทศบ่อย เราก็เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่เขาจะแชตมา ถามถึงโอกาสที่จะแต่งงานอีกครั้ง คงไม่ขนาดนั้นค่ะ วัย 60 แล้ว จะมาแต่งงานหรอ ก็คุยมาเกือบๆ 2 เดือนเอง ยังน้อยอยู่มาก ให้เวลาพี่อีกซัก 3-4 ปี นะ”

บอกกลัวคนมอง อายุ 60 ปี แต่ยังอยากจะมีแฟน

“กลัวค่ะ เพราะมันเป็นวัยทอง มันมีอะไรหลายๆ อย่างที่มันไม่ตอบโจทย์ของการมีคู่ ถามว่ากลัวแล้วทำไมยังเดินหน้าต่อ ก็อยากลองดูน่ะ คือกับคนอื่นนี่คบไปซักพักนี่เลิกไปเลย ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันก็ได้ พี่เป็นผู้หญิงแรงค่ะ”

สมัยก่อนนี่แซ่บมากเลยหรอ เห็นบอกว่าทำผู้ชายร้องไห้ทีเดียว 5 คน

“ก็มีแหละ มากกว่า 5 ก็มี (หัวเราะ) ก็เป็นช่วงวัยรุ่น วัยสนุก เป็นวัยที่มีชื่อเสียง เป็นนักแสดงแล้ว เขามาร้องไห้เองนะ ก็รถไฟชนกัน คนที่แพ้ก็ร้องไห้ บางทีเขาก็คิดเอาเองไง บางคนเขาประชดโดยการต่อยกำแพง ตบแก้ว พี่ไม่สนใจเลยนะ พี่หันมาคุยกับอีกคนเลย”

ลั่นครั้งหนึ่งเคยโดนคนใกล้ชิดทำให้เสียใจหนักมาแล้ว ถึงขั้นพรมน้ำมนต์

“ก็แม่บอกว่าโดนของ ก็ไปเชื่ออะไรเขา ไม่เชื่อคนในครอบครัวเลย เขาพูดคำไหนก็คำนั้น กลัวเขาโกรธ กลัวเขาดุไปหมด มันไม่ใช่ตัวตนเราเลย เปลี่ยนไปจนแม่จับความรู้สึกได้”

เผยชีวิตครอบครัวต้องแตกสลายเพราะความสุดโต่งของตัวเอง

“ตัวคนที่จะโดนกระทำไม่ระวังตัวอยู่แล้ว บางครั้งตัวเองทำงานเยอะแล้วไม่ทันระวังตัว คนที่จ้องจะทำร้ายมันก็ทำสำเร็จ ที่ผ่านมาพี่เป็นคนไม่ฟังคน คือการที่เขาพูดอะไรแล้วไม่ฟังเขา เขาจะดูไม่มีความหมายไปเรื่อยๆ เราเองก็จะไม่นับถือเขาไปเรื่อยๆ มันจะอยู่กันไม่ได้ ถ้าย้อนกลับไปได้ สมมติว่าสามีพี่ พี่อาจจะฟังเขามากกว่านี้ ให้ความนับถือเขามากกว่านี้ ให้เวลาเขามากกว่านี้ อย่าเสพติดความสำเร็จ อย่าริเริ่มธุรกิจอะไรให้มันมากเกินกว่าความเป็นภรรยาและความเป็นแม่นัก ถ้าพี่ลดความสุดโต่งของพี่ลง พี่จะมีความสุขมากกว่านี้”

เป็นไปได้มั้ยที่จะกลับไปสร้างครอบครัวตัวเองให้สมบูรณ์อีกครั้ง

“เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นเพื่อนสนิทกัน เราปรึกษากันได้ทุกเรื่องไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องลูกอย่างเดียว อยู่ในระดับนี้ดีแล้ว มีความสุขแล้วที่จะเจอกัน”

ยากมั้ยที่ลดระดับจากความเป็นคนรักมาเป็นเพื่อน

“มันยากตอนที่กำลังแตกกระจาย ไม่รู้จะรวมยังไงให้ติด เข้าหน้ากันก็ไม่ติด พูดจากันก็ไม่ดี อะไรนิดอะไรหน่อยก็หมดความอดทน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ไม่ชอบเลย แต่เราก็ต้องรับผิดชอบว่าส่วนนึงเป็นการกระทำของเราที่เราไม่ฟังเขาแล้วมันก็เกิดขึ้น”




กำลังโหลดความคิดเห็น